บุญ คุณ พ่อ แม่
โดย… อาจารย์ อิบรอเฮม และซัน
ท่านศรัทธาชนที่เคารพรักทุกท่าน ก่อนอื่นข้าพเจ้าใคร่ขอตักเตือนตัวของข้าพเจ้าเองและท่านพี่น้องทั้งหลาย จงพยายามตั้งมั่น มีความยำเกรงต่อพระองค์อัลเลาะห์ ให้มาก ๆ เถิด โดยพยายามประพฤติปฏิบัติแต่ในสิ่งที่พระองค์ทรงใช้ และพยายามห่างไกลละเว้นจากสิ่งที่พระองค์ทรงห้ามอย่างเด็ดขาด
เราทุกคนที่เกิดมาบนโลกดุนยาใบนี้ แน่นอนเราทุกคนย่อมมีพ่อมีแม่ มีผู้ให้กำเนิดกันมาทุกคน ไม่ว่าพ่อแม่ของเรา จะยังมีชีวิตอยู่ หรือตายจากไปแล้วก็ตาม ตำแหน่งแห่งความเป็นลูกของเรา มีหน้าที่ที่เราจะต้องปฏิบัติดีต่อท่าน ตามพระบัญชาของพระองค์ ตาอาลา ทุกอย่าง ซึ่งที่ไม่ผิดต่อหลักบัญญัติศาสนา ดังอัลเลาะห์ตาอาลา ตรัสไว้ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะห์ อัลอิสรออฺ ความว่า
" และพระผู้อภิบาลของเจ้า ได้ใช้มิให้เจ้าทั้งหลายสักการะสิ่งใด นอกจากพระองค์ และให้ปฏิบัติด้วยดีต่อบุพการี
หากท่านผู้หนึ่งผู้ใด หรือทั้งสองท่านถึงแก่ชราภาพต่อเจ้า เจ้าอย่าบ่น อย่าตำหนิท่านทั้งสอง
และจงพูดกับท่านด้วยถ้อยคำที่ไพเราะ จงนอบน้อมถ่อมตนต่อท่านทั้งสอง
และจงกล่าวว่าพระผู้อภิบาล ขอพระองค์ทรงเมตตาแก่ท่านทั้งสอง
เหมือนดั่งที่ท่านทั้งสองได้อภิบาลข้าพระองค์มาแต่เยาว์วัย "
ท่านพี่น้องที่เคารพรักทั้งหลาย ตลอดระยะเวลาที่เราทุกคนมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่เพียงแค่วันใดวันหนึ่ง ที่เป็นวันพ่อวันแม่ของเราเท่านั้น แม้กระทั่งท่านทั้งสองหรือคนหนึ่งคนใดจากพ่อแม่ได้จากเราไปแล้วก็ตาม เราก็ยังต้องทำตัวให้เป็นคนดี เป็นลูกที่ดี สร้างกุศลผลบุญ ขอดุอาอฺให้แก่ท่านทั้งสองอยู่สม่ำเสมอ
ใครก็ตามที่เขายังมีพ่อแม่หรือคนใดคนหนึ่งจากทั้งสองท่าน อยู่ในอุปการะดูแล อย่างใกล้ชิดในบ้านของเรา ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีงามของลูกคนนั้น ที่เขาจะเสาะแสวงหาสวรรค์ ให้กับตัวของลูกเองในโลกอาคิเราะห์ โดยการที่เราปฏิบัติดี เอาใจใส่ดีแก่ท่านทั้งสอง จนท่านทั้งสองมีความยินดี มีความพอใจ กับการปฏิบัติของเรา และในทางตรงข้าม หากเราขาดความเอาใจใส่ หรือใช้กริยาวาจามารยาทที่ทำให้ทั้งสองต้องโกรธเคืองหรือน้อยใจ ไม่พอใจ หมายความว่า เรากำลังจะโยนตัวของเราเองเข้าสู่ประตูนรก เรื่องนี้ท่านนบี 
ได้กล่าวไว้ว่า
"บุคคลใดก็ตาม ยามเช้าๆที่พ่อแม่ของเขา หรือคนหนึ่งคนใดจากพ่อแม่ของเขา มีความปลาบปลื้มปิติยินดี พอใจให้กับเขา
แน่นอนประตูสวรรค์นั้นจะเปิดต้อนรับเขา"
"และบุคคลใดก็ตาม ที่ยามเย็นพ่อแม่ของเขาทั้งสอง หรือคนหนึ่งคนใดจากเขาทั้งสองมีความโกรธบนตัวของเขา
แน่นอนประตูนรก ญะฮันนัม นั้นจะเปิดต้อนรับเขาในโลกหน้าเช่นกัน"
ท่านพี่น้องที่เคารพครับ จากคำสั่ง จากพระราชดำรัสของพระองค์อัลเลาะห์ตาอาลาในอัลกุรอาน ข้างต้น และในคำของท่านนบี ย่อมให้เรามาทบทวนถึงพฤติกรรมต่างๆของพวกเรา ในฐานะผู้เป็นลูกว่า เราได้นำมาประพฤติปฏิบัติได้เคร่งครัดแค่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราเคยปรนนิบัติต่อท่านทั้งสอง ในยามที่ท่านทั้งสองเจ็บป่วยชราภาพ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แค่ไหนเพียงใด เราถามตัวเราเองว่าเราเคยอุ้มท่านอาบน้ำเช็ดตัว ทำความสะอาด เช็ดอุจจาระ ปัสสาวะ หรือป้อนน้ำ ป้อนยา อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ดีพอหรือไม่ ถามว่าเราทำด้วยกับมือตัวเราเองบ่อยไหม หรือเราวานจ้างให้คนอื่นทำ หรือให้พี่น้องที่อยู่บ้านเดียวกันกับพ่อแม่เรา คอยดูแลจัดการ
ถ้าเราจะนึกย้อนหลังไปในเวลาที่เรายังเป็นทารก เป็นเด็กเล็กที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ พ่อแม่ก็จะคอยทำทุกสิ่งทุกอย่างดังที่กล่าวมาข้างต้น ให้กับเราผู้เป็นลูกทุกๆคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เป็นแม่ จะคอยดูแล และปรนนิบัติเราตั้งแต่เราอยู่ในท้อง จนคลอดออกมา แล้วประคบประหงมเรา ริ้นไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม แม่อยากจะกินอาหารใดๆ คุณแม่ก็ต้องเลือกไม่รับประทานตามความอร่อยของตัวเอง เพราะกลัวว่าลูกจะได้รับอันตราย เจ็บป่วยเนื่องจากการดื่ม นมจากแม่ หรือกินอาหารขณะที่พวกเราอยู่ในท้องของแม่ จะกระดิก จะเคลื่อนไหวก็ต้องประคับประคองกลัวว่าลูกจะได้รับอันตราย หรือถูกกระแทก พ่อแม่ของเราคอยเฝ้าเราในขณะที่เราไม่สบาย เราอยู่โรงพยาบาล เราเจ็บป่วย เขาทั้งสองต้องอดหลับอดนอน ยามดึกค่ำคืน ขณะที่เรายังเป็นทารกอยู่ รุ่งเช้าก็ต้องออกไปทำงานอีก กว่าที่เราจะโตมาแต่ละคน มันแสนที่จะเหนื่อยยาก แต่พ่อแม่ทำให้ลูกทุกคนได้ แล้วเราผู้เป็นลูก เราคิดอย่างไร
เราจะตอบแทนพระคุณของท่าน ถึงแม้ว่าเราจะทำขนาดไหนเราก็ไม่สามารถที่จะทำให้ดีเท่ากับพ่อแม่ทำกับเรา เพราะท่านทั้งสอง ทำด้วยความรัก ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ฉะนั้นเราผู้เป็นลูกทั้งหลาย จงคิด จงคำนึงให้มาก อย่าคิดว่าแค่เราเพียงมาเยี่ยมเยียนให้เงินช่วยค่าใช้จ่าย ให้กับพ่อแม่แล้ว คือความสมบูรณ์ ถึงแก่นแท้แล้วในการปฏิบัติดีต่อท่าน จริงๆ แล้วยังมีอะไรอีกมากมาย ซึ่งเราเองจะต้องไปทบทวนว่าเรายังเล็กอยู่พ่อแม่ได้ทำอะไรกับเราไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เป็นแม่ ให้เราทบทวนให้มากๆ จะทำให้เรามีความสำนึก มีความรู้สึกที่ดีต่อท่าน
คุตบะห์วันศุกร์ มัสยิดท่าอิฐ
