อะบายะฮฺโมเดิร์น
เชคสุลัยมาน อั้รรุฮัยลี่
คำถาม
ผมเป็นพ่อค้าเสื้อผ้าครับ พอดีผมเคยขายเสื้อผ้าบางประเภทซึ่งเคยมีคนมาทักผมไว้ บอกว่ามันฮะรอมห้ามขาย มันคือ ชุดโต้บ เป็นชุดโต้บหรือชุดอะบายะฮฺที่มีการเอาเม็ดกระดุม(หรือเม็ดลูกปัด)มาเย็บตกแต่งเอาไว้ หรือมีการปักลวดลายประดับประดาไว้ที่ตัวชุด ซึ่งตอนนั้นผมไม่ทราบว่ามันฮะรอม ก็อั้ลฮัมดุลิ้ลลาฮฺ ตั้งแต่ตอนนั้นผมก็เลิกเลย ประเด็นคือ ฮูก่มของเงินที่ผมหามาได้จากการขายเสื้อผ้าประเภทนี้ มันคืออะไรครับ ? และคงต้องเรียนให้ทราบไว้เป็นข้อมูลเบื้องต้นด้วยนะครับว่า เงินนี้ บางส่วนผมเอามันไปสร้างบ้านเรียบร้อยแล้ว และอยากทราบว่า ตกลงแล้ว โต้บที่มีการปักลูกปัดประดับเอาไว้ หรือ อะบายะฮฺที่มีการปักลวดลายเอาไว้นี่มันฮะรอมห้ามเอามาขายใช่หรือไม่ครับ ?
คำตอบ
อะบายะฮฺที่มีการปักลวดลายมันไม่ใช่อะบายะฮฺนะ มันคือ การอวดโฉมโชว์ความงามต่างหาก และเป็นเรื่องน่าเศร้าอยู่เหมือนกัน ที่พวกศัตรูของพวกเรา เมื่อพวกมันเห็นว่าบรรดาสตรีของพวกเราสวมใส่อะบายะฮฺกัน พวกมันก็พยายามใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อเข้ามาดึงพวกเธอออกจากอะบายะฮฺนี้ ด้วยการหยิบยื่นอะบายะฮฺ ที่พวกมันเรียกกันว่า “อะบายะฮฺโมเดิร์น” เข้ามาให้
พวกมันเข้ามาปักลวดลายประดับประดาให้อะบายะฮฺนี้ เข้ามาบ่อนทำลายอะบายะฮฺ จนกลายเป็นว่าชุดอะบายะฮฺของสุภาพสตรีของพวกเราหลายคนกลับกลายที่จะต้องให้มีอะบายะฮฺอีกหลายๆผืนมาคลุมทับไว้ หรือบางทีอาจจะเป็นไปได้ว่า ชุดที่ใส่อยู่ข้างในอะบายะฮฺยังจะดูเป็นการโชว์ความงามน้อยกว่า ชุดอะบายะฮฺที่ใส่คลุมอยู่เสียอีก
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นหน้าที่ของบรรดาผู้ปกครองที่จะต้องตระหนักในเรื่องนี้เอาไว้ให้ดี และก็เป็นหน้าที่ของบรรดาสุภาพสตรีที่มีเกียรติของพวกเรา ที่จะต้องตระหนักและรับรู้ไว้ให้ดีว่า จุดมุ่งหมายของชุดอะบายะฮฺคือ เพื่อใช้สำหรับปกปิดความงาม ไม่ใช่ใช้ให้มันมาเป็นชุดที่สวย เพื่อให้ผู้หญิงเอามาใส่โชว์สวยต่อกัน
ดังนั้น ชุดหรือเสื้อผ้าของสตรีที่มันมีการโชว์ความงาม ใส่แล้วสวยใส่แล้วดูดี อันนี้ไม่อนุญาตให้ขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุดที่เอาไว้ใส่อยู่ชั้นนอกสุด คือ หมายความว่า ไม่ใช่ชุดที่สามารถบอกได้ว่า เป็นชุดที่เอาไว้ใส่อยู่ที่บ้าน เหมือนในคำถามที่ผ่านมาที่เกี่ยวกับชุดบางชุดหรือเสื้อผ้าบางอย่าง ซึ่งทางเราได้ทำการให้คำตอบไปเรียบร้อยแล้ว
สำหรับคนที่เขาเคยขายชุดประเภทนี้โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่ามัน ฮะรอม แต่พอได้รู้ว่ามันฮะรอมเท่านั้น เขาก็ละทิ้งเลย เลิกเลย ซึ่งคนเราเวลาที่ไปตกลงทำสัญญาอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นสัญญาฮะรอม เป็นสัญญาที่ศาสนาห้าม โดยที่ตัวเองไม่รู้ว่ามันฮะรอม แล้วปรากฏว่าตัวเองก็ได้รับผลประโยชน์และได้รับเงินมาจากสัญญาๆนั้น แต่แล้วในภายหลังถึงค่อยมารู้อีกทีว่า มันฮะรอม ในกรณีแบบนี้สัญญาที่เคยตกลงทำไปไม่ถือว่าเสีย เงินที่ได้มาก็ไม่ได้เป็นเงินฮะรอม แต่เป็นเงินฮะล้าลถ้ามันเป็นการทำไปโดยไม่รู้และเมื่อได้รู้แล้วก็หยุด แต่ถ้าหลังจากที่ได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้วแต่ก็ยังจะทำอย่างนั้นต่อไป กรณีนี้ เงินที่ได้มาหลังจากนี้ก็ถือเป็นเงินฮะรอม
พอดีเคยมีคนมาหาผมแล้วมาบอกผมว่า เชคครับ ผมเคยขายบุหรี่ หรือไม่ก็ประมาณว่ามาบอกว่า ตอนที่ผมอยู่ที่ประเทศของผมนะครับ ผมเคยขายบุหรี่ ซึ่งคอเต็บและคนที่เขาเรียกกันว่าเป็นนักวิชาการ ส่วนใหญ่บอกกับพวกเราว่า ฮุก่มขั้นสุดๆของบุหรี่มันก็แค่มักโระฮฺ มิหนำซ้ำ พวกเชคๆของพวกเราบางคนยังพกไว้ด้วย คือ คนๆนั้นเขาบอกนะครับ เขาเป็นคนพูด เขาบอกว่า พวกเชคบางคนของพวกเรายังพกไว้ในกระเป๋าเสื้อเลย
เขาบอกว่า ผมเคยเป็นพ่อค้าขายบุหรี่ครับ และผมก็ได้เงินมากมายมาจากการค้าขายสิ่งนี้ ผมสร้างบ้าน ผมมีรถ และผมก็ส่งลูกเรียน แต่พอผมได้เรียนรู้จากบรรดาเชคชาวซุนนะฮฺว่า การสูบบุหรี่มันฮะรอม และการขายบุหรี่มันฮะรอม ผมก็เลิกเลย ผมทิ้งเลยครับ เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว เงินของผมที่เคยได้มาก่อนหน้านี้จะมีฮุก่มอย่างไรครับ ?
เชคตอบว่า ตราบใดที่คุณทำไปโดยไม่รู้ว่าฮุก่มของเรื่องนั้นมันคืออะไร ของที่ผ่านไปแล้วทั้งหมดก็ให้ถือว่ามันคือของๆคุณ และตามบทบัญญัติแล้วคุณก็ไม่จำเป็นจะต้องไปตามสะสางอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย แต่หน้าที่ของคุณก็คือ ช่วงเวลาต่อจากนี้ไปคือ คุณต้องไม่ไปขายเจ้าบะลาอฺตัวนี้อีก
อาบีดีณ โยธาสมุทร บันทึกและถอดเทป /แปล/เรียบเรียง