ข้อตักเตือนสำหรับผู้เรียนศาสนาใหม่
เชค มุฮัมหมัด บิน ฮาดี อัลมัดคอลี่
1) นักเรียนที่เพิ่งยังอยู่ในระดับเริ่มแรกแย้มในการศึกษาศาสนา ไม่คู่ควรกับการเข้ามาตอบโต้และชี้แจงขัอผิดพลาดที่เกิดขึ้น ยกเว้นในกรณีที่เป็นเรื่องที่ชัดเจน
เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปอยู่แล้วว่าเป็นหลักเกณฑ์สำคัญของศาสนาที่ตัองให้การยอมรับ (المعلوم في الدين بالضرورة) ในกรณีนี้จะออกมาทำการบอกกล่าวว่า : "แบบนี้มันไม่ใช่นะ มันผิดนะครับ ถ้าอย่างนี้ก็ไม่เป็นไร" แต่ถ้าจะออกมาเขียนตอบโต้ชี้แจงลงรายละเอียด อันนี้ยังไม่ใช่เวลา เพราะตัวนักเรียนเองยังเพิ่งจะอยู่ในระดับเริ่มต้นอยู่ ยังไม่สามารถบอกถึงหลักที่ถูกต้องได้ทั้งหมด ยังมองภาพได้ไม่ค่อยกระจ่าง และไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่ ขอให้มั่นใจเสมอว่า อัลลอฮฺจะไม่ทรงทำให้ศาสนาของพระองค์สูญหายไปไหนอย่างแน่นอน
2) วิธีที่ใช้สำหรับบำบัดอาการอืด/เฉื่อย ในการแสวงหาความรู้
1- ดุอาอฺ ขอจากอัลลอฮฺ วิงวอนจากพระองค์อย่างจริงจัง ให้เราอดทนและมั่นคงในการแสวงหา เพราะความรู้เป็นเรื่องหนักไม่ใช่ว่าจะได้กันมาง่ายๆ "ต้องเข้มต้องแข็ง ต้องอดทนและฝืนกลั้น" ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่สามารถมีขึ้นได้ถ้าอัลลอฮฺ ตะอาลาไม่ให้ ดังนั้น จงขอจากพระองค์อย่างจริงจัง
2- จัดเวลาให้จิตใจเราได้พักบ้าง ให้เป็นเวลา และลองเปลี่ยนไปอ่านหนังสือประวัติศาสตร์อาหรับ ที่ไม่ตัองใช้สมาธิมากนักเป็นครั้งคราว เพื่อจะได้ไม่อ่อนล้า
3- ให้ไปนั่งคุยกับพักพวกพี่น้อง ที่คิดว่าจะทำให้จิตใจเราดีขึ้น สบายใจมากขึ้นบ้าง
4- ลองออกเดินทางเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ไปทะเลบ้าง ซึ่งมันช่วยได้และก็ไม่ได้ผิดอะไร
3) การอยากตายเพราะกลัวฟิตนะฮฺ เป็นเรื่องที่ทำได้ และถูกระบุเอาไว้ในดุอาอฺด้วย เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเรื่องศาสนา ดุอาอฺบทนั้นก็คือ
وإذا أردت بعبادك فتنة فاقبضني إليك غير مفتونين
ส่วนถ้าอยากตายเพราะทุกข์หรือเจ็บป่วย อันนี้ไม่ได้ แต่ให้ขออัลลอฮฺ ตะอาลาว่า "ถ้าได้อยู่ต่อแล้วมันดีก็ขอให้ได้อยู่ต่อ แต่ถ้าตายแล้วดีก็ให้ตายไป"
สรุปคือ ดุอาอฺสองบทนี้ไม่ได้ขัดกัน เพราะบทที่หนึ่งพูดถึงการอยากตายเพราะห่วงศาสนาของตนเองกลัวจะพลิกแล้วพัง ส่วนอันที่สองคือ อยากตายเพราะเจ็บกับเรื่องดุนยา
4) ต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนจะออกมาทำหน้าที่ ตอนนี้อยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวขวนขวายความรู้ สร้างรากฐานเตรียมตัว ให้ทำเรื่องที่ต้องทำตรงนี้ให้เต็มที่ก่อน อย่าเพิ่งไปยุ่งกับเรื่องอื่นที่นอกเหนือไปจากการขวนขวายที่กำลังทำอยู่
5) อยากให้รู้ไว้เสมอว่า ความรู้ไม่ใช่ใบปริญญา การได้ปริญญามาไม่ได้แปลว่าคุณเป็นผู้รู้ เอาอย่างมากก็แค่ได้รู้จักกับบางมุมเล็ก ๆ ของความรู้ก็เท่านั้นเอง ดังนั้นจึงอยากจะบอกกล่าวกับผู้ที่กำลังจะต่อปริญญาโท(คนถาม)ไว้ว่า
1- เหนียตให้ดี เอาให้บริสุทธิ์อย่างแท้จริง
2- ให้ๆความสำคัญ กับตัวบทต่างๆทางวิชาการ (المتون العلمية) ที่ได้เคยท่องไว้ให้มากๆ หมั่นทบทวนอย่าให้หาย เพื่อพอถึงเวลาที่จะตัองใช้ จะได้หยิบจับออกมาได้อย่างคล่องแคล่ว มุตูนพวกนี้มีประโยชน์จริงในการใช้งานมากกว่าประเด็นวิจัยที่ได้ทำๆ กันไป (ตอนเรียนในระบบ)ซะอีก
6) การมีอายุยืนเฉยๆไม่ใช่เรื่องดีอะไร ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซั้ลลัม ท่านขอความคุ้มครองให้พ้นจาก "الهرم" ซึ่งหมายถึง "การมีอายุมากๆ" บางคนบอกว่า หมายถึงอายุเยอะกว่า 70 ขึ้นไป หรือราวๆนี้
ประเด็นก็คือ ถ้าจะให้เป็นเรื่องดีก็ต้องเป็นการ มีอายุยืนและมีผลงานทีดีๆ อยู่คู่กันไปด้วย ส่วนถ้าอายุยืนเฉยๆ อันนี้ไม่ใช่อะไรที่น่าปราถนา
7) ความสูงของที่กั้น สำหรับกำหนดบริเวณที่จะใช้สุญูดเพื่อไม่ให้ใครมาเดินตัดหน้าเวลาละหมาดคือ เท่าๆกับพนักของอานที่เอาไว้ขี่อูฐ
8) คำถามบางคำถาม มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความวุ่นวาย ดังนั้น คนที่ถูกถามก็ควรจะรู้ด้วยว่าอันไหนควรตอบ อันไหนไม่ควร หรืออันไหนตอบไปแล้วจะเป็นประโยชน์หรืออันไหนจะเป็นโทษ แบบนี้ไม่ได้เรียกว่าปิดบังความรู้ แต่มันไม่จำเป็นที่จะต้องไปคอยตอบทุกคำถามที่มีคนถามมา เพราะ ใครที่ตอบทุกเรื่องที่มีการถามกันไว้ คนๆนั้นก็คือ คนวิกลจริต
9) มีคนถามว่า ประเทศเค้าเป็นประเทศท่องเที่ยว ซึ่งงานที่พอจะหาได้ก็มีเฉพาะที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเท่านั้น ไม่ทราบว่าจะมีฮุก่มว่าอย่างไร ? ต้องบอกไว้ก่อนว่างานที่ว่าจะหนีไม่พ้นเรื่องปะปนชาย หญิง และเรื่องเครื่องดื่มมึนเมา
เชคตอบว่า คำถามนี้พูดถึงคำตอบไว้เองแล้วในตัว อะไรที่มันยุ่งเกี่ยวกับเรื่อง ฮะรอมเราก็อย่างเข้าไปยุ่ง ให้รู้ไว้เสมอว่า ริสกี เป็นของอัลลอฮฺ อัลลอฮฺเป็นคนให้ สิ่งที่อยู่ที่อัลลอฮฺจะได้มาได้ก็ด้วยกับการเชื่อฟังพระองค์เท่านั้น อัลลอฮฺไม่ได้ทรงต้องการพึ่งพาอะไรพวกคุณอยู่แล้ว และรู้ไว้ว่า ใครก็ตามที่ยำเกรง อัลลอฮฺ พระองค์จะทรงมอบริสกีให้เขา จากจุดที่เขาไม่ได้คาดไว้มาก่อน
อาบีดีณ โยธาสมุทร สรุปและเรียบเรียง