การระเบิดพลีชีพไม่มีในบทบัญญัติอิสลาม

 อ.อับดุลบารีย์ นาปาเลน

          การระเบิดพลีชีพไม่มีในบทบัญญัติอิสลาม แต่ตรงกันข้าม ที่อิสลามสั่งให้รักษาชีวิต และมันเป็นหนึ่งในฏอรูรียาติ(สิ่งจำเป็น)ทั้งห้า ที่มุสลิมต้องรักษา และการฆ่าตัวเองถือเป็นบาปอันใหญ่หลวง

"และจงอย่าฆ่าตัวของพวกเจ้าเอง แท้จริงอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงเมตตาต่อพวกเจ้าเสมอ"

(อัน-นิซาอ์ - Aya 29) 

"และผู้ใดที่กระทำเช่นนั้น โดยเจตนาละเมิดและข่มเหงแล้ว เราก็จะให้เขาเข้าไฟนรก

และนั่นเป็นสิ่งที่ง่ายดายแก่อัลลอฮฺ"

(อัน-นิซาอ์ - Aya 30)

และท่านนบี  ได้กล่าวว่า

“ใครที่ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงมาจากภูเขา เขาก็จะได้รับโทษด้วยการกระโดดอยู่เช่นนั้นตลอดไปในนรกญะฮันนัม

และใครที่ฆ่าตัวตายด้วยการดื่มยาพิษ เขาก็จะได้รับโทษด้วยการดื่มยาพิษอยู่เช่นนั้นตลอดไปในนรกญะฮันนัม

และใครที่ฆ่าตัวตายด้วยการทิ่มแทงตัวเองกับมีดดาบ เขาก็จะได้รับโทษด้วยการใช้มีดดาบทิ่มแทงตัวเองอยู่เช่นนั้นตลอดไปในนรกญะ ฮันนัม” 

(บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ หมายเลข : 5778 และมุสลิม หมายเลข : 109)

          ส่วนการออกสู้รบกับศัตรู ญีฮาด ที่ถูกต้องตามบทบัญญัติ ก็ยังต้องปกป้องตัวเอง ท่านนบี  ของเราก็ยังสวมเสื้อเกราะสองชั้นในสงครามอูหุด เพื่อปกป้องตนเอง และทำเป็นแบบฉบับแก่ผู้ศรัทธา และมีคนหนึ่งที่ได้ฆ่าตัวเองในสนามรบอันเนื่องมาจากความเจ็บจากบาดแผล  ท่านนบี  ก็กล่าวว่า "เขาอยู่ในนรก " ทั้งๆที่เขาเป็นหนึ่งในมูญาฮีดีน

          ส่วนการระเบิดพลีชีพ ที่เขาได้ฆ่าตัวเองพร้อมกับคนรอบข้าง ส่วนใหญ่มักจะลามไปทำลายชีวิตผู้บริสุทธิ์อีกด้วย 

"และผู้ใดฆ่าผู้ศรัทธาโดยจงใจ การตอบแทนแก่เขาก็คือ นรกญะฮันนัม โดยที่เขาจะอยู่ในนั้นตลอดกาล

และอัลลอฮฺก็ทรงกริ้วโกรธเขา และทรงสาปแช่งเขา และได้ทรงเตรียมไว้สำหรับเขาซึ่งการลงโทษอันใหญ่หลวง"

(อัน-นิซาอ์ Aya 93) 

และการระเบิดพลีชีพแบบนี้ถือเป็นการสร้างความเสื่อมเสียในแผ่นดิน

          "เนื่องจากเหตุนั้นแหละ เราจึงได้บัญญัติแก่วงศ์วาน อิสรออีลว่า แท้จริงผู้ใดฆ่าชีวิตหนึ่งโดยมิใช่เป็นการชดเชยอีกชีวิตหนึ่ง หรือการบ่อนทำลายในแผ่นดินแล้ว ก็ประหนึ่งเขาได้ฆ่ามนุษย์ทั้งมวล

         ส่วนผู้ใดที่ฟื้นฟูมัน ก็เสมอนกับเขาได้ฟื้นฟูให้แก่มนุษย์ทั้งมวล และแท้จริงนั้นบรรดาร่อซูลของเราได้นำหลักฐานต่าง ๆ อันชัดแจ้งมายังพวกเขาแล้ว แต่หลังจากนั้นได้มีจำนวนมากมายในหมู่พวกเขาเป็นผู้ฟุ่มเฟือยในแผ่นดิน"

(อัล-มาอิดะฮฺ - Aya 32)

โองการนี้ก็ได้บันทึกแก่ประชาชาติของท่านนบีมูฮำมัด(ซอลลอลลอฮูอาลัยฮีวะซัลลัม)เช่นกัน

จากท่านอาลี บิน อบีต็อลฮะ จากท่าน อิบนีอับบ้าส " มันก็เป็นเช่นเดียวกับที่อัลลอฮ์  ตรัสความว่า 

"ผู้ใดฆ่าชีวิตหนึ่งโดยมิใช่เป็นการชดเชยอีกชีวิตหนึ่ง หรือการบ่อนทำลายในแผ่นดินแล้ว

ก็ประหนึ่งเขาได้ฆ่ามนุษย์ทั้งมวล

ส่วนผู้ใดที่ฟื้นฟูมัน ก็เสมอนกับเขาได้ฟื้นฟูให้แก่มนุษย์ทั้งมวล"

      รายงานจากท่านสุลัยมาน บินอาลี อัรร็อบอี ท่านได้กล่าวว่า " ฉันได้กล่าวแก่ท่านฮาซัน(อัลบัสรี) ว่า" โองการนี้ให้กับพวกเราด้วยใหม่ ดั่งที่มันเคยให้แก่ลูกหลานอิสรออีลมาก่อน โอ้อาบาสะอีด ? 

     แล้วท่านก็กล่าวว่า " ใช่แล้ว ฉันขอสาบานต่อผู้ที่ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ เช่นเดียวกับที่มันได้บัญญัติแก่ลูกหลานอิสรออีล และเลือดเนื้อของลูกหลานอิสรออีลมิได้มีเกียรติ ณ ที่อัลลอฮ์ มากไปกว่าเลือดเนื้อของพวกเรา "

(ตัฟซีรอิบนูกาซีรฺ เกี่ยวกับกับโองการนี้)

https://www.youtube.com/watch?v=BJ7bWnjKpH0