ความเป็นสากลของศาสนาอิสลาม
อ.อามีน ดาราพงษ์
อัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ คือ ผู้ทรงอำนาจที่แท้จริง ซึ่งพระองค์จะทรงกระทำอะไรก็ได้ดังที่พระองค์ทรงประสงค์ด้วยความเกรียงไกรของพระองค์
พระองค์ทรงทำให้แสงสว่างของดวงอาทิตย์เพื่อโลกนี้ทั้งหมด ทรงทำให้อากาศเพื่อโลกนี้ทั้งหมด ทรงทำให้เมฆหลั่งน้ำฝนเพื่อโลกนี้ทั้งหมด ทรงทำให้อัลกุรอานเป็นคัมภีร์เพื่อโลกนี้ทั้งหมด ทรงทำให้มุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยวะสัลลัม เป็นศาสนทูตเพื่อโลกนี้ทั้งหมด ทรงทำให้กะอฺบะฮฺเป็นกิบลัตเพื่อโลกนี้ทั้งหมด และทรงทำให้ประชาชาตินี้ เป็นประชาชาติที่ดีเลิศ และเป็นประชาชาติดาอียะฮฺ(ที่เรียกร้องไปสู่อัลลอฮฺ)เพื่อโลกนี้ทั้งหมด
อิสลามคือทางนำและความเมตตาแก่โลกทั้งผอง พระองค์อัลลอฮฺทรงทำให้อิสลามเป็นความดีงามแก่ทุกสรรพสิ่งที่ถูกสร้างของพระองค์ พระองค์ทรงส่งอิสลามมาพร้อมกับหัวหน้าของบรรดาศาสนทูตและผู้เป็นปัจฉิมแห่งบรรดานบีทั้งหลาย และพระองค์ทรงทำให้ประชาชาตินี้มีเกียรติด้วยการเผยแผ่ เรียกร้องไปสู่อิสลามจนถึงวันแห่งการตัดสิน
1. ดังนั้นอัลลอฮฺ คือพระผู้อภิบาลแห่งมนุษยชาติ ไม่มีพระผู้อภิบาลใดสำหรับพวกเขาที่เทียบเท่าพระองค์ ดังเช่นที่พระองค์ทรงกล่าวว่า
“จงกล่าวเถิด(มุหัมมัด)ฉันขอความคุ้มครองจากพระผู้อภิบาลแห่งมนุษยชาติ”
(อัน-นาส:1)
2. อัลลอฮฺ นั้นคือพระราชาแห่งมนุษยชาติ ไม่มีพระราชาอื่นใดสำหรับพวกเขาที่เทียบเท่าพระองค์ ดังเช่นที่พระองค์ทรงกล่าวว่า
“(และพระองค์คือ)พระราชาแห่งมนุษยชาติ”
(อัน-นาส:2)
3. อัลลอฮฺ นั้นคือพระเจ้าแห่งมนุษยชาติ ไม่มีพระเจ้าอื่นใดสำหรับพวกเขาที่เทียบเท่าพระองค์ ดังเช่นที่พระองค์ทรงกล่าวว่า
“(และพระองค์คือ)พระเจ้าแห่งมนุษยชาติ”
(อัน-นาส:3)
4. อัลลอฮฺทรงประทานอัลกุรอานมาเป็นทางนำแก่มนุษยชาติ ดังเช่นที่พระองค์ทรงกล่าวว่า
“เดือนรอมฎอนนั้น เป็นเดือนที่อัลกุรอานถูกประทานลงมาเป็นข้อแนะนำสำหรับมนุษยชาติและเป็นหลักฐานอันชัดแจ้งเกี่ยวกับข้อแนะนำนั้นและเป็นสิ่งจำแนก(ระหว่างความจริงกับความเท็จ)”
(อัลบะกอเราะฮฺ:185)
5. อัลลอฮฺ ทรงส่งศาสนทูตของพระองค์ มุหัมมัดศ็อลลัลลอฮุอะลัยวะสัลลัม มาเพื่อมนุษยชาติทั้งหมด ดังเช่นที่พระองค์ทรงกล่าวว่า
“และเรามิได้ส่งเจ้ามาเพื่ออื่นใด เว้นแต่เป็นผู้แจ้งข่าวดีและเป็นผู้ตักเตือนมนุษย์ทั้งหลาย แต่ทว่าส่วนมากของมนุษย์ไม่รู้”
(สะบะ:28)
6. อัลลอฮฺ ทรงทำให้กะอฺบะฮฺเป็นกิบลัต(ทิศที่มุสลิมหันไปเมื่อทำละหมาด)เพื่อมนุษยชาติทั้งหมด และมันคือบ้านหลังแรกที่ถูกตั้งขึ้นเพื่อมนุษยชาติ ดังเช่นที่พระองค์ทรงกล่าวว่า
“แท้จริงบ้านหลังแรกที่ถูกตั้งขึ้นสำหรับมนุษย์(เพื่อการอิบาดะฮฺ)นั้นคือบ้านที่มักกะฮฺ โดยเป็นที่ที่ถูกให้มีความจำเริญ และเป็นที่แนะนำแก่ประชาชาติทั้งหลาย ในบ้านนั้นมีหลายสัญญาณที่ชัดแจ้ง (ส่วนหนึ่งนั้นคือ) มะกอมอิบรอฮีม และผู้ใดได้เข้าไปในบ้านนั้นเขาก็เป็นผู้ปลอดภัยและสิทธิของอัลลอฮฺที่มีแก่มนุษย์ นั้นคือการมุ่งสู่บ้านหลังนั้น อันได้แก่ผู้ที่สามารถหาทางไปยังบ้านหลังนั้นได้ และผู้ใดปฏิเสธ แท้จริงอัลลอฮฺนั้นไม่ทรงพึ่งประชาชาติทั้งหลาย”
(อาลิอิมรอน:96-97)
7. อัลลอฮฺทรงทำให้ประชาชาตินี้เป็นประชาชาติที่ดีเลิศที่อุบัติขึ้นมาเพื่อมวลมนุษยชาติ
อัลลอฮฺ ตะอฺาลา ตรัสความว่า
“พวกเจ้าเป็นประชาชาติที่ดียิ่ง ซึ่งถูกให้อุบัติขึ้นสำหรับมนุษยชาติ โดยที่พวกเจ้าใช้ให้ปฏิบัติในสิ่งที่ชอบ และห้ามปรามมิให้ปฏิบัติในสิ่งที่มิชอบและศรัทธาต่ออัลลอฮฺ และถ้าหากว่าบรรดาผู้ที่ได้รับคัมภีร์ศรัทธากันแล้วแน่นอนมันเป็นการดีสำหรับพวกเขา ส่วนหนึ่งจากพวกเขานั้นมีบรรดาผู้ที่ศรัทธา และส่วนมากจากพวกเขานั้นเป็นผู้ละเมิด”
(อาลิอิมรอน:110)
จากท่านบะฮฺซิบนิหะกีม จากคุณพ่อของเขา จากคุณปู่ของเขากล่าวว่า ฉันได้ยินท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
"จงรู้ไว้เถิดว่า พวกท่านนั้นคือผู้ที่ทำให้สมบูรณ์ในเจ็ดสิบประชาชาติ
พวกท่านคือผู้ที่ดีที่สุด และมีเกียรติที่สุดจากพวกเขาเหล่านั้น ณ อัลลอฮฺ ผู้ทรงเกรียงไกรและสูงส่ง”
(รายงานโดยอะหฺมัดและอัตติรฺมีซีย์)
8. การเชิญชวนเรียกร้องไปสู่อัลลอฮฺ การเผยแพร่ศาสนาทั้งด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกนั้นเป็นสิ่งจำเป็นแด่มุสลิมทุกคนเพื่อมนุษย์ทั้งมวล จนกว่าคำดำรัสของอัลลอฮฺจะเป็นสิ่งที่สูงส่งกว่าทั้งมวล และจนกว่าศาสนาจะเป็นของอัลลอฮฺทั้งหมด
อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสความว่า
“จงกล่าวเถิด(โอ้มุหัมมัด)นี่คือแนวทางของฉัน ฉันเรียกร้องไปสู่อัลลอฮฺอย่างประจักษ์แจ้ง ทั้งตัวฉันและผู้ปฏิบัติตามฉัน
และมหาบริสุทธิ์ยิ่งแห่งอัลลอฮฺ ฉันมิได้อยู่ในหมู่ผู้อธรรม”
(ยูสุฟ:108)
อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสความว่า
“จงเรียกร้องสู่แนวทางแห่งพระเจ้าของสูเจ้าโดยสุขุมและการตักเตือนที่ดี และจงโต้แย้งพวกเขาด้วยสิ่งที่ดีกว่า แท้จริงพระผู้อภิบาลของเจ้านั้นทรงรู้ดียิ่งถึงผู้ที่หลงทางจากแนวทางของพระองค์ และพระองค์ทรงรู้ดียิ่งถึงบรรดาผู้ที่อยู่ในทางที่ถูกต้อง”
(อันนะหฺลิ:125)
อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสความว่า
“นี่คือการประกาศแก่ปวงมนุษย์เพื่อพวกเขาจะถูกตักเตือนด้วยมัน และเพื่อพวกเขาจะได้รู้ว่า
แท้จริงพระองค์คือพระเจ้าผู้ทรงเอกะ และเพื่อบรรดาผู้มีสติจะได้รำลึก”
(อิบรอฮีม:52)
9. อัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ ได้ทรงเรียกร้องมนุษย์ไปสู่การเคารพภักดีต่อพระองค์เพียงพระองค์เดียว โดยที่ไม่มีภาคีใดๆต่อพระองค์ และห่างไกลจากการเคารพภักดีต่อสิ่งใดๆที่เทียบเท่าพระองค์ และรู้จักบรรดาพระนามของพระองค์ คุณลักษณะของพระองค์และการกระทำของพระองค์ และพระองค์ทรงให้เกียรติต่อพวกเราด้วยการเรียกร้องเชิญชวนไปสู่สิ่งเหล่านั้น
การเรียกร้องแรกในอัลกุรอาน คือทำให้มนุษย์มุ่งไปสู่ภารกิจหลักด้วยการเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺเพียงพระองค์เดียว โดยที่ไม่มีภาคีใดๆกับพระองค์ ดังเช่นที่พระองค์ทรงกล่าวว่า
“โอ้มนุษย์เอ๋ย จงเคารพอิบาดะฮฺพระผู้เป็นเจ้าของพวกเจ้าที่ทรงบังเกิดพวกเจ้าและบรรดาผู้ที่มาก่อนพวกเจ้าเถิด เพื่อว่าพวกเจ้าจะยำเกรง คือผู้ทรงทำให้แผ่นดินเป็นที่นอน และฟ้าเป็นอาคารแก่พวกเจ้า และทรงทำให้น้ำหลั่งลงมาจากฟากฟ้าแล้วได้ให้บรรดาผลไม้ออกมาเนื่องด้วยน้ำนั้น ทั้งนี้เพื่อเป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า ดังนั้นพวกเจ้าอย่าให้มีผู้เท่าเทียมใดๆขึ้นสำหรับอัลลอฮฺ โดยที่พวกเจ้าก็รู้กันอยู่”
(อัลบะกอเราะฮฺ:21-22)
10. อัลลอฮฺอัซซะวะญัลละ พระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก ผู้ทรงสร้างญินและมนุษย์เพื่อการเคารพภักดีต่อพระองค์เพียงพระองค์เดียว โดยที่ไม่มีภาคีใดๆต่อพระองค์ ดังที่พระองค์ทรงกล่าวว่า
“และข้ามิได้สร้างญินและมนุษย์มาเพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า ข้าไม่ต้องการปัจจัยยังชีพใดๆจากพวกเขา และข้าก็ไม่ต้องการให้พวกเขาให้อาหารแก่ข้า แท้จริงอัลลอฮฺคือผู้ประทานปัจจัยยังชีพอันมากหลาย ผู้ทรงพลัง ผู้ทรงมั่นคง"
(อัซซาริยาต:56-58)
11. แท้จริงแล้วอัลลอฮฺอัซซะวะญัลละ ทรงส่งศาสนทูตของพระองค์มา คือท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เป็นผู้ตักเตือนแก่มนุษยชาติและเป็นความเมตตาแก่พวกเขาจนกระทั่งถึงวันแห่งการตัดสิน
อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสความว่า
“ความจำเริญยิ่งแด่พระองค์ ผู้ทรงประทานอัลฟุรกอนแก่บ่าวของพระองค์(มุหัมมัด) เพื่อเขาจะได้เป็นผู้ตักเตือนแก่ปวงบ่าวทั้งมวล”
(อัลฟุรกอน:1)
อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสความว่า
“และเรามิได้ส่งเจ้า(มุหัมมัด)มา เพื่ออื่นใด เว้นแต่เป็นความเมตตาแก่สากลโลก”
(อัลอันบิยาอ:108)