คุณค่าของมนุษย์
  จำนวนคนเข้าชม  7534


คุณค่าของมนุษย์

 


 โดย... อาจารย์ญุมอัต พูลสวัสดิ์ 


 

           เหล่าศรัทธาชนผู้มีศรัทธาต่อเอกองค์อัลลอฮ์ ที่รักและเคารพทุกท่าน ขอความรัก ความสุขสงบสันติ ความจำเริญจาก เอกองค์อัลลอฮ์ จงประสบแด่ทุกท่าน ก่อนสิ่งใดข้าพเจ้าใคร่ขอตักเตือนตัวข้าพเจ้าเองเป็นสำคัญ และท่านพี่น้องทั้งหลาย ให้ตั้งตนอยู่บนหลักการยำเกรงต่อ เอกองค์อัลลอฮ์ ยอมจำนนประพฤติปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดในบรรดาสิ่งที่พระองค์ทรงมีบัญญัติใช้ ละเว้นหลีกเลี่ยงอย่างห่างไกลจากบรรดาสิ่งที่พระองค์ทรงบัญญัติห้าม ซึ่งการตักวานี้เอง จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญ กำกับความคิด คำพูด และการกระทำของเราให้อยู่ในหนทางของ อัลอิสลาม อันเที่ยงตรงของพระองค์ ในวันที่เขาจะหวนกลับคืนสู่พระเมตตาของ เอกองค์อัลลอฮ์

 

          มีคำถามบางคำถามที่ท่านทั้งหลายไม่เคยฉุกถามตัวของท่านเอง ว่าท่านถูกกำเนิดมาทำไม ? เพื่ออะไร ? อัลลอฮ์  ทรงสร้างท่านอย่างวิจิตรมาเพราะเหตุใด ? เกียรติยศของท่าน สิทธิ์ของท่าน บนหน้าผืนแผ่นดินโลกดุนยาใบนี้คืออะไร ? เป็นคำถามที่น้อยคนนักจะอยากคิด ท่านทั้งหลายล้วนแล้วแต่รู้ตัวตนของตัวเองเป็นอย่างดี  และไม่มีใคร นอกจากอัลลอฮ์  และตัวของท่านเองที่ย่อมจะรู้จักตัวของท่านเอง ท่านย่อมรักตัวของท่าน ย่อมให้เกียรติในสิทธิความเป็นมุสลิมและสิทธิการเป็นปุถุชนมนุษย์คนหนึ่ง แน่นอนว่าเกียรติคุณนี้ เป็นพระมหากรุณาธิคุณจากอัลลอฮ์  ที่ประทานแก่ท่าน ซึ่งจำเป็นยิ่งที่จะต้องขอบพระคุณ

 

          มนุษย์ถูกสร้างด้วยความประสงค์ของอัลลอฮ์  ท่ามกลางสรรพสิ่งที่ถูกสร้างอื่นบนโลกนี้ แต่มนุษย์เด่นกว่าสรรพสิ่งอื่นๆที่พระองค์ทรงสร้างมา มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ประเสริฐซึ่งพระองค์ให้เขามาเกิดบนโลกนี้ อัลลอฮ์  ได้สร้างมนุษย์มีรูปลักษณ์ที่งดงาม เพียบพร้อมด้วยสติปัญญา และความนึกคิด พระองค์ทรงให้เกียรติมนุษย์เหนือสิ่งอื่นใดทั้งปวง สิ่งเหล่านี้เป็นคุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์ พระองค์ทรงดำรัสว่า อัลอิสรออ์ อายะห์ 70 ความว่า 

 

"และแท้จริงเราได้มอบเกียรติให้แก่ลูกหลานของท่าน นบีอาดัม คือเผ่าพันธุ์มนุษย์

เราได้บรรทุกพวกเขาทั้งทางบก และทางน้ำ ได้ประทานปัจจัยยังชีพต่างๆที่ดี

และได้ยกย่องให้เกียรติเขาเหนือสิ่งอื่นใดทั้งปวงที่เราได้สร้างมา"

 

          นั่นคือหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ถึงการให้เกียรติของพระองค์ต่อมนุษย์อย่างเรา ชีวิตของมนุษย์จะไม่มีคุณค่าใดๆเลย หากไม่สำนึกตนว่าเป็นบ่าว และดำเนินบนเส้นทางแห่งคุณธรรมที่พระองค์ทรงกำหนด ถ้าหากเขาใช้สิ่งต่างๆที่พระองค์ประทานในทางที่ผิด ทำความชั่ว ไม่ระลึกถึงพระคุณ ชีวิตของเขาจะเป็นชีวิตที่น่าเหยียดหยาม เป็นผู้เนรคุณ 

          คุณค่าของมนุษย์เกิดขึ้นได้ เกิดจากการรู้จักธาตุแท้ของตนเอง มีชีวิตอยู่ได้ด้วยความกรุณาของพระองค์ ต้องแสดงออกถึงความขอบคุณ เชื่อฟังคำสั่งของพระองค์ เป็นผลดีต่อมนุษย์เอง เพราะการผูกสัมพันธ์ระหว่างเขากับอัลลอฮ์  จะทำให้มนุษย์มีคุณค่า ทำให้มนุษย์รู้จักคุณค่าของตนเอง นอกจากนั้นโครงสร้างของมนุษย์อันประกอบด้วยร่างกาย และจิตวิญญาณซึ่งมนุษย์ต้องบริโภคอาหาร เครื่องดื่ม เพื่อประทังชีวิต เช่นเดียวกับจิตวิญญาณที่ต้องนอบน้อมยอมจำนนต่อพระผู้เป็นเจ้า เคารพภักดีตามสิ่งที่พระองค์ใช้ พร้อมหลีกเลี่ยงกิจกรรมต่างที่พระองค์ทรงห้าม ระวังตนจากความสำราญของดุนยา ซึ่งกำลังลวงหลอกให้หลงกล เพราะแน่แท้มนุษย์ต้องก้าวเดินผ่านดุนยานี้ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 


ท่านนบีมูฮำมัด  ได้กล่าวเตือนถึงภัยอันตรายของดุนยาไว้ในฮะดีษของท่าน รายงานโดยอิมามมุสลิมว่า


"แท้จริงดุนยานี้ช่างเขียวชอุ่ม และหอมหวานเหลือเกิน และพระองค์อัลเลาะฮ์ ก็ทรงให้พวกเจ้านั้นเป็นผู้ปกครองผืนแผ่นดินนี้

และพระองค์จะทรงเฝ้าดูการกระทำของพวกเจ้า ดังนั้นเจ้าจงระวังภัยอันตรายต่างๆของโลกนี้ และจงระวังภัยอันตรายของสตรีเพศ"

          ประการต่อมา มนุษย์จะต้องมีความรับผิดชอบในทุกสิ่งที่พระองค์ทรงอำนวยความสะดวกให้แก่ชีวิตของเขา รับผิดชอบในคำสั่งของพระองค์ รับผิดชอบต่อตัวเอง ต่อครอบครัวภายใต้การดูแล รับผิดชอบต่อชีวิตทรัพย์สิน ในการใช้จ่าย รับผิดชอบต่อความรู้ที่เขาได้ศึกษามา เพราะวันแห่งการสอบสวนนั้น พวกเขาจะถูกสอบถามถึงความโปรดปรานที่ได้รับจากดุนยา ความปลอดภัย ความสมบูรณ์จากอื่นๆ ที่เป็นที่ปีติยินดีกับเขา เช่น อาหารการกิน เครื่องดื่ม และที่อยู่อาศัย 

        ประการสุดท้าย การอุทิศตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวมก็เป็นคุณค่าของชีวิตในอีกระดับหนึ่ง การอุทิศตนอาจอยู่ในรูปแบบของการช่วยเหลือศาสนา จริยธรรมของสังคม การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในรูปแบบต่างๆ การร่วมมือกันเพื่อสร้างสังคมที่ดี และช่วยกันสอดส่งดูแล ไม่ให้เกิดความชั่วในสังคม พระองค์ทรงดำรัส ฟุตซิลัต อายะห์ที่ 33 ความว่า 

"ผู้ใดอีกที่จะดีกว่าบุคคลที่เชิญชวนสู่อัลเลาะห์ตาอาลา"

        คือร่วมกันชวนเชิญบุคคลต่างๆให้เคารพสักการะต่ออัลลอฮ์  และดำเนินชีวิตตามหนทางของอิสลาม โดยเขาได้ปฏิบัติความดีงามโดยเขาได้กล่าวว่า แท้จริง ฉันเป็นหนึ่งในบรรดามุสลิมที่นอบน้อมต่อพระองค์ 

เหล่าศรัทธาชนที่รักและเคารพทุกท่าน ท่านนบีมูฮำมัด  ได้มีพระวจนะเตือนประชาชาติอุมมะห์ของท่าน ในหะดีษบทหนึ่งที่ว่า

ในวันปรโลกนั้นก่อนที่เท้าทั้งสองของบ่าวของแต่ละคนจะเคลื่อนไหว เขาจะถูกถามถึง 4 ประการ

1. เขาจะถูกถามเกี่ยวกับอายุขัยของเขา ว่าเขาใช้มันไปอย่างไร
2. เกี่ยวกับความรู้ของเขาที่ได้เรียนรู้มา ว่าเขานำไปก่อให้เกิดประโยชน์อย่างไร
3. เขาจะถูกถามเกี่ยวกับทรัพย์สิน ที่เขาได้มา ว่าได้มาจากที่ไหน ว่าเขาใช้จ่ายทางไหน เพื่ออะไร
4. เขาจะถูกถามเกี่ยวกับร่างกายของเขา ว่าเขาใช้ไปในหนทางใด

(รายงานโดยท่านอิมามมุสลิม)

          จากข้างต้นที่กล่าวมาทั้งปวงนั้น หากเราซึ่งเป็นมุสลิม เป็นมนุษย์คนหนึ่ง เป็นเฟืองตัวเล็กที่กำลังขับเคลื่อนตัวเอง ให้ผ่านดุนยานี้สู่อาคิเราะห์หน้า รู้จักคุณค่าของตนว่าเป็นบ่าว ดำเนินชีวิตอยู่บนหนทาง ระลึกนึกถึงคุณงามความดี และเกียรติยศที่พระองค์ประทานให้เขาอยู่เสมอ อุทิศตนเพื่อความดีต่อสังคม และส่วนรวม เป็นคุณค่าที่อิสลามสนับสนุนให้กระทำเป็นอย่างยิ่ง แน่นอนว่าสังคมมุสลิม รวมถึงสังคมโลกที่กำลังป่วยหนัก เหี่ยวเฉารอเวลาตายใกล้เข้ามา จะได้รับการเยียวยา และมีชีวิตชีวากลับขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง อินชาอัลเลาะฮ์




 


คุตบะห์วันศุกร์ ณ มัสยิดท่าอิฐ