มารยาทตื่นนอน
  จำนวนคนเข้าชม  11420

 

มารยาทอิสลาม

 

โดย : ประสาน (ซารีฟ)  ศรีเจริญ

 

        อิสลามเป็นศาสนาที่ให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตของมนุษย์  ไม่ว่าจะเป็นในรูปของปัจเจกชนหรือที่เกี่ยวข้องกับสังคมก็ตาม  การให้ความสำคัญดังกล่าวจะไม่ลืมแม้เรื่องเล็กน้อยของวิถีชีวิตบุคคล โดยเหตุดังกล่าวอิสลามจึงเน้นการปลูกฝังแนวทางการดำเนินชีวิตของบุคคลนับแต่แรกเกิดจนเติบใหญ่  ซึ่งผู้ปกครอง  พ่อแม่  และผู้มีหน้าที่อบรมจำเป็นต้องให้ความสำคัญในการใช้ชีวิตที่ดีแก่อนาคตของสังคม

 

หน้าที่สำคัญของผู้ปกครองที่มีต่อเด็กมี 3 ด้าน คือ 

 

     ♦ ด้านกายภาพ  กล่าวคือ ด้านร่างกายต้องให้การเจริญเติบโตของเด็กเป็นไปตามรูปแบบอิสลาม ด้วยการให้อาหารที่ดีมีคุณภาพ  ให้เด็กมีสุขภาพสมบูรณ์  และที่สำคัญต้องเลือกสรรอาหารที่ฮาลาล  (ถูกต้องตามศาสนา)  

     ♣ ด้านสมองและสติปัญญา  ต้องให้เด็กมีการศึกษาโดยเฉพาะความรู้พื้นฐานของอิสลามที่เรียกว่า  “ฟัรฎูอีน”  รวมทั้งความรู้ทั่วไปที่เด็กจะสามารถดำรงอยู่ในภาคภพนี้อย่างมีความสุข  

     ♥ ด้านจิตวิญญาณ  ด้วยการฝึกฝนให้เด็กได้เคร่งครัดในการปฏิบัติศาสนกิจและมีจิตใจเต็มเปี่ยมด้วยคุณธรรมและจริยธรรม  ที่สำคัญผู้ปกครองหรือผู้มีหน้าที่ทางสังคม  ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีและทำสิ่งดี ๆ ให้เด็กได้เห็นเป็นตัวอย่าง

       การปลูกฝังให้เด็กเป็นคนดีมีศาสนา  ถือเป็นหน้าที่ของพ่อแม่และผู้ปกครองทุกระดับและหน้าที่นี้ก็จะถูกสอบสวนในวันปรภพอีกด้วย ดังคำสอนของศาสนทูต  ความว่า

“พวกท่านทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบ  และทุกคนต้องถูกสอบสวนในหน้าที่นั้น”

       การอบรมให้เด็กมีมารยาทตามแบบอิสลาม  ถือเป็นหน้าที่สำคัญที่ผู้ปกครองต้องดำเนินการ  และนี้คือมารยาทอิสลามที่เป็นแนวทางสำหรับผู้ปกครองจะใช้เป็นต้นทุนในการอบรมสั่งสอนต่อไป

มารยาทตื่นนอน

         การตื่นขึ้นจากการนอนของมนุษย์  ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังความสามารถอันยิ่งใหญ่ของอัลลอฮฺประการหนึ่ง  เป็นเสมือนสัญลักษณ์การเกิดใหม่ของมนุษย์หลังการตาย  อัลลอฮฺ  ทรงเรียการนอนว่าเป็นความตาย  และเรียกการตื่นนอนว่าการเกิดใหม่ในวันปรภพ  พระองค์ตรัสในบทอัซซุมัร  โองการที่ 42  ความว่า

“อัลลอฮฺทรงให้ชีวิตทั้งหลายสิ้นอายุขัยเมื่อถืงวาระตาย และแก่ชีวิตที่ยังไม่ตายในยามนอนหลับ  (โดยให้หมดความรู้สึกประหนึ่งเสียชีวิต)  

แล้วพระองค์ทรงกักชีวิตที่พระองค์ทรงกำหนดความตายแก่เขาไว้แล้ว(ไม่ฟื้น)  

และทรงปล่อยชีวิตอื่น ๆ (ให้กลับสู่ร่างมีชีวิตต่อไป)  ไปจนถึงวาระที่กำหนดโดยแน่ชัด  

แท้จริงการเหล่านี้นั้น  เป็นสัญลักษณ์ให้แก่บรรดากลุ่มชนที่จักได้พินิจพิจารณา” 

 (39/42)

         การตื่นนอน เป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่หลังจากสูญสิ้นชีวิตไปช่วงระยะหนึ่ง  และเปิดหน้าใหม่ของชีวิตที่ขาวสะอาดสำหรับวันใหม่ โดยเริ่มจากการตื่นนอนไปสุดสิ้นเวลาเข้านอนอีกครั้งหนึ่ง และในช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นการเปิดสนามแห่งการปฏิบัติงาน ซึ่งชิ้นงานทั้งหมดนั้นจะต้องถูกนำเสนอในวันแห่งการชำระบาปบุญ

         เมื่อการตื่นนอน เป็นการเริ่มชีวิตใหม่ประจำวัน ก็เป็นการสมควรที่มุสลิมทุกคนจะต้องเปิดประเดิมวันใหม่ด้วยปฏิบัติกิจกรรมที่ดีงาม เป็นกิจกรรมที่สร้างความสัมพันธ์กับพระผู้สร้างของเขา รำลึกถึงพระคุณของพระผู้ประทานปัจจัยต่าง ๆ ให้เขา  และขอบคุณต่อพระผู้ประทานความโปรดปรานให้เขาด้วยการพิทักษ์รักษาตนเองให้พ้นจากสิ่งชั่วร้ายขณะนอนหลับ

        ดังนั้น ช่วงเวลาดังกล่าวนับแต่วินาทีแรกที่ตื่นนอน ก็เป็นการสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกสรรที่จะกระทำกิจกรรมที่ดีงาม เป็นกิจกรรมที่สร้างความพอพระทัยให้แก่อัลลอฮฺองค์อภิบาล เป็นกิจกรรมที่เอื้อประโยชน์ให้แก่ตนเองและบุคคลทั่วไป และนี้คือ มารยาทอิสลามที่เกี่ยวกับมารยาทเมื่อตื่นนอน

 

     1. พยายามตื่นนอนแต่เช้าก่อนแสงอรุณขึ้น การตื่นนอนเร็วเพื่อสามารถมีเวลาปฏิบัติกิจกรรมเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่จิตวิญญาณ ทำธุระจำเป็นด้านสุขภาพ ฉกฉวยโอกาสที่สมองกำลังปลอดโปร่งเพื่อการทำศาสนกิจ ทำธุรกิจการงานและการศึกษา

     2. สิ่งแรกที่หัวใจ สมองและลิ้นต้องทำงานก็คือ การรำลึกถึงอัลลอฮฺ  และขอพรตามที่ได้รับรายงานจากท่านศาสดามุฮำมัด  ว่า  “อัลฮัมดุลิลลาฮิลละซี อะห์ยานา วะอะมาตะนา วะอิลัยฮินนุซูร”  และ  บทขอพรก่อนนอนคือ  “บิสมิกั้ลลอฮุมมะอะหฺยา วะอะมู๊ต”

     3. ให้รีบทำความสะอาด อาบน้ำละหมาดและทำการละหมาด จงให้งานเหล่านี้เป็นงานเริ่มต้นแห่งวันใหม่หลังจากที่ได้รำลึกถึงอัลลอฮฺและขอพรแล้ว ไม่ควรทำกิจกรรมอื่นใดก่อนงานที่กล่าวมานี้

     4. เมื่อตื่นแล้วต้องไม่อ้อยอิ่งอยู่บนที่นอนและต้องพับที่นอนทันที เพื่อมิให้จมปลักอยู่กับการฝันต่ออย่างเลื่อนลอย

     5. ต้องไม่เกียจคร้านที่จะทำละหมาด เนื่องจากความหนาวหรือเหนื่อยหรือง่วงนอน เพราะการเช่นนั้น ทั้งหมดเป็นความรู้สึกที่จะทำให้เกิดอารมณ์นำไปสู่จิตใฝ่ต่ำละทิ้งละหมาดในที่สุด

     6. หลังแสงอรุณขึ้นต้องไม่กลับไปนอนต่ออีก หรือผัดผ่อนยังไม่ละหมาด เพราะเห็นว่ายังมีเวลาอยู่ อันการคิดและทำอย่างนั้น เป็นการชักนำของมารร้ายชัยฏอน ที่จะทำให้มุสลิมละทิ้งการละหมาดซุบฮฺ

     7. ล้างหน้าทำความสะอาดช่องปากอย่างถูกต้อง ควรจะแปรงฟันด้วยก็จะเป็นการดี เพราะการทำความสะอาดช่องปากด้วยการแปรงฟันอย่างถูกวิธีจะทำให้ปากสะอาดและสุขภาพฟันดี

     8. ทำจิตให้สงบ ไม่ส่งเสียงดังโครมคราม และไม่ทำลายการพักผ่อนของครอบครัวและเพื่อนบ้าน

     9. ต้องไม่รีบหุนหันออกจากห้องนอนทันทีเมื่อตื่นนอน จนกว่าจะทำตนให้เรียบร้อย และปรับอุณหภูมิในตัวให้สอดคล้องกับอากาศด้านนอกห้องเสียก่อน

     10. ปลุกครอบครัวหรือคนอื่น ๆ ต้องกระทำอย่างระมัดระวังและนิ่มนวล ด้วยการใช้คำพูดที่เป็นการปลุกให้เกิดสำนึกเช่น บอกว่า “การละหมาดนั้นย่อมดีกว่าการนอน” หากเขาไม่ยอมตื่นก็ต้องปล่อยไปก่อนแล้วอีกสักครู่ค่อยกลับมาปลุกใหม่

     11. ควรเปิดหน้าต่างห้องที่ปิดอยู่ให้อากาศและแสงสว่างผ่านเข้า จะทำให้สดชื่นและไม่งัวเงีย

     12. จัดระเบียบให้เตียงและที่นอน  รำลึกถึงอัลลอฮฺ  ไม่ควรปล่อยให้ห้องนอนและเตียงรกรุงรัง อันจะส่งผลให้กลายเป็นที่พักพิงของสัตว์หรือแมลงบางชนิดได้ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อตนเองและครอบครัวในที่สุด