อย่ามองเรื่องใหญ่เป็นเรื่องเล็ก
  จำนวนคนเข้าชม  3077


อย่ามองเรื่องใหญ่เป็นเรื่องเล็ก


 

โดย....อ. ฏอฮา อับดุลเลาะห์


عَنْ أَنَس رَضِيَ اللهُ عَنْهُ قَالَ: ) إِنَّكُمْ لَتَعْمَلُوْنَ أَعْمَالاً هِيَ أَدَقُّّ فِيْ أَعْيُنُكُمْ مِنَ الشِّعْرِ ، كُنّاَ نَعُدُّهَا عَلَى عَهْدِ رَسُوْلِ اللهِ صَلَّى اللهِ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ مِنَ الْمُوْبِقَاتِ ( . (رواه البخاري) 

 

มีรายงานจากท่านอนัส ร่อฎิยัลลอฮุนฮฺ กล่าวว่า
 

 "แน่นอนพวกท่านทั้งหลาย จะกระทำงานต่างๆ ซึ่งในสายตาของพวกท่านแล้ว มันเล็กยิ่งกว่าเส้นผมเสียอีก 
 

(แต่) พวกเรา (เหล่าศ่อฮาบะฮฺ) เคยอยู่สมัยของท่านร่อซูล  ถือว่างานเหล่านั้น มันเป็นส่วนหนึ่งจากสิ่งที่ทำให้เกิดความพินาศ" 

 

(บันทึกโดย ท่านอิมาม อัลบุคอรีย์)  

คำอธิบาย

 


          อนัส อิบนุ มาลิก ท่านเป็นคนที่มีอายุยืนคนหนึ่ง ท่านได้มีชีวิตอยู่หลังจากที่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้จากโลกนี้ไปแล้วประมาณ ๙๐ ปี ท่านได้เล็งเห็นว่า เรื่องราวต่างๆในสมัยของท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก และสภาพความเป็นอยู่ของคนก็แตกต่างกันไป จนทำให้ผู้คนเหล่านั้นกลายเป็นคนเกียจคร้าน ไม่กระตือรือร้นกับกิจกรรมบางประการ ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เหมือนในสมัยของบรรดาศ่อฮาบะฮฺ ร่อฏิลัลลอฮุอันฮุม 


          อาทิเช่น การทำละหมาดญะมาอะฮฺ ซึ่งในหมู่ศอฮาบะฮฺจะไม่มีผู้ใดเลย แม้แต่คนเดียวที่เคยหลบเลี่ยงการทำละหมาดญะมาอะฮฺ นอกจากพวกมุนาฟิก หรือคนป่วยที่ได้รับการผ่อนผันเท่านั้น แต่ผู้คนที่มาหลังจากบรรดาศ่อฮาบะฮฺ ทำเป็นหละหลวมทำเป็นเบาความกับสิ่งที่ต่างๆ เหล่านั้น พวกเขาไม่ได้กระทำอย่างจริงจังเหมือนอย่างที่บรรดาศ่อฮาบะฮฺ ได้กระทำกัน ในสมัยของท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม 


          ยิ่งไปกว่านั้น ผู้คนในยุคเราสมัยนี้ กลายเป็นคนเกียจคร้าน ละเลยไม่ใสใจต่อการละหมาด เวลาเสียด้วยซ้ำไป ไม่ใช่เพียงการทำละหมาดญะมาอะฮฺเท่านั้น บางคน อาจจะไม่ได้ทำละหมาดเลย หรือบางคนมีการทำละหมาดบ้าง และมีการละทิ้งบ้างเป็นบางเวลา หรือบางคนปล่อยเวลาให้เนิ่นนานออกไปจนใกล้จะหมดเวลา ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆสำหรับผู้คนบางคน แต่เรื่องเหล่านี้ในสมัยของท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และในสมัยของบรรดาศ่อฮาบะฮฺแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องหนึ่งที่จะก่อให้เกิดความพินาศ และการฉ้อฉล 

          เช่นเดียวกัน ในสมัยท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ถือเป็นเรื่องที่จะก่อให้เกิดความวิบัติ ความหายนะแก่ผู้กระทำ ดังที่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า

 
 "مَنْ غَشَّ فَلَيْسَ مِنِّي".(أخرجه مسلم)
 

  “ผู้ใดฉ้อฉล คดโกง เขาผู้นั้น มิใช่ผู้ที่ดำเนินตามแนวทางของฉัน” 

(บันทึกโดย ท่านอิมามมุสลิม) 

          แต่ถ้าหากท่านพิจารณาดูสภาพของผู้คนทุกวันนี้ ท่านก็จะพบว่า พวกเขาเหล่านั้น เห็นเรื่องฉ้อฉล เรื่องการคดโกงเป็นเรื่องง่ายๆ ยิ่งไปกว่านั้น บางคนถือเป็นเรื่องของความฉลาด เป็นเรื่องของไหวพริบของการซื้อขายและการทำสัญญาที่จะต้องมี และยังมองว่าเป็นเรื่องความฉลาดเฉลียว และมีฝีมือ มีชั้นเชิงดี ทั้งๆที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แสดงตัวบริสุทธิ์ไม่ยุ่งเกี่ยวกับบุคคลที่ฉ้อฉล และคดโกงอย่างชัดแจ้งอยู่แล้ว 


          และเช่นเดียวกัน การพูดเท็จ หรือการพูดโกหกนั้นเป็นเรื่องใหญ่โตมาก ในสมัยของศ่อฮาบะฮฺร่อฎิยัลลอฮุอันฮุม พวกท่านเหล่านั้นเห็นว่า การพูดเท็จเป็นบาปที่จะนำไปสู่ความหายนะ แต่ทว่า การพูดเท็จในความรู้สึกของคนไม่ใช่น้อย ถือว่าเป็นเรื่องง่ายๆไม่สำคัญอะไร เพราะฉะนั้น ท่านจะพบเห็นผู้คนพูดโกหก โดยไม่สนใจกับการโกหก ทั้งๆที่ท่าน นบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า  


"لاَ يَزَالُ الرَّجُلُ يَكْذِبُ وَيَتَحَرَّى الْكَذِبَ حَتَّى يُكْتَبَ عِنْدَ اللهِ كَذَّاباً" .(أخرجه أحمد) . 
 

“คน ๆ หนึ่งยังพูดจาโกหกไม่สิ้นสุด และยังแสวงหาการโกหก จนกระทั่งเขาถูกบันทึกไว้ให้เป็นจอมโกหก ณ ที่อัลลอฮฺ” 

(บันทึกโดย ท่านอิมามอะหฺมัด)


            บางทีคนโกหก เขาจะโกหกในหลายๆ เรื่อง ที่อันตรายที่สุด แม้เขาจะปฏิเสธสิทธิของคนอื่น ที่มีอยู่ที่ตนก็ตาม หรืออ้างสิทธิของผู้อื่นว่าเป็นของตน ถึงกับฟ้องร้องผู้คนต้องขึ้นศาลจนเป็นคดีความ และกล้าที่จะสาบานต่ออัลลอฮฺ  ในสิ่งที่ตัวโกหก ซึ่งแน่นอนเขาจะต้องกลับไปพบกับอัลลอฮฺ  และพระองค์จะทรงโกรธกริ้วเขาอย่างมาก และยังมีอีกที่เกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ที่บรรดาศ่อฮาบะฮฺ ถือว่าเป็นเรื่องที่จะนำไปสู่ความหายนะ และความวิบัติ  


           แต่...ในสายตาของผู้คนในยุคหลังๆนี้ มองต่างกับศ่อฮาบะฮฺ ประเด็นปัญหาเหล่านั้น กลายเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ มันเล็กเสียยิ่งกว่าเส้นผม ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า เมื่อใดก็ตามที่ความศรัทธาเข้มแข็ง เรื่องความชั่วร้าย ก็จะเป็นเรื่องใหญ่โตสำหรับผู้คน และเมื่อใดที่การศรัทธาต่ออัลลอฮฺอ่อนแอลงอย่างมาก เมื่อนั้น ความชั่วร้าย การฝ่าฝืนต่ออัลลอฮฺ ก็จะเป็นเรื่องเล็กน้อยในหัวใจของผู้คน และเห็นว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆไม่มีความสำคัญอะไรมากมาย จึงปล่อยปละละเลยทำเป็นไม่สนใจ ทั้งๆ ที่เป็นหน้าที่จะต้องปฏิบัติ เขาไม่แคร์ที่จะฝ่าฝืนต่ออัลลอฮฺ  เพราะการอีมาน การศรัทธาของเขาอ่อนแอนั่นเอง



มูลนิธิ ชี้นำสู่สันติสุข