บททดสอบจากลูกหลาน
แปลโดย อบูชีส
อัลลอฮ์ ทรงเตือนผู้มีอีหม่านจากความวุ่นวายของทรัพย์สินและลูกหลาน และพระองค์ทรงบอกพวกเขาว่าแท้จริงลูกหลานของพวกเขา และบรรดาภรรยาของพวกเขานั้นบางคนก็เป็นศัตรูกับพวกเขา และดังกล่าวพระองค์ตรัสไว้ความว่า :
“ โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย แท้จริงในหมู่คู่ครองของพวกเจ้า และลูกหลานของพวกเจ้านั้น มีบางคนเป็นศัตรูแก่พวกเจ้า
ฉะนั้นจงระวังต่อพวกเขา แต่ถ้าพวกเจ้าอภัยและยกโทษ (แก่พวกเขา) แท้จริง อัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงอภัย ผู้เมตตาเสมอ”
"แท้จริงทรัพย์สมบัติของพวกเจ้า และลูกหลานของพวกเจ้านั้นเป็นเครื่องทดสอบและอัลลอฮฺนั้น ณ ที่พระองค์มีรางวัลอันยิ่งใหญ่"
(อัตตะฆอบุน 14-15)
ท่านบะฆอวีย์ ได้อธิบายอายะห์นี้ ไว้ในหนังสือตัฟซีรของท่าน และท่านกล่าวว่า : อะฏออ์ บิน ยะซาร กล่าวว่า : อายะห์นี้ถูกประทานแก่เอาฟ์ บิน มาลิก อัลอัชญะอีย์ ปรากฏว่าเมื่อเขามีครอบครัวและมีลูก เมื่อเขาจะออกรบลูกๆก็ร้องไห้และมากอดเขา และกล่าวว่า พ่อจะทิ้งเราไปไหน? จนเขาใจอ่อนและไม่ไปไหน ดังนั้นอายะห์นี้จึงถูกประทานลงมา
“แท้จริงในหมู่คู่ครองของพวกเจ้าและลูกหลานของพวกเจ้านั้นมีบางคนเป็นศัตรูแก่พวกเจ้า”
เพราะการเอาใจพวกเขาจนถึงกับต้องละทิ้งการเชื่อฟังอัลลอฮ์ ดังนั้นพวกท่านจงระวังพวกเขาให้ดี อย่าตอบรับจากพวกเขา (จนทิ้งคำสั่งของอัลลอฮ์ )
ลองพิจารณากันดู !! ครั้นเมื่ออัลลอฮ์ ตรัสไว้เกี่ยวกับการเป็นศัตรู พระองค์ตรัสด้วยกับคำว่า “บางคน” ดังที่อัลลอฮ์ ตรัสไว้ว่า
“แท้จริงในหมูคู่ครองของพวกเจ้า และลูกหลานของพวกเจ้านั้น มีบางคน เป็นศัตรูแก่พวกเจ้า”
เพราะฉะนั้นไม่ใช่ทุกคนจากครอบครัว ที่จะเป็นศรัตรูกับพวกท่าน แต่ในอีกอายะห์หนึ่ง พระองค์ไม่ตรัสโดยใช้คำว่า “บางคน” ในอายะห์ที่ว่า
“แท้จริงทรัพย์สมบัติของพวกเจ้า และลูกหลานของพวกเจ้านั้น เป็นเครื่องทดสอบ”
เพราะแท้จริงภรรยาและลูกหลานจะไม่ปราศจากจากความวุ่นวาย และหัวใจก็หมกมุ่นอยู่กับความวุ่นวาย และการเป็นศัตรูของพวกเขาก็คือ การที่บางทีพวกเขาทำให้ผู้ศรัทธาออกห่างจากหนทางของอัลลอฮ์ และผลักไปสู่อารมณ์ใฝ่ต่ำ และการยึดติดกับดุนยาและหลงใหลมัน
เป้าหมายของคำว่า เป็นศัตรู ในที่นี้คือ แท้จริงมนุษย์นั้น ลูกหลานของพวกเขาจะทำให้เขาหันเหออกจากการงานที่ดี หรือ ทำให้เขากระทำสิ่งที่ผิดพลาด หรือ ตกอยู่ในการฝ่าฝืน เพราะการตอบสนองพวกเขาด้วยกับการแสดงความรักแก่พวกเขา ดังนั้นบรรดาคู่ครอง และลูกหลาน บางทีพวกเขานั้นทำให้ยุ่งเหยิง และหันเหออกจากการรำลึกนึกถึงอัลลอฮ์ เฉกเช่นที่ บางทีพวกเขาก็เป็นแรงจูงใจที่ทำให้เกิดความบกพร่องในหลักการศรัทธา เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาต่างๆที่รายล้อม ก็ต่อเมื่อผู้ศรัทธายืนหยัดอยู่บนหน้าที่ของเขาอย่างแท้จริง ด้วยเหตุนี้อัลลอฮ์ ตรัสไว้ความว่า :
“โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย อย่าให้ทรัพย์สินของพวกเจ้าและลูกหลานของพวกเจ้า หันเหพวกเจ้าจากการรำลึกถึงอัลลอฮฺ
และผู้ใดกระทำเช่นนั้น ชนเหล่านั้นคือพวกที่ขาดทุน”
(อัลมุนาฟิกูน 9)
นี่คืออายะห์หนึ่งจากซูเราะห์ อัลมุนาฟิกูน ที่ซึ่งเล่าให้ฟังเกี่ยวกับลักษณะของบรรดามุนาฟิก และสภาพต่างๆของพวกเขา หลังจากนั้นได้เตือนบรรดาผู้ศรัทธา จากการตกอยู่ในสิ่งที่บรรดามุนาฟิกจมปลักอยู่ จากการหมกมุ่นอยู่กับลูกหลานจนลืมอาคิเราะห์ และเพิกเฉยกับการงานที่ดี และเอาทรัพย์สินมาจากสิ่งฮาลาลและฮะรอม ภายใต้ข้ออ้างเพื่อที่จะสร้างความสะดวกสบายแก่ครอบครัวและลูกหลาน
ท่าน อัซซุญาจ กล่าวว่า : อัลลอฮ์ ทรงทำให้พวกเขาได้รู้ว่า แท้จริง ทรัพย์สิน และลูกหลาน เป็นสิ่งที่อัลลอฮ์ จะนำมาทดสอบพวกเขา และมันครอบคลุมลูกหลานทุกคน เพราะแท้จริงมนุษย์นั้นถูกทดสอบด้วยกับลูกของเขา แท้จริง บางทีเขาฝ่าฝืนอัลลอฮ์ ด้วยกับสาเหตุของลูก แสวงหาของฮะรอมเพื่อลูก และตกอยู่ในความผิดที่ยิ่งใหญ่ เว้นแต่ผู้ที่อัลลอฮ์ ทรงปกป้องเขาเท่านั้น
และในฮะดิษ
"แท้จริงลูก ทำให้ตระหนี่ ทำให้ขี้ขลาด ทำให้เขลา ทำให้เศร้าโศก"
(บันทึกโดยอิหม่ามอะหมัด)
♦ ที่เขาทำให้ตระหนี่ คือ นำเขาไปสู่ความตระหนี่ จากการบริจาคเพื่ออัลลอฮ์ ด้วยกับหลักฐานที่ว่า ลูกมีความจำเป็นต่อทรัพย์นี้ เขายังเล็กอยู่ ยังต้องการทรัพย์นี้เพื่อไว้เป็นการเลี้ยงดูเขา หลังจากนั้นพอโตเป็นหนุ่มก็ต้องใช้ แต่งงานก็ต้องใช้
♦ ที่ว่า ทำให้ขี้ขลาด เพราะเขาจะเป็นแรงจูงใจให้เกิดความขี้ขลาด และละทิ้งคำพูดจริง และกลัวว่าจะมีอันตรายมาประสบแก่เขา และทิ้งให้ลูกเขาต้องอยู่เพียงลำพัง ไม่มีใครดูแล หรือกลัวว่าจะมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นแก่ลูกของเขา
♦ ที่ว่า ทำให้เกิดความเขลา ก็คือการที่ลูกนั้นจะทำให้เขานั้น อยู่ติดกับเขาจนหลงลืมที่จะศึกษาหาความรู้
♦ ที่ว่า ทำให้เศร้าโศรก เมื่อยามโรคภัยมาประสบกับลูกๆ หรืออันตรายทั้งหลาย และเมื่อยามลูกๆไม่อยู่ ก็จะทำให้พ่อแม่นั้นรู้สึก เศร้าใจ เป็นทุกข์ เสียใจ และพ่อแม่จะไม่สบายใจเลย จนกว่า ลูกๆจะสบายใจ และคลายทุกข์
จึงมีการเตือนในสิ่งดังกล่าว เพราะแท้จริงแล้วความขึ้ขลาดและความตระหนี่นั้น เป็นโรคที่น่าอัปยศ ด้วยเหตุนี้ร่อซูล ของเราจึงได้สั่งใช้ให้เราขอความคุ้มครองจากสิ่งทั้งสอง ท่านนบี ได้กล่าวว่า :
“โอ้อัลลอฮ์ แท้จริงฉันขอความคุ้มครองจากพระองค์ให้รอดพ้นจากความขี้ขลาดและความตระหนี่ ด้วยเถิด”
(อัลบุคอรีย์)
บางทีก็มีผลเสียอย่างรุนแรงเกิดขึ้นกับลูก ดังที่อัลลอฮ์ ตรัสไว้ ในเรื่องราวของคิฏิร ว่า :
“และส่วนเรื่องของเด็กนั้นก็คือ พ่อแม่ของเขาเป็นผู้ศรัทธา เรากลัวว่า เขาจะเคี่ยวเข็ญให้ทั้งสองตกอยู่ในการละเมิดและปฏิเสธศรัทธา”
(กะห์ฟี่ 80)
รายงานโดยติรมีซีย์ จาก อับดุลลอฮ์ บิน บุร็อยดะห์ จาก พ่อของเขา กล่าวว่า : ฉันเห็นท่านนบี กำลังคุฏบะห์ จากนั้นฮาซัน กับฮูเซ็นก็มา ทั้งสองสวมเสื้อผ้าสีแดง ทั้งสองเดินเล่น และก็ล้ม ดังนั้นท่านนบี จึงลงจากมิมบัร และอุ้มทั้งสองมาไว้เบื้องหน้าของท่าน หลังจากนั้นท่านนบี ก็กล่าวว่า : อัลลอฮ์ ตรัสไว้สมจริงแล้ว ที่ว่า :
"แท้จริงทรัพย์สมบัติของพวกเจ้า และลูกหลานของพวกเจ้านั้นเป็นเครื่องทดสอบ"
ฉันเห็นเด็กสองคนนี้วิ่งและล้ม ฉันก็อดไม่ได้ จนกระทั่งฉันหยุดการคุฏบะห์ และลงมาอุ้มเขาทั้งสอง จากนั้น ท่านก็คุฏบะห์ต่อ “
กี่มากน้อยแล้วที่ผู้คนมักง่ายในการแสวงหาสิ่งหะรอม กินสิ่งหะรอม ดื่มสิ่งหะรอม เพราะลูกๆ และภรรยาของเขา นี่เป็นตัวอย่างที่นับว่าอันตรายอย่างมาก ต่อคนๆหนึ่งจากครอบครัวและลูกๆของเขา ด้วยเหตุนี้เมื่อท่านร่อซูล เห็นท่านฮาซันยกอิทนผลัม จากอินทผลัมที่ได้รับซอดาเกาะห์มาเอาใส่ปาก ซึ่งเป็นสิ่งที่หะรอมแก่ท่านร่อซูล และวงศ์วานของท่าน ท่านนบี ก็จะรีบสั่งให้เขา โดยกล่าวว่า “กั๊ค กั๊ค ” เพื่อให้เขาคายมันทิ้ง
ผู้คนส่วนใหญ่ จะแพ้อิทธิพลความรักแก่ลูกหลาน จนทำให้ความเอาใจใส่ต่อพวกเขาเป็นสิ่งที่สูงส่งในโลกดุนยานี้ และตอบสนองความต้องการของพวกเขา และความรักต่อพวกเขา ความปรารถนาต่อพวกเขา จากนั้นก็ละเลยสิ่งที่จำเป็นจะปฏิบัติต่อพระผู้เป็นเจ้า บางคนก็ให้ความสำคัญกับลูกและภรรยาจนเกินเลย หลงลืมบุพการี ไม่ทำความดี กตัญญูรู้คุณกับผู้เป็นพ่อแม่
ดังนั้นจงยำเกรงต่ออัลลอฮ์ ในลูกหลานของเราเถิด และจงทำความดีกับพวกเขาตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮ์ และเราจะให้ความเป็นกลางกับความรักที่มีต่อพวกเขา และนำเอาความรักที่มีต่ออัลลอฮ์ คำสั่งใช้ต่างๆของพระองค์ เหนือความรัก และหน้าที่ ที่มีต่อพวกเขา วัลลอฮุอะอ์ลัม
ที่มา : http://www.almoslim.net/node/230646