แด่ สตรี มุสลิมะฮ์ทั้งหลาย
โดย อับดุลวาเฮด สุคนธา
จงมองเรื่องแต่งตัวเป็นความฟุ่มเฟือยที่เป็นภัยอย่างลับๆ ภัยที่มาในรูปของสิ่งที่ดูดี หลายคนใช้เงินที่หามาทุ่มเทไปกับการทำร่างกายและเครื่องนุ่งห่มให้ดูดี ดูเด่น ดูน่าสนใจ เพราะต้องการสนองทั้งอบายมุข กามารมณ์ โลกธรรม และอัตตาของตัวเอง ซึ่งมันเสพทุกอย่างในเวลาเดียวกันโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น มุสลิมะฮ์ การแต่งกายของวัยรุ่นมุสลิมในปัจจุบันมักจะแต่งตัวเลียนแบบตามดารา เช่น การใส่โต๊บรัดรูป การคลุมฮิญาบ ใช้ผ้าพันหัวศรีษะ การแต่งใส่ชุดอาบายะฮ์ออกแนวแบบวับๆแวมๆ คลุมหัวตามกกระแสสังคม เพราะบางคนคิดว่าเป็นแฟชั่นแต่งไปแล้วคงจะดูดี สวย เท่ห์ ที่สำคัญไม่ได้คำนึงหลักคำสอนของอิสลามและ ขอบเขตของการแต่งตัวในกรอบของศาสนาที่ถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ศรัทธาทั้งหญิงและชายที่มีหลักการของศาสนาอิสลามแล้ว หัวใจของเขาจะต้องไม่หลุดออกจากวงโคจรของศาสนาที่ได้ยึดถืออยู่ อยู่ในครรลองของคำสอนของอิสลาม ความสวยความหล่อความงามเหล่านั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นประโยชน์กับชีวิต ถึงเราจะมองว่าความงามเหล่านั้นจะทำให้ชีวิตง่าย ทำงานสะดวก มีคนมาคบหา แต่แท้จริงแล้วสิ่งที่ทำให้ชีวิตดีขึ้น คือ การอีม่าน ศรัทธา การปฏิบัติอยู่ในกรอบของศาสนาอย่างเคร่งครัด
โอ้บรรดาสตรีมุสลิมะทั้งหลาย การแต่งตัวเพิ่มความงาม นั่นหมายถึงเธอกำลังเพิ่มการกระตุ้นกิเลสในผู้อื่น ยกตัวอย่างเช่นถ้าเราไม่แต่งตัวโป๊ เขาคงไม่มองเรา พอเราแต่งโป๊เข้าหน่อยผู้คนก็เข้ามาจีบเราจนต้อนรับกันไม่ทัน นั่นเพราะเราไปกระตุ้นอารมณ์ของเขา สิ่งนี้คือ การนำมาซึ่ง การทำลายเกียรติของกุลสตรี โดยเฉพาะการผิดประเวณี ซึ่งมีอย่างมากมาย ในสังคมไทยของเรานั้นเอง เพราะต้นเหตุก็พวกกิเลสหนาทั้งหมด
คำสอนของอิสลามบอกเรื่องการแต่งตัว ในการประดับตบแต่ง เพื่อความสวยงาม พระองค์อัลลอฮฺ ได้ทรงดำรัสว่า
“โอ้ ลูกหลานของอาดัมเอ๋ย แน่แท้เราได้ประทานอาภรณ์ลงมา แก่สูเจ้าทั้งหลาย
อันเป็นอาภรณ์ที่จะปกปิด อวัยวะพึงสงวนพวกสูเจ้า ตลอดจนเครื่องนุ่งห่ม ทั้งหลาย (อีกด้วย)”
(สูเราะฮฺอัล-อะอฺรอฟ 26)
ดังพระองค์กล่าวว่า
"และอย่าให้พวกนางเปิดเผยเครื่องประดับของพวกนาง"
(ซูเราะฮ์ อันนูร)
นั่นหมายความว่า ครอบคลุมทุกชนิดของการตกแต่ง และรวมถึงเสื้อผ้าที่มีการประดับ ทำให้สะดุดตาแก่เพศชายโดยตรง ซึ่งอัลลอฮ์ ทรงห้ามมิให้โชว์สัดส่วน ความงามของเรือนร่าง แต่กับเอาความสวยงามอีกอย่างหนึ่งมาเปิดแทนที่ เพราะอัลลอฮ์ ตรัสความว่า
"และจงอยู่ในบ้านเรือนของพวกเธอและอย่าได้โออวดความงาม (ของพวกเธอ)
เช่น การอวดความงาม (ของพวกสตรี) แห่งสมัยงมงายในยุคก่อน
และจงดำรงการละหมาด และจ่ายซะกาต และจงภักดีต่ออัลลอฮฺ และร่อซูลของพระองค์
อัลลอฮฺเพียงแต่ต้องการที่จะขจัดความโสโครกออกไปจากพวกเจ้า
โอ้สมาชิกของวงศ์ตระกูล (นะบี) เอ๋ย และทรง (ประสงค์) ที่จะขัดเกลาพวกเจ้าให้สะอาดบริสุทธิ์"
(ซูเราะฮ์ อัลอะหซาบ อายะฮ์ ที่ 33)
คำว่า (التبرج) อัตตะบัรรุจญ์ นั้นคือ การที่สตรีออกปรากฏตัว และโชว์ความงามของพวกนาง และยั่วยุให้ฝ่ายตรงข้ามเกิดอารมณ์ของสตรีนั้นถือเป็นบาปใหญ่
จากอบูฮุรอยเราะฮ์ กล่าวว่า ท่านเราะซูล ได้กล่าวว่า
"มีสองจำพวกของชาวนรก ซึ่งฉันยังไม่เห็นสองจำพวกนั้น พวกหนึ่งที่มีแซ่เหมือนหางวัว พวกเขาใช้ตีผู้คนทั้งหลาย
และสตรีแต่งกายไม่มิดชิด เดินโชว์สัดส่วนใส่เครื่องหอม ศรีษะของพวกนางเหมือนตะโหนกอูฐที่เอียง
นางเหล่านั้นจะมิได้เข้าสวรรค์ พวกนางจะไม่ได้กลิ่นของสวรรค์"
สรุปคือ
การฟุ่มเฟือยในการแต่งตัว ลงทุนไปเสริมความงาม ทั้งหญิงและชายมีมุมความงามในแบบของตัวเอง แต่สุดท้ายก็เหมือนกับการเสียเงิน เสียเวลาไปเพื่อลากสิ่งไม่ดีเข้ามาในชีวิตของตัวเองเท่านั้นเอง ที่สำคัญ ทำลายเกียรติของเขาเองและ ทำลายศาสนาในหลักคำสอนที่ดี
โอ้ บรรดาสตรีมุสลีมะทั้งหลาย จงปกป้องเกียรติของเธอด้วยกับการสวมใส่ผ้าฮิญาบที่ถูกต้องตามหลักศาสนา เพราะหลักคำสอนสาสนาอิสลามทำให้เธอมีเกียรติในการใช้ชีวิตอยู่อย่างดีงาม