แนวทางการคลายทุกข์ 1
เขียนโดย : ชัยคฺ มุฮัมมัด ศอลิหฺ อัล มุนัจญิด
ต่อไปนี้เราจะนำเสนอบางสิ่งบางอย่างจากการบำบัดที่หลากหลาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ปรากฏอยู่ในชะรีอะฮฺ
- ติดอาวุธด้วยอีหม่าน พร้อมอะมัล ศอลิหฺ
อัลลอฮฺ ได้ตรัสไว้ว่า
“ผู้ใดปฏิบัติความดีไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือเพศหญิงก็ตาม โดยที่เขาเป็นผู้ศรัทธา ดังนั้นเราจะให้เขาดำรงชีวิตที่ดี”
(16:97)
"และแน่นอนเราจะตอบแทนพวกเขาซึ่งรางวัลของพวกเขา ที่ดียิ่งกว่าที่พวกเขาได้เคยกระทำไว้"
เหตุผลในเรื่องนี้เป็นสิ่งชัดเจน แท้จริงมุอฺมิน (ผู้ศรัทธา) ในอัลลอฮฺ ผู้ซึ่งมีอีหม่านที่ถูกต้อง เป็นผู้ที่ให้ผลด้วยการงานที่ดี เป็นผู้ที่ปฏิรูปหัวใจ บุคลิกภาพ เป็นผู้เปลี่ยนสภาพทั้งดุนยาและอาคิเราะฮฺ พวกเขามีพื้นฐานต่างๆ ที่พวกเขาได้นำมาใช้กับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขา ไม่ว่าเป็นความสุขหรือความทุกข์ต่างๆ ที่หลากหลาย ดังนั้น เมื่อพบกับความโปรดปรานและความสุขเขาก็ได้ยอมรับพร้อมกับแสดงการขอบคุณ และใช้มันในทางที่เกิดประโยชน์ ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะรู้สึกถึงความสุข พวกเขากระหายต่อการดำรงอยู่และความมีศิริมงคล อีกทั้งหวังรางวัลในการขอบคุณ เช่นเดียวกับเรื่องสำคัญอื่นๆ ที่มีความเป็นเลิศในแง่ของความดีและความมีศิริมงคลยิ่งกว่าความสุขเหล่านี้
และเมื่อพบกับความยากลำบาก ความทุกข์ร้อนและความกังวลใจต่าง ๆ ด้วยการลุกขึ้นฝ่าฟันด้วยพลังแห่งการต่อต้านที่เขามีอยู่ ได้ผ่อนหนักให้เป็นเบาด้วยการบรรเทาปัญหาให้น้อยลงเท่าที่เขาสามารถ ด้วยการอดทนอย่างดียิ่งในสิ่งที่เขาไม่สามารถจะหลีกหนีได้ ดังนั้น เขาจึงได้รับประโยชน์จากความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย เช่น ความสามารถในการฝ่าฟันปัญหาที่ก่อให้เกิดประโยชน์ ประสบการณ์ที่ให้คุณค่า ชีวิตที่แข็งแกร่ง เช่นเดียวกันกับความอดทนและความหวังในการตอบแทนและรางวัล (จากอัลลอฮฺ) และสิ่งอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์อย่างมหาศาล ซึ่งจะช่วยละลายความทุกข์ยากลำเค็ญต่างๆ ไปได้ และจะช่วยแก้ปมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นนี้ให้เป็นความสุขและความหวังที่ดีงาม และเพื่อให้เกิดความกระหายต่อความดีงามและการตอบแทนจากอัลลอฮฺ
ดังที่ท่าน นบี ได้กล่าวให้ข้อคิดเอาไว้เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
"น่าประหลาดเสียจริง สำหรับการงานหนึ่งของผู้ศรัทธาทั้งหลาย แท้จริงการงานทั้งหมดของเขาเป็นความดีงาม
และสิ่งนี้จะไม่เกิดแก่ผู้ใดเลย เว้นแต่ผู้ศรัทธาทั้งหลาย
หากว่าความสุขได้ประสบกับเขา เขาก็ขอบคุณ ดังนั้น มันก็เป็นความดีงามสำหรับเขา
และหากว่าความทุกข์ยากใดประสบกับเขา เขาก็อดทน ดังนั้น มันก็เป็นความดีงามสำหรับเขา"
(รายงานโดย มุสลิมในซอเฮียะฮฺ หมายเลข 2999)
- มีมุมมองความทุกข์ยากต่างๆ ที่ถูกต้อง
วิธีการมองการทดสอบด้วยสายตาที่สร้างสรรค์ ดังที่จะได้กล่าวในข้อต่อไป ให้มองว่าความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นกับมุสลิมนั้น เป็นการล้างบาปต่างๆ เป็นการชำระล้างหัวใจให้บริสุทธิ์ และเป็นการยกระดับสถานะของตัวเอง เมื่อมีความทุกข์ใจและความหวาดวิตกในโลกนี้มาประสบกับเขา
ท่านร่อซูล ได้กล่าวว่า
"ไม่มีสิ่งใดที่มาประสบกับมุสลิม จากความยากลำบาก ความป่วยไข้ ความกังวลใจ คามเศร้าเสียใจ ความเจ็บปวด ความหวาดวิตก แม้แต่หนามอันหนึ่งที่ทิ่มแทง เว้นแต่อัลลอฮฺจะลบล้างความผิดบาปต่างๆ ของเขาให้"
(รายงานโดย อัล บุคอรียฺ, อัล ฟัตหฺ 5642)
และปรากฏในรายงานของอิมามมุสลิม ว่า
"ไม่มีสิ่งใดที่มาประสบกับมุสลิม ไม่ว่าจะเป็นความยากลำบาก ความเจ็บป่วย ความเศร้าเสียใจ แม้กระทั่งความทุกข์กังวล ที่สร้างความทุกข์ใจแก่เขา เว้นแต่เขาจะได้รับการลบล้างบาปต่างๆ ของเขา"
(ซอเฮียะฮฺ มุสลิม, 2573)
ดังนั้น พึงรู้ไว้เถิดว่า การตกอยู่ในสภาพวิตกกังวลใจในสิ่งที่เกิดขึ้นจากความปวดร้าวทางจิตใจต่างๆ ที่เป็นผลจากความทุกข์กังวลใจนั้น ไม่ได้สูญเปล่า แต่ทว่ามันจะให้ประโยชน์ ด้วยการเพิ่มความดีงามต่างๆ ลบล้างบาปต่างๆ ฉะนั้น มุสลิมจึงต้องรู้ว่า จะไม่มีความทุกข์ยากใดๆ ที่ประสบกับเราจะสูญเปล่าไปในวันกิยามะฮฺ ดังคนสลัฟ (คนยุคแรก) ได้กล่าวไว้ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขามีความสุขกับการได้รับการทดสอบ ดังเช่นที่พวกเขาประสบกับความสุขสบายต่างๆ
เมื่อบ่าวคนหนึ่งได้รู้ว่า ความทุกข์ยากต่างๆ ประสบกับตัวเขานั้น เป็นการลบล้างบาปต่างๆ เขาจึงรู้สึกมีความสุข มีความปลื้มปิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมันเกิดขึ้นทันทีหลังจากการกระทำบาปนั้นๆ แล้ว ดังที่เกิดขึ้นกับซอฮาบะฮฺบางท่าน จากรายงานของอับดุลลอฮฺ บิน มัฆฟัล เราะฎิยัลลฮุอันฮุ รายงานว่า
"มีผู้หญิงที่เคยเป็นโสเภณีในสมัยญาฮฺลียะฮฺ (ยุคก่อนอิสลาม) นางหนึ่ง แล้วเขาได้หยอกล้อกับนาง จนยื่นมือไปสัมผัสนาง
นางกล่าวว่า “มะฮฺ (หยุดนะ) อัลลอฮฺ ได้ทำให้การตั้งภาคีหายไป และได้นำอิสลามมาให้เรา”
ดังนั้นเขาก็ทิ้งนางไว้คนเดียวและจากไป แต่ยังคงมองดูนาง จนกระทั่งเขาเดินไปถึงกำแพง จนหน้าปะทะกับกำแพง เขาได้มายังท่านนบี (ซล.) และถามท่านในสิ่งที่เกิดขึ้น
ท่านนบี ได้ตอบว่า
"ท่านเป็นบ่าวที่อัลลอฮฺต้องการให้ได้รับความดี เมื่ออัลลอฮฺต้องการให้บ่าวคนใดได้รับความดี พระองค์รีบลงโทษความผิดของเขา
เมื่อพระองค์จะให้บ่าวต้องประสบกับสิ่งเลวร้าย พระองค์ก็เก็บบาปของเขาไว้ จนกระทั่ง เขาถูกนำออกมาพร้อมกับมันในวันกิยามะฮฺ"
(รายงานโดยอะฮฺหมัด ในอัล มุสนัด 4/87 และอัล ฮากิม ในอัล มุสตัดร็อก 1/349)
ท่านนบี ได้กล่าวว่า
"เมื่ออัลลอฮฺต้องการให้บ่าวคนใดได้รับความดี พระองค์รีบลงโทษเขาในดุนยา *
* เมื่อพระองค์จะให้บ่าวต้องประสบกับสิ่งเลวร้าย พระองค์ก็เก็บบาปของเขาไว้
จนกระทั่ง เขาถูกนำมาในวันกิยามะฮฺ พร้อมกับบาปนั้น"
(รายงานโดย อัต ติรมิซียฺ ในอัส สุนัน 2396 และในซอเฮียะฮฺ อัลญามิอฺ 308)
- รู้จักความจริงของดุนยา (โลกนี้)
ผู้ศรัทธารู้ว่า ดุนยานั้นไม่ยั่งยืน ความสุขในดุนยานั้นมีเพียงน้อยนิด หาได้มีความสุขสันต์ใดๆ อยู่ในนั้นไม่ มันเป็นความทุกข์กังวล หาใช่ความรื่นรมย์ที่จะเกิดแก่ผู้ใดไม่ หากมันได้สร้างเสียงหัวเราะเพียงเล็กน้อย มันจะทำให้เกิดการร้องไห้อย่างยาวนาน หากมันได้ให้บางสิ่งเพียงเล็กน้อย มันจะขวางกั้นสิ่งต่างๆ ไว้อย่างมากมาย
ผู้ศรัทธาอยู่ในดุนยา เป็นเพียงผู้ที่ถูกคุมขังเอาไว้ ดังที่ท่านนบี ได้กล่าวว่า
"ดุนยาเป็นคุกของผู้ศรัทธา เป็นสวรรค์ของผู้ปฏิเสธ"
(รายงานโดย มุสลิม 2958)
เช่นเดียวกัน ดุนยานั้นมีทั้งความทุกข์ ความยุ่งยาก ความลำเค็ญ ความเจ็บปวด ขณะเดียวกัน สิ่งเหล่านี้กลับทำให้ผู้ศรัทธารู้สึกบรรเทาผ่อนคลายลง เมื่อเขาได้จากมันไป ดังฮะดีษต่อไปนี้
รายงานจาก เกาะตาดะฮฺ บิน ริบอียฺ อัน อันศอรียฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ กล่าวว่า
ท่านร่อซูล ได้ผ่านญะนาซะฮฺ (ศพ) ท่านได้กล่าวว่า "ผู้ที่บรรเทาและผู้ที่ถูกทำให้บรรเทา อันเนื่องจากเขา"
พวกเขากล่าวว่า "โอ้ร่อซูลลุลลอฮฺ อะไรคือผู้ที่บรรเทาและผู้ที่ถูกทำให้บรรเทาอันเนื่องจากเขา"
ท่านกล่าวว่า
"(ผู้ที่บรรเทาคือ) บ่าวผู้ศรัทธา (เมื่อเขาตายลง) เขาได้บรรเทาจากความทุกข์ยากของดุนยา และความปวดร้าวจากมัน ไปสู่ความเมตตาของอัลลอฮฺ"
(ผู้ที่ถูกทำให้บรรเทาเนื่องจากตัวเขา) คือบ่าวที่ชั่วร้าย (เมื่อเขาได้ตายลง) เขาได้ทำให้ปวงบ่าว แผ่นดิน ต้นไม้ สัตว์ต่างๆ ได้บรรเทา (ความทุกข์ยาก) จากเขา
(รายงานโดยอัล บุคอรียฺ, อัลฟัตหฺ 6512)
ความตายของผู้ศรัทธานั้นคือ การพักผ่อนสำหรับเขา จากความทุกข์ยากกังวลใจ และความเจ็บปวดต่างๆ ในโลกดุนยา ดังปรากฏในฮะดีษว่า
"เมื่อผู้ศรัทธาตายลง มลาอิกะฮฺแห่งความตายได้มายังเขาพร้อมกับผ้าไหมสีขาว"
พวกเขา (มลาอิกะฮฺ) กล่าวว่า (ดวงวิญญาณ) “จงออกมาเถิด ด้วยความยินดีปรีดา ไปสู่ความเมตตาแห่งอัลลอฮฺ สู่ความหอมหวน และสู่ผู้อภิบาลที่ปราศจากความกริ้ว”
ดังนั้น (ดวงวิญญาณ) ก็ออกมา ประหนึ่งกลิ่นชมดเชียงที่หอมยิ่ง จนกระทั่ง (มลาอิกะฮฺ) ชุดแรกได้พาเขา (ผู้ศรัทธา) ไปถึง (มลาอิกะฮฺ) อีกชุดหนึ่ง กระทั่งที่สุด พวกเขา (มลาอิกะฮฺ) ก็ได้พาผู้ศรัทธานี้ไปถึงประตูแห่งฟากฟ้า
พวกเขา (มลาอิกะฮฺ) ต่างพากันพูดว่า “กลิ่นที่นำมาจากพื้นแผ่นดินนี้ ช่างหอมเหลือเกิน” ดังนั้น พวกเขาได้นำผู้ศรัทธานี้ไปยังดวงวิญญาณทั้งหลายของเหล่าผู้ศรัทธา"
ดังนั้น พวกเขา (ผู้ศรัทธาเหล่านั้น) ต่างพากันดีอกดีใจอย่างล้นเหลือ ยิ่งกว่าการที่คนในคนหนึ่งในหมู่พวกท่านดีใจเนื่องจากคนที่หายตัวไป (ในหมู่พวกท่าน) ได้กลับคืนมา
พวกเขาต่างพากันถามว่า “ชายคนนั้นทำอะไร ชายคนโน่นทำอะไร”
เหล่ามลาอิกะฮฺก็ได้กล่าวว่า “พวกท่านปล่อยเขาไปเถิด เขาเคยอยู่ในความทุกข์กังวลแห่งดุนยา (โลกนี้)"
แล้วเขา (ผู้ศรัทธาคนนี้) ได้ถามว่า “เขาไม่ได้มาที่พวกท่านดอกหรือ?
พวกเขากล่าวตอบว่า “เขาถูกนำไปยังมารดาของเขา อัล ฮาวียะฮฺ (ชื่อนรกขุมหนึ่ง)”
"เมื่อผู้ปฏิเสธศรัทธาตายลง มลาอิกะฮฺแห่งการลงโทษก็ได้มายังเขา ด้วยกับผ้าป่าน"
พวกเขา (มลาอิกะฮฺ) กล่าวว่า “(ดวงวิญญาณ) จงออกไป ด้วยความบึ้งโกรธ ไปสู่การลงโทษของอัลลอฮฺ”
ดังนั้น มันก็ได้ออกไป ประหนึ่งซากที่ส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง กระทั่งพวกเขาได้พามาถึงประตูแห่งแผ่นดิน
พวกเขากล่าวว่า “กลิ่นช่างเหม็นอะไรเช่นนี้”
กระทั่งพวกเขาได้นำมันไปยังดวงวิญญาณของผู้ปฏิเสธศรัทธาทั้งหลาย
(อัล มุจญตะบา จากสุนัน อัน นะซะอียฺ 1810 และจัดว่าซอเฮียะฮฺ ในซอเฮียะฮฺ อัน นะซะอียฺ 1390)
หนังสือ คลายทุกข์ ด้วยคำสอนอิสลาม
แปลและเรียบเรียงโดย : อบุล ลัยษฺ