ความกลัว คือตัวยับยั้งความชั่ว
อะลี อับดุรเราะห์มานอัล-หุซัยฟีย์
ครั้งหนึ่งท่านอุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้เดินตรวจดูแลความสงบในยามค่ำคืน และแล้วท่านก็ได้ยินเสียชายคนหน่ึง (กำลังละหมาดตะฮัจญุด ซึ่งเขาได้) อ่านสูเราะฮฺอัฏ-ฏูร เมื่อได้ยินเช่นนั้น ท่านจึงลงจากพาหนะของท่าน แล้วพิงตัวท่ีกำแพง (ซึ่งหลังจากท่ีท่านกลับไปยังบ้าน) ท่านก็ล้มป่วยเป็นเวลาแรมเดือน โดยที่คนที่ไปเยี่ยมเยียนท่านนั้น ไม่รู้เลยว่าท่านป่วย เพราะเหตุอะไร
(มัจญ์มูอ์ เราะสาอิล อิบนุเราะญับ : 4/127)
ท่านอมีรุลมุอ์มินีน อลี เราะฎิยัลลอฮุอันฮู ได้กล่าวว่า
“ฉันเคยเห็นเศาะหาบะฮฺของท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮวิะสัลลัม ซึ่งฉันไม่เคยเห็นว่าจะมีใครสักคนที่เป็นเหมือนกับพวกเขา เวลากลางวันพวกเขาก็จะอยู่กับการปฏิบัตหน้าที่ต่ออัลลอฮ์ จนเนื้อตัวคลุกฝุ่นและมอมแมมไปหมด
หน้าผากของพวกเขามีร่องรอย (อันเนื่องจากการก้มสุญูดท่ียาวนาน) เมื่อเข้าสู่เวลากลางคืนพวกเขาก็จะทำการสุญูด และยืนละหมาดเพื่อพระเจ้าของพวกเขา และจะอ่านอัลกุรอาน การพักผ่อนของพวกเขาคือการได้ก้มลงสุญูดและยืนเข้าเฝ้าอย่างยาวนาน
ครั้นเมื่อเข้าสู่เวลาเช้า พวกเขาก็จะรำลึกถึงอัลลอฮ์ อย่างมากมายประหน่ึงต้นไม้ ท่ีโอนเอนไปมาในวันท่ีพายุพัดกระหน่ำ และน้ำตาของพวกเขาก็จะหลั่งไหลจนเสื้อผ้าเปียกชุ่ม”
(มุคตะศ็อรตารีค ดิมัชกฺลิอิบนิ อะสากิร โดยอบูอัล -ฟัฎล์ : 18/66)
ท่านสุฟยานอัษ -เษารีย์ เคยป่วยเนื่องด้วยความกลัวท่ีมีต่อ อัลลอฮฺ ในครั้งที่ท่านอับดุลลอฮฺ บินเราะวาหะฮฺ ได้กล่าวลาสหายของเขา เพื่อจะร่วมออกเดินทางไปทำสงครามมุอ์ตะฮฺ ท่านก็ได้ร้องไห้พลันกล่าวว่า
“ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ ฉันไม่ได้ร้องไห้เพราะความรักความปรารถนาท่ีมีต่อพวกท่าน และไม่ได้เศร้าเสียใจเพราะต้องจากโลกนี้ไป แต่ฉันได้นึกถึงอายะฮฺหน่ึงในอัลกุรอาน ซึ่งอัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ดำรัส ว่า
“และไม่มีผู้ใดในหมู่พวกเจ้า นอกจากจะเป็นผู้ผ่านเข้าไปในมัน(ทั้งคนดีและคนชั่วจะต้องผ่านนรก คนดีจะเดินผ่านไป ส่วนคนชั่วจะเข้าไปอยู่ในมัน) มันเป็นส่ิงท่ีกำหนดไว้แน่นอนแล้วสำหรับพระเจ้าของเจ้า”
(สูเราะฮฺมัรยัม :71)
ซึ่งฉันจะเป็นเช่นไร หลังจากท่ีผ่านเข้าไปในนั้น ”
(อัล-เมาสูอะฮฺ อัล-กุรอานียะฮฺ โดยอิบรอฮีม บิน อิสมาอีล อัล-อับยารีย์ : 1/233)
ซึ่งเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องนี้มีอยู่อย่างมากมายยิ่งนัก - ขออลัลอฮฺทรงพึงพระทัยต่อพวกเขาทั้งหลาย
ความกลัวที่ได้รับการยกย่องสรรเสริญนั้นคือความกลัวท่ีเป็นแรงกระตุ้นไปสู่การทำอะมัลที่ดี และเป็นสิ่งหักห้ามจากการทำสิ่งท่ีผิดบาปทั้งหลาย ซึ่งถ้าความกลัวมีมากเกินจากนี้ก็จะกลายเป็นความเศร้าโศกเสียใจและความสิ้นหวังในความเมตตาของอัลลอฮฺ ซึ่งมันจะกลายเป็นการทำบาปใหญ่โดยทันที
ท่านอิบนุเราะญับ เราะหิมะฮุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า
“ความกลัวท่ีวาญิบต้องมีนั้น คือ เท่าท่ีมันจะพยุงพาให้ปฏิบัติสิ่งท่ีเป็นข้อฟัรฎูและห่างไกลจากสิ่งที่ผิดบาปทั้งหลายได้ ซึ่งถ้าหากมันมีมากกว่านั้น ประมาณว่าทำให้เกิดแรงกระตุ้นท่ีจะรีบเร่งในการทำความดีงามท่ีเป็นสุนัต หรือละทิ้งส่ิงท่ีเป็นรายละเอียดปลีกย่อยของส่ิงท่ีน่ารังเกียจและลดการขยายขอบเขตที่มากเกินไปของสิ่งที่เป็นมุบาหาต(ส่ิงท่ีอนุญาตแต่ไม่ได้บุญ) ก็ถือเป็นเรื่องท่ีน่ายกย่อง
แต่ถ้ากลัวมากไปกว่านั้นอีกจนทำให้เกิดการเจ็บป่วยหรือเป็น เหตุนำไปสู่การเสียชีวิต หรือทำให้มีความทุกข์ระทม ก็จำเป็นท่ีจะต้องตัดความกลัวเช่นนั้นออกไป เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่น่ายกย่องอย่างแน่นอน”
(มัจญ์มูอฺเราะสาอิล อัล-หาฟิซ อิบนุเราะญับ อัล -หัมบะลีย์ : 4/112)
ท่านอบูหัฟศฺ ได้กล่าวว่า “ความกลัว คือ แส้ของอัลลอฮ์ ที่ใช้ดัดนิสัยผู้ที่เตลิดเปิดเปิงจากเส้นทางของพระองค์ ให้กลับมาอยู่ในร่องในรอย”
และท่านได้กล่าวอีกว่า “ความกลัวนั้น คือ ตะเกียงแสงสว่างสำหรับหัวใจ”
(มะดาริญสุสาลิกิน :1/509)
ท่านอบูสุลัยมาน ได้กล่าวว่า “ความกลัวจะไม่หายไป จากหัวใจ ยกเว้นจะทำให้หัวใจเสียหาย”
(มะดาริญสุสาลิกีน : 1/509)
ดังนั้น ผู้ศรัทธาจะอยู่ในระหว่างสองความกลัว กล่าวคือ ส่ิงที่ผ่านพ้นไปนั้นเขาไม่รู้ว่าอัลลอฮ์ จะดำเนินการอย่างไรกับมัน และสิ่งที่จะมีมาในอนาคตนั้น เขาไม่รู้ว่าอัลลอฮฺ กำหนดมันไว้อย่างไร
แปลโดย : แวมูฮัมหมัดซาบรี แวยะโก๊ะ / Islamhouse