ความระทมทุกข์ที่เกิดขึ้นกับผู้บริสุทธิ์
ชัยคฺ มุฮัมมัด ศอลิหฺ อัล มุนัจญิด
ความระทมทุกข์ที่เกิดขึ้นกับผู้บริสุทธิ์ อันเนื่องจากการกล่าวร้าย
ตัวอย่างในเรื่องนี้เกิดขึ้นกับท่านหญิงอาอิซะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ อันฮา เมื่อพวกมุนาฟิกูนได้กล่าวหานางว่ากระทำบาประหว่างสงครามมุรอยซิอฺ (เมื่อนางถูกทิ้งไว้โดยไม่ตั้งใจจากกองทัพไว้ตามลำพัง ภายหลังซอฮาบะฮฺท่านหนึ่งได้พบเข้า จึงได้นำนางกลับเข้าเมือง มะดีนะฮฺ และนี่กลายเป็นที่มาของการใส่ร้ายนาง) ในขณะที่นางกำลังป่วย นางได้ยินข่าวลือนี้จากหญิงนางหนึ่งในบ้านของนาง ทำให้นางต้องป่วยหนักยิ่งขึ้น และรู้สึกระทมทุกข์อย่างแรง
นางกล่าวว่า ฉันกล่าวว่า ซุบฮานัลลอฮฺ ผู้คนได้พูดกันเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือ ? ฉันร้องไห้ตลอดทั้งคืนจนรุ่งเช้า โดยน้ำตาไม่เหือดแห้งเลย และฉันไม่ได้นอนเลย จนรุ่งเช้าฉันก็ยังร้องไห้อยู่....
นางได้กล่าวว่า ฉันได้ร้องไห้อีกในวันนั้น โดยน้ำตาของฉันไม่ขาดสายเลย และฉันไม่ได้นอนหลับเลย รุ่งเช้าบิดาและมารดาได้มาที่ฉัน ทั้งที่ความจริงฉันได้ร้องไห้มาแล้วสองคืนกับหนึ่งวัน ทั้งสองท่านคิดว่า การร้องไห้คงทำให้หัวใจ (ตับ) ของฉันสลายลงแล้ว ขณะที่ท่านทั้งสองกำลังนั่งอยู่ที่ฉัน และฉันกำลังร้องไห้ มีหญิงชาวอันศอรฺคนหนึ่งมาขออนุญาตเข้าพบ ฉันได้อนุญาตให้หล่อนและหล่อนก็ได้นั่งร้องไห้อยู่ใกล้ฉัน
ท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮา ได้กล่าวว่า ขณะที่พวกเราอยู่ในสภาพนั้น ท่านร่อซูล ก็ได้เข้ามาหาพวกเรา และได้กล่าวสลาม จากนั้นได้นั่งลง โดยที่ท่านไม่เคยนั่งที่ฉันเลยตั้งแต่เกิดการกล่าวหา และท่านยังคงปฏิบัติเช่นนั้นอยู่หนึ่งเดือน โดยไม่มีวะฮฺยุประทานลงมายังท่านเกี่ยวกับเรื่องฉัน
ท่านหญิงอาอีชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮา ได้กล่าวว่า ท่านร่อซูล ได้กล่าวคำปฏิญาณขณะที่ท่านนั่งลง แล้วกล่าวว่า
“อนึ่ง หลังจากนั้น โอ้ อาอิชะฮฺ ความจริงฉันได้ทราบเกี่ยวกับตัวเธออย่างนั้นอย่างนี้ และหากเธอเป็นผู้บริสุทธิ์ ต่อไปอัลลอฮฺจะให้เธอพ้นมลทิน และหากเธอกระทำบาปใดไว้ ให้เธอขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺเถิด และจงกลับตัวต่อพระองค์ เพราะแท้จริงบ่าวของอัลลอฮฺนั้น เมื่อเขาสารภาพผิด และได้กลับตัวหันเข้าหาอัลลอฮฺ แน่นอนพระองค์จะรับการกลับตัวของเขา”
ท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮา ได้เล่าว่า เมื่อท่านร่อซูล พูดจบลง น้ำตาของฉันได้เหือดหายไป จนไม่รู้สึกว่ามันเคยไหลสักหยดเดียว
ฉันได้กล่าวแก่บิดาว่า จงตอบสนองต่อท่านร่อซูล ในสิ่งที่ท่านพูดเถิด
บิดาของฉันได้กล่าวว่า ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับท่านร่อซูล
ฉันจึงได้กล่าวแก่มารดาว่า จงตอบสนองต่อท่านร่อซูล เถิด
มารดาของฉันกล่าวว่า ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับท่านร่อซูล
ฉันได้กล่าวโดยที่ขณะนั้นฉันยังเป็นเด็กหญิงที่อายุน้อย ไม่ได้อ่านอัลกุรอานมากนักว่า ความจริงฉันขอสาบานต่ออัลลอฮฺ ฉันทราบดีว่า พวกท่านจะต้องได้ยินคำพูดนี้ จนเกิดความมั่นคงในจิตใจของพวกท่าน และพวกท่านจะต้องเชื่อคำพูดนี้
ถ้าหากฉันกล่าวแก่พวกท่านว่า ฉันเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยอัลลอฮฺ ก็ทรงทราบว่า ฉันเป็นผู้บริสุทธิ์ พวกท่านจะต้องไม่เชื่อว่าฉันจะเป็นอย่างนั้น และถ้าหากฉันยอมรับต่อพวกท่านด้วยเรื่องหนึ่งที่อัลลอฮฺ ทรงทราบว่าฉันเป็นผู้บริสุทธิ์ พวกท่านก็จะเชื่อฉัน ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ ว่า ฉันไม่พบแบบอย่างสำหรับพวกท่าน นอกจากคำของบิดาของยูซุฟที่ว่า
“ความอดทนเป็นสิ่งที่งดงามยิ่ง อัลลอฮฺทรงเป็นผู้ได้รับการขอร้องให้ช่วยเหลือให้พ้นจากสิ่งที่พวกท่านพรรณนา”
ท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮา เล่าว่า หลังจากนั้น ฉันได้หันหน้ากลับ และนอนตะแคงอยู่บนที่นอนของฉัน โดยฉันทราบดีว่า ฉันเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ ว่า ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า อัลลอฮฺ จะประทานวะฮฺยุที่ถูกอ่านลงมาในเรื่องของฉัน เพราะเรื่องของฉัน ตามความคิดของฉันนั้น เป็นเรื่องเล็กน้อยเกินกว่าที่อัลลอฮฺ จะตรัสในตัวของฉันด้วยคำสั่งที่ถูกอ่าน แต่ฉันหวังว่า ท่านร่อซูล จะฝันเห็นขณะนอนหลับว่า อัลลอฮฺ ทรงให้ฉันพ้นมลทิน
ท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮา เล่าว่า ขอสาบานต่ออัลลอฮฺว่า ท่านร่อซูล ยังไม่ได้ลุกจากที่นั่งของท่าน และยังไม่มีผู้ใดจากบุคคลในครอบครัวออกไป จนกระทั่งวะฮฺยุได้ถูกประทานลงมายังท่าน และมันได้ครอบงำท่าน สิ่งที่เคยครอบงำจากความรุนแรงของวะฮฺยุ จนเหงื่อเม็ดโตเหมือนเพชรหลั่งออกมาในวันที่หนาวจัด เนื่องจากถ้อยคำที่หนักหน่วงที่ถูกประทานลงมายังท่าน เมื่อมันได้คลายออกจากท่านร่อซูล แล้วท่านก็ได้หัวเราะและคำแรกที่ท่านพูดกับท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮา ก็คือ "โอ้ อาอิชะฮฺ อัลลอฮฺ ได้ให้เธอพ้นมลทินแล้ว"
มารดาของฉันได้กล่าวว่า เจ้าจงลุกไปหาท่าน ฉันตอบว่า "ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ ฉันจะไม่ลุกไปหาท่าน และฉันจะไม่ขอบคุณผู้ใดนอกจากอัลลอฮฺ ผู้ยิ่งใหญ่และผู้เกรียงไกรเท่านั้น"
อัลลอฮฺ ได้ประทานลงมาว่า
“แท้จริง บรรดาผู้ที่นำข่าวเท็จมานั้น ก็เป็นกลุ่มหนึ่งของพวกท่าน พวกท่านอย่าได้คิดว่ามัน...” รวมทั้งหมดสิบอายะฮฺ
(รายงานโดยอัล บุคอรียฺ หมายเลข 2661)
เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่นางถูกสงสัยอย่างอยุติธรรม เรื่องราวของนางถูกเล่าโดยท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮา นางเล่าว่า
ได้มีหญิงผิวดำคนหนึ่งเข้ารับอิสลาม ซึ่งหล่อนเป็นคนของอาหรับบางคน และหล่อนมีห้องเล็ก ๆ (ที่กั้นเป็นสัดส่วน) อยู่ในมัสยิด นางเคยมาหาเราและสนทนากับเรา และเมื่อนางหมดเรื่องคุยกับเรา นางก็เล่าให้ฟังว่า ในวันแห่งวิชาหฺ (เป็นเข็มขัดที่ผู้หญิงใช้ใส่) เป็นวันที่มหัศจรรย์วันหนึ่งจากพระเจ้าของฉัน แท้จริงพระองค์ได้ปกป้องฉันให้พ้นจากผืนดินแห่งกุฟรฺ นางได้กล่าวถึงเรื่องนี้หลาย ๆ ครั้ง จนท่านหญิง อาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮา ได้ถามว่า อะไรคือวันแห่งวิชาหฺ
นางเล่าว่า หญิงสาวคนหนึ่งที่เป็นของกลุ่มชนของฉันได้ออกไปข้างนอก พร้อมกับเข็มขัด (วิชาหฺ) ที่ทำมาจากหนังสัตว์ แล้วมันได้หล่นหาย และได้มีเหยี่ยวเข้ามากโฉบเอามันไป โดยที่มันคิดว่าเป็นก้อนเนื้อ พวกเขาสงสัยว่าเป็นการกระทำของฉัน และเริ่มลงโทษฉัน กระทั่งถึงขั้นที่ว่า ได้เข้าไปค้นในที่ส่วนตัวของฉัน
ขณะที่พวกเขารายล้อมฉันและฉันอยู่ในสภาพทุกข์กังวลใจ เหยี่ยวก็ได้บินกลับมาอยู่เหนือศีรษะของพวกเรา แล้วได้ทิ้งเข็มขัดลงมา พวกเขาจึงหยิบมันขึ้น
ฉันได้กล่าวขึ้นว่า "นี่คือสิ่งซึ่งพวกท่านทั้งหลายสงสัยฉัน ฉันเป็นผู้บริสุทธิ์"
(รายงานโดย อัล บุคอรียฺ)
หนังสือ "คลายทุกข์ด้วยคำสอนของอิสลาม"
ผู้แปล อบุล ลัยษฺ