คุณลักษณะของคอวาริจญ์
เขียนโดย อิสมาอีล กอเซ็ม
มวลการสรรเสริญเป็นเอกสิทธิ์ของอัลลอฮ์ ผู้อภิบาลแห่งสากลโลก
ปัจจุบันมุสลิมเราคงได้ยินคำว่า คอวาริจญ์ แต่ส่วนมากก็มักเข้าใจว่า คอวาริจญ์ คือ กลุ่มคนที่ออกจากท่านอะลี รอฎิยัลลอฮูอันฮู เพียงกลุ่มเดียว ถึงแม้กลุ่มคอวาริจญ์จะเกิดขึ้นในยุคของท่าน อะลี รอฎิยัลลอฮูอันฮู แต่ใช่ว่าหลักความเชื่อของพวกเขาจะหมดไป หลักความเชื่อแนวคิดของคอวาริจญ์ยังคงกระจัดกระจายในกลุ่มคนหลายๆกลุ่ม และบางกลุ่มอาจจะรับบางส่วนของแนวคิด คอวาริจญ์ ซึงปัจจุบันได้มีการนำชื่อนี้มาเรียกแก่กลุ่มต่างๆ ถูกบ้างไม่ถูกบ้าง ดังนั้นเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องเราต้องกลับไปหาคุณลักษณะของพวกเขาในตัวบทต่างๆ
ตัวบทที่กล่าวถึงคุณลักษณะของ อัลคอวาริจญ์
1. คุณลักษณะของพวกเขา คือ อายุน้อย โดยที่ในกลุ่มของพวกเขาไม่ค่อยมีผู้อวุโสที่มีความรู้และประสบการณ์
ดังคำพูดของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮูอะลัยอิวะสัลลัมได้กล่าวว่า (حُدَثَاءُ الْأَسْنَانِ)
ท่านอาฟิส อิบนูหะญัรได้อธิบายประโยคนี้ว่า บุคคลที่มีอายุน้อย
2. มีความเขลา ขาดความเข้าใจ (ในบทบัญญัติ) โดยคำพูดของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮูอะลัยอิวะสัลลัม
"จะมีกลุ่มชนหนึ่งปรากฏในช่วงใกล้วันกิยามะห์ กลุ่มคนมีอายุน้อย และมีความเขลา(ขาดความเข้าใจในบทบัญญัติ)"
3. มีความภาคภูมิใจในตัวเอง คิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น และคิดว่าการกระทำของตัวเองดีกว่าคนอื่นๆ เลยเป็นเหตุให้พวกเขาแสดงออก ซึ่งการหยิ่งยโสแก่ปวงบ่าวของอัลลอฮฺ
"แท้จริงในหมู่พวกเจ้า มีกลุ่มชนหนึ่งพวกจะทำการอิบาดะห์ และทุ่มเทอย่างมาก จนกระทั่งผู้คนได้ชื่นชมแก่พวกเขา
และพวกเขาก็ชื่นชมแก่ตัวของพวกเขา แต่ว่าพวกเขากำลังออกจากศาสนา เหมือนกับดอกธนูที่ออกจากคันธนู"
ด้วยเหตุนี้ทำให้พวกเขาทำตัวเหมือนผู้ที่มีความรู้ และลบหลู่เกียรติของบรรดาผู้รู้ โดยความเข้าใจของพวกเขานั้นไม่ได้กลับไปหาตัวบทและกลับไปหาบรรดาผู้ที่มีความรู้ และพวกเขาไม่ค่อยสนใจไปหาความรู้จากผู้รู้ ปัจจุบันมีคนหนุ่มจำนวนไม่น้อยที่อาศัยการศึกษาด้วยตัวเอง หาความรู้เฉพาะจากอินเตอร์เน็ตไม่มีการไปรับความรู้จากบรรดาผู้รู้ และเมื่อสงสัยอะไรก็ไม่ได้ถามข้อสงสัยแก่ผู้รู้อาศัยการทำความเข้าใจด้วยกับตัวเองจึงทำให้เกิดความเข้าใจผิดในตัวบททางศาสนา
4. พวกเขามีความขยันขันแข็งในการทำอิบาดะห์ ไม่ว่าจะเป็นการละหมาด ถือศีลอด การรำลึกถึงอัลลอฮฺ การอ่านอัลกรุอ่าน และอื่นนอกเหนือจากนี้ และด้วยกับการที่พวกเขาทำอิบาดะห์มากทำให้พวกเขานั้นหลงคิดว่าพวกเขาดีกว่าคนอื่น คุณลักษณะของพวกเขาประเด็นนี้ที่ถูกกล่าวไว้ในอัซซุนนะห์
(لَيْسَ قِرَاءَتُكُمْ إِلَى قِرَاءَتِهِمْ بِشَيْءٍ، وَلَا صَلَاتُكُمْ إِلَى صَلَاتِهِمْ بِشَيْءٍ، وَلَا صِيَامُكُمْ إِلَى صِيَامِهِمْ بِشَيْءٍ)رواه مسلم
"การอ่านของพวกเจ้าไม่ใช่การอ่านของพวกเขา
และการละหมาดของพวกเจ้าไม่ใช่การละหมาดของพวกเขาแต่อย่างใด
และการถือศีลอดของพวกเจ้าไม่ใช่การถือศีลอดของพวกเขาแต่อย่างใด"
(บันทึกโดย มุสลิม )
อีกหะดีษ
"คนหนึ่งจากพวกเจ้าไม่ได้ให้ความสำคัญการละหมาดของเขา กับการละหมาดของพวกเขา
และไม่ได้ให้ความสำคัญการถือศีลอดของเขา กับการถือศีลอดของพวกเขา
(บันทึกโดย บุคอรีย์ และ มุสลิม)
จากหะดีษทั้งหมดที่กล่าวมา คอวาริจญ์ขยันทำอิบาดะห์ แต่การอิบาดะห์ของพวกเขานั้นไม่ได้ส่งผลที่ดีต่อจิตใจของพวกเขาเลย เขาขยันอ่านอัลกุรอ่านแต่ไม่ได้ปฏิบัติตามแนวทางของอัลกุรอ่าน เพราะเข้าใจเจตนารมณ์และจุดประสงค์ของอัลกุรอ่านผิดไป จึงเป็นเหตุให้พวกเขานำตัวบทบางอย่างมาตัดสินการตกศาสนาของบรรดามุสลิมและยังหะลาลเลือดของบรรดามุสลิม
5. เข้าใจอัลกุรอ่านคลาดเคลื่อน โดยที่พวกเขาอ่านอัลกุรอ่านและนำมันมาเป็นหลักฐานมาใช้ไม่ถูกต้อง และนำมันมาเป็นหลักฐานโดยปราศจากความรู้และความเข้าใจ ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮูอะลัยอิวะสัลลัม จึงได้บอกคุณลักษณะของพวกเขาไว้ในหะดีษที่ว่า
"พวกเขาอ่านอัลกุรอ่านด้วยความอ่อนโยน แต่มันไม่พ้นลำคอของพวกเขา"
ท่านอิหม่ามนาวาวีย์ รอฮิมาอุลลอฮฺได้กล่าวไว้ในการอธิบายซอเอียะมุสลิม
"พวกเขาไม่ได้รับส่วนแบ่งของอัลกุรอ่าน พวกเขาอ่านอัลกุรอ่านแค่เพียงผ่านลิ้น แต่มันไม่ได้เข้าไปยังหัวใจของพวกเขา ซึงการอ่านยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์ของการอ่านอัลกุรอ่านนั้น และพวกคอวาริจญ์จะไม่ให้คุณค่าแก่บรรดาผู้รู้ เมื่อขัดแย้งกับแนวทางของพวกเขา เขาจะด่าทอผู้รู้ทำลายชื่อเสียงของบรรดาผู้ที่มีความรู้
โดยในอดีตพวกคอวาริจญ์มักอ้างว่าพวกเขามีความรู้มากกว่าท่านอาลี และมีความรู้มากกว่าท่าน อิบนู อับบาส และศอหาบะห์ท่านอื่นๆรอฎิยัลลอฮูอันฮุม และเช่นเดียวกัน คอวาริจญ์แห่งยุคนี้เคย ตัดสินบรรดาอูลามาอ์อาวุโสของประเทศซาอุว่าตกศาสนา ในกรณีที่ซาอุเห็นด้วยกับการให้อเมริกาขับไล่ซัดดัมออกจากการยึดครองคูเวต โดยกล่าวหาว่านักวิชาการอาวุโสเป็นทาสรับใช้ผู้ปกครอง และพวกคอวาริจญ์จะนำอายะห์อัลกุรอ่านที่กล่าวถึงฮุกุมของผู้ปฏิเสธมาใช้กับบรรดามุสลิม จึงเป็นเหตุให้พวกเขาทำการหะลาลเลือดของบรรดามุสลิม"
6. พวกคอวาริจญ์ถือว่าหมดสภาพจากการเป็นผู้นำ สำหรับผู้นำที่อธรรม จึงเป็นเหตุให้พวกเขาจับอาวุธเพื่อขับไล่หรือโค่นล้มผู้นำที่อธรรม ซึงมันสวนทางกับคำสอนของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮูอะลัยอิวะสัลลัม ได้มีคำสั่งใช้ให้มีความอดทนต่อการอธรรมของผู้นำ
ท่านรอซูล ได้กล่าวไว้
"ท่านจงเชื่อฟัง และปฏิบัติตามต่อผู้นำ ถึงแม้เขาโบยหลังของท่าน หรือเอาทรัพย์สินของท่าน
จงเชื่อฟังและปฏิบัติตาม"
จากหะดีษข้างต้นท่านรอซูล ใช้ให้อดทนต่อการอธรรมของผู้นำตราบใดที่เขายังไม่หมดสภาพจากการเป็นมุสลิม แต่คอวาริจญ์ไม่ได้เห็นเช่นนั้น แค่ผู้นำมีความคิดเห็นต่างจากตัวเอง เขาก็ไม่พอใจและนำไปสู่การด่าทอผู้นำและยุยงผู้คนให้ออกจากการให้ความร่วมมือแก่ผู้นำ
ประเด็นความคิดส่วนนี้ได้กระจัดกระจายไปในองค์กรของมุสลิม โดยเฉพาะองค์กรมัสยิดเราจะเห็นความขัดแย้งของมุสลิมที่มีต่อผู้นำของเขา บางครั้งผู้นำไม่ได้อธรรมอะไรต่อเขาเพียงแต่บางครั้งความคิดเห็นของเขาไปขัดแย้งกับความคิดเห็นของผู้นำ จนทำให้เขาไม่พอใจจึงไม่มีการเชื่อฟังผู้นำ และพยายามชักจูงหากพวกที่มีแนวคิดไม่ชอบผู้นำเหมือนกับความคิดของเขา เพื่อสร้างกลุ่มใหม่ที่แยกออกไปจากผู้นำ จนนำไปสู่ความแตกแยกความเกลียดชังในหมู่มุสลิม และถือว่าแนวคิดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดคอวาริจญ์
นี่คือบางส่วนของคุณลักษณะของคอวาริจญ์ และอีกมากมายจากคุณลักษณะของคอวาริจญ์คงได้นำเสนอในตอนต่อไป อินชาอัลลอฮ์