สิ่งที่จะทำให้รอดพ้นจากฟิตนะฮฺ (ตอนที่1)

 

นำเสนอโดย อ.มาลิก โยธาสมุทร


 

จากข้อเขียนของ เชค อับดุลลอฮฺ บิน ญารุลลอฮฺ บิน อิบรอฮีม อาล ญารุลลอฮฺ สอุดิอาระเบีย
 

           ท่านนบี  ได้แจ้งให้ทราบว่า ในยุคสุดท้าย (آخر الزمان) จะเกิดฟิตนะฮฺขึ้นมากมาย หลากหลายชนิด และชนิดที่สำคัญที่สุด คือ การที่มุสลิมฆ่ากันเอง ทั้งๆที่อัลลอฮฺ ทรงห้ามการหลั่งเลือดระหว่าง พี่น้องมุสลิมด้วยกัน ทรงห้ามในทรัพย์สินของมุสลิมด้วยกัน และทรงห้ามในเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และชื่อเสียงของมุสลิมด้วยกัน

 

          ♦ ฟิตนะฮฺที่เป็นอันตรายที่สุด และร้ายแรงที่สุดอีกประการหนึ่งต่อพี่น้องมุสลิมก็คือ ฟิตนะฮฺในเรื่องของผู้หญิง ที่แต่งตัวอวดโฉม โป๊ เปลือย มีการปะปนกัน มั่วสุมกันระหว่างชาย – หญิง ในหมู่นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ สถานศึกษา สถานที่ราชการ บริษัท ห้างร้าน ศูนย์การค้า สถานที่ท่องเที่ยวสถานตากอากาศ ตลาด ร้านค้า ฯลฯ ซึ่งเป็นต้นราก และสาเหตุของการปะปนกัน มั่วสุมกัน นำไปสู่ฟิตนะฮฺ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการกระทำความชั่วช้า ลามก นั่นเอง

 

          ♦ ฟิตนะฮฺอีกชนิดหนึ่งก็คือ ฟิตนะฮฺแห่งอารมณ์ใคร่ใฝ่ต่ำ (الشهوات) และฟิตนะฮฺแห่งการคลุมเครือสงสัย (الشبهات) ซึ่งเป็นสาเหตุแห่งการทำให้ประชาชาติมุสลิม (الأمة) แตกแยกออกเป็น 73 จำพวก ซึ่งทั้งหมดล้วนอยู่ในนรกทั้งสิ้น นอกจากกลุ่มเดียวเท่านั้น ที่รอดพ้นจากไฟนรก นั่นก็คือ กลุ่มชนที่ยึดมั่นอยู่กับคัมภีร์ของอัลลอฮฺ คือ อัลกุรอาน และซุนนะฮฺของท่านนบีมุฮัมมัด  ทั้งในด้านวิชาการ การปฏิบัติ และหลักเชื่อมั่น พร้อมทั้งมีการเรียกร้อง เชิญชวนเช่นเดียวกับที่ท่านร่อซูล  และบรรดาซอฮาบะฮฺ ของท่าน ริฎวานุลลอฮิอะลัยฮิม ได้กระทำไว้ ทั้งหมด

          ♦ ฟิตนะฮฺอีกชนิดหนึ่งก็คือ ฟิตนะฮฺแห่งทรัพย์สินเงินทอง ทั้งในการแสวงหา รวบรวม สะสม และ การจับจ่ายใช้สอย

          ♦ ฟิตนะฮฺท้ายสุด และเป็นอันตราย เป็นพิษ เป็นภัยที่สุด ก็คือ ฟิตนะฮฺของ “อัลมะซีฮิดดัจญาล” โดยที่มันจะสั่งให้ฝนตกลงมาจากฟากฟ้า ด้วยอนุมัติของอัลลอฮฺ และสั่งให้พืชพันธุ์งอกเงยขึ้นมาจาก ผืนแผ่นดิน ด้วยอนุมัติของอัลลอฮฺ 

          สิ่งที่จะทำให้รอดพ้นปลอดภัยจาก “อัลดัจญาล” นั้น มีอยู่สี่ประการ ดังที่ท่านอิบนิ กะซี๊ร ได้ระบุไว้ ในหนังสือ “อันนิฮายะฮฺ” ของท่าน เล่มที่ 1 หน้าที่ 120 ดังต่อไปนี้

     1. การขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺ  ให้พ้นจากดัจญาล ดังที่ได้ถูกกำหนดให้กระทำ ในทุกเวลาละหมาด ภายหลังการกล่าว “ตะชะฮฺฮุด” ดังที่ท่านนบี  ได้กล่าวว่า

(( إِذَا تَشَهَّدَ أًحَدُكُمْ فَلْيَسْتَعِذْ بِاللهِ مِنْ أَرْبَعٍ يَقُوْلُ " أَعُوْذُ بِاللهِ مِنْ عَذَابِ جَهَنَّمَ وَمِنْ عَذَابِ القَبْرِ وَمِنْ فِتْنَةِ المَحْيَا وَالمَمَاتِ وَمِنْ فِتْنَةِ المَسِيْحِ الدَّجَّالِ " )) متفق عليه وأحمد

“เมื่อคนหนึ่งคนใดในพวกท่านอ่านตะชะฮฺฮุด ดังนั้น เขาก็จงขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺ ให้พ้นจากสี่ประการ ดังต่อไปนี้
ฉันขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺ ให้พ้นจากการลงโทษในนรกญะฮันนัม
ฉันขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺ ให้พ้นจากการลงโทษในกุโบร์
ฉันขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺ ในขณะการมีชีวิตอยู่ และในการตายไป
และฉันขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺ ให้พ้นจากฟิตนะฮฺของมะซีฮิดดัจญาล”

(บันทึกโดย อิมาม อัล บุคอรีย์ และอิมาม มุสลิม)

นี่คือ ดุอาอฺ ที่รวมการขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺ  ให้พ้นจากฟิตนะฮฺทั้งหลาย ทั้งปวง ทั้งที่เปิดเผย และไม่เปิดเผย

     2. การท่องจำ และอ่าน สิบอายาต จากซูเราะฮฺ อัลกะฮฺฟิ

     3. การปลีกตัวออกห่าง และไม่เข้าไปหามัน

     4. การไปพำนักอยู่ที่มักกะฮฺ และมะดีนะฮฺ เพราที่เมืองทั้งสองนั้น มีมลาอิกะฮฺเฝ้ารักษาอยู่ ดังนั้น ดัจญาลจะไม่เข้าไปในเมืองทั้งสอง

          ผู้เป็นบ่าวของอัลลอฮฺ  ทั้งหลาย ผู้ที่บอกแจ้งถึงการเกิดฟิตนะฮฺ ก็ได้ชี้แนะถึงสิ่งที่จะทำให้รอดพ้นจากฟิตนะฮฺดังกล่าว เริ่มต้นด้วยกับการปฏิบัติตามกิตาบุลลอฮฺ และซุนนะฮฺของท่านนบี ดังที่ท่านนบี  กล่าวว่า

(( وَإِنِّي تَارِكُ فِيْكُمْ مَا إِن اعْتَصَمْتُمْ بِهِ لَنْ تَضِلُّوْا كِتَابَ اللهِ وَسُنَّةَ نَبِيِّهِ )) رواه الحاكم

“แท้จริง ฉันได้ทิ้งไว้ให้กับพวกท่านสองสิ่งด้วยกัน หากพวกท่านยึดไว้ให้มั่น ก็ไม่มีวันที่พวกท่านจะหลงทางเป็นอันขาด

นั่นก็คือ กิตาบุลลอฮฺ และซุนนะฮฺของนบีของพระองค์”

 (บันทึกโดย อัล ฮากิม)

          ♥ สิ่งที่จะทำให้รอดพ้นจากฟิตนะฮฺอีกประการหนึ่งก็คือ การใช้กันให้ทำความดี และการห้ามปรามกัน มิให้ทำสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม ซึ่งเปรียบเสมือนสำเภาแห่งความสำเร็จ รอดพ้น

          ♥ และที่สำคัญก็คือ การขอดุอาอฺต่ออัลลอฮฺ  ให้ห่างไกลจากร่มเงาของฟิตนะฮฺ ที่แผ่ขยายออกไป ดังนั้น อย่าได้ขอความคุ้มครองเฉพาะแต่ฟิตนะฮฺทั่วๆไปเลย เพราะทรัพย์สิน เงินทอง และลูกหลานนั้น ก็นับว่าเป็นส่วนหนึ่งจากฟิตนะฮฺด้วยเช่นกัน ดังดำรัสของอัลลอฮฺ  ที่ว่า

“แท้จริง ทรัพย์สมบัติของพวกเจ้า และลูกหลานของพวกเจ้านั้น นับเป็นสิ่งทดสอบ (ฟิตนะฮฺ)”

(อัตตะฆอบุน 64 : 15)

          ♥ สิ่งที่จะทำให้รอดพ้นจากฟิตนะฮฺอีกประการหนึ่งก็คือ การศรัทธาที่สัตย์จริง (الإيمان الصادق) การกระทำที่ดีงาม (العمل الصالح) การมีจิตใจบริสุทธิ์ต่ออัลลอฮฺ   (الخالص لله) การกระทำที่สอดคล้องกับซุนนะฮฺของท่านนบี    (الموافق لسنة نبيه ) ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ถ้าผู้ใดนำไปปฏิบัติ เขาก็จะมีชีวิตเป็นอยู่ที่ดี จิตใจสงบ ปลอดโปร่ง ใช้ชีวิตอย่างดื่มด่ำอยู่กับการทำอิบาดะฮฺ พึงพอใจในริซกีย์ที่ได้รับ นับเป็นการปกป้องคุ้มกันให้พ้นจากฟิตนะฮฺ

         ♥ สิ่งที่จะทำให้รอดพ้นจากฟิตนะฮฺ อีกประการหนึ่งก็คือ การสารภาพผิด กลับเนื้อกลับตัวต่อ อัลลอฮฺ  (التوبة إلى الله ) จากความผิดทั้งหลาย ทั้งปวง ในทุกเวลา และโอกาส และการขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺ  อยู่เสมอ

          ♥ สิ่งที่จะทำให้รอดพ้นจากฟิตนะฮฺอีกประการหนึ่งก็คือ การเกรงกลัวอัลลอฮฺ  เป็นเนืองนิตย์ ด้วยการกระทำตามที่พระองค์ทรงมีบัญชาใช้อย่างเต็มที่ และห่างไกลจากสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม และรำลึกถึง อัลลอฮฺอย่างมากมาย เพราะอัลลอฮฺ  นั้น ทรงสูงส่ง ทรงคุณค่า คู่ควร แก่การรำลึกถึง และให้มอบหมาย (توكل) ต่อพระองค์ ผู้ทรงยังประโยชน์ และทรงขจัดโทษให้พ้นภัย ดังดำรัสของพระองค์ที่ว่า

“และผู้ใดมอบหมายแด่อัลลอฮฺ ดังนั้น พระองค์ทรงเป็นที่พอเพียงแล้วสำหรับเขา” 

(อัฏเฏาะล๊าก 65 : 3)

เป็นการพอเพียงแก่เขาแล้ว ในเรื่องศาสนาของเขา ทั้งในดุนยา และ อาคิเราะฮฺ

وصلى الله على نبينا محمد وعلى آله وصحبه

ที่มา อัลอิศลาห์ สมาคม บางกอกน้อย