การงานเพียงอย่างเดียวจะพอเพียงกับสวรรค์หรือไม่ ?
เขียนโดย : ดร. ญะมาล อัล- มะรอกีบีย์
แปลและเรียบเรียงโดย : บินอับดุลลอฮฺ ฏอนฏอวีย์
สวรรค์ คือ สถานที่พำนักอันทรงเกียรติ เป็นสถานที่แห่งความเมตตา อัลลอฮฺ ตรัสกับสวรรค์ว่า :
“เจ้า(สวรรค์) คือ ความเมตตาของข้า และความเมตตาของข้าที่มีต่อเจ้า ก็จะประสบกับบ่าวของข้า ที่ข้าประสงค์เท่านั้น ”
ฉะนั้น คนจะไม่ได้เข้าสวรรค์อันเนื่องมาจากการประกอบอามัลเพียงอย่างเดียว แต่ มุสลิม และ มุอฺมิน จะได้เข้าสวรรค์ด้วยกับความเมตตา และความประเสริฐของอัลลอฮฺ ควบคู่กันไปด้วย พระองค์คือ ผู้ทรงชี้แนะสู่ทางนำอันเที่ยงตรง แล้วก็ให้ความสำเร็จต่อท่านในการประกอบอามัลที่ศอและฮฺ
ท่านร่อซูล กล่าวว่า “การงานของบุคคลเพียงอย่างเดียว จะไม่พอเพียงกับสวรรค์ของอัลลอฮฺเป็นอันขาด ”
บรรดาศอฮาบะฮฺกล่าวว่า “แม้กระทั่งท่านด้วยหรือครับ ญาร่อซูลุลลอฮฺ ?”
ท่านร่อซูล ตอบว่า “แม้แต่ฉันก็เช่นกัน ยกเว้นเสียแต่พระองค์จะทรงเมตตา และโปรดปรานต่อฉันอย่างท่วมท้น"
"ดังนั้นพวกเจ้าทั้งหลายจงทำอามัลต่าง ๆ ให้ดีที่สุดให้ถูกต้องที่สุด จงแจ้งข่าวดีเถิด(สวรรค์) และจงขอความช่วยเหลือต่อพระองค์ ทั้งยามเช้าและยามเย็น และช่วงหนึ่งของกลางคืน จงตั้งความหวังให้มั่นคงและถูกต้อง พึงทราบเถิดว่า การงานที่รักยิ่ง ณ อัลลอฮฺ คือ การงานที่กระทำอย่างสม่ำเสมอ ถึงแม้จะเพียงเล็กน้อย
(บันทึกโดย บุคอรีย์ โปรดดูรายละเอียด 39-5678 , 6464-6467)
ฉะนั้น ฮะดีษบทนี้จึงคล้องกับดำรัสของอัลลอฮฺ ในซูเราะฮฺ อัล-อะอฺรอฟ : 43
“และพวกเราได้ถูกป่าวร้องว่านั่นแหละ คือ สวนสวรรค์ โดยที่พวกท่านได้รับมันไว้เป็นมรดก เนื่องด้วยสิ่งที่พวกเจ้าเคยกระทำกันไว้”
มีฮะดีษมากมาย ที่กล่าวถึงบุคคลที่จะได้รับสวรรค์ก็ด้วยกับ การมีอีมานที่ถูกต้อง และการทำอามัลที่ซอและห์
ท่านร่อซูล ได้กล่าวไว้ว่า “บุคคลใดที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ และร่อซูลของพระองค์ ดำรงไว้ซึ่งการละหมาด ถือศีลอดในเดือนรอมฎอน เสียสละในหนทางของพระองค์ หรือ สิ้นชีวิต ณ แผ่นดินที่เขากำเนิด ก็เป็นสิทธิของพระองค์ ที่จะให้เขาได้รับสวรรค์เป็นสิ่งตอบแทน”
บรรดาศอฮาบะฮฺ ถามว่า : “ แล้วเราจะไม่แจ้งข่าวดีอันนี้กับมนุษย์หรอกหรือ ? ”
ท่านร่อซูล ตอบว่า :
“แท้จริง สวรรค์นั้นมีร้อยชั้น ซึ่งพระองค์ทรงตระเตรียมให้แด่ผู้ที่เสียสละในหนทางของพระองค์ ซึ่งความกว้างระหว่างของแต่ละชั้นนั้น เท่ากับระดับของชั้นฟ้าและแผ่นดิน ดังนั้น พึงทราบเถิด หากพวกเจ้าจะขอสวรรค์ต่อพระองค์ ก็จงขอที่ระดับของ อัลฟิรเดาซฺ ซึ่งเป็นสวรรค์ชั้นสูงสุด และจะอยู่ในท่ามกลางของสวรรค์ระดับต่าง ๆ ณ ที่ชั้นจะเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำต่าง ๆ ของสวรรค์ ( แม่น้ำนม, แม่น้ำเหล้า , แม่น้ำน้ำผึ้ง ) และทางเบื้องบนจะเป็น อะรัช(บรรลังก์)ของพระองค์ ”
(บันทึกโดย อัลบุคอรีย์)
ในบันทึกของอิมาม อัลบุคอรีย์ และมุสลิม ท่านร่อซูล กล่าวไว้มีความว่า
“ บุคคลใดที่ปฏิญาณว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่แท้จริงนอกจากอัลลอฮ์ องค์เดียวเท่านั้น และนบีมุฮัมมัด เป็นบ่าวและร่อซูลของพระองค์ นบีอีซาเป็นบ่าวของพระองค์ บุตรที่เกิดจากมัรยัม (โดยปราศจากบิดา) โดยวิธีเป่าวิญญาณเข้าไปในครรภ์ของมัรยัม
ใครที่ศรัทธาอีกว่า สวรรค์ นรก มีจริงมิใช่การหลอกลวง (เมื่อเขาศรัทธามั่นในสิ่งที่กล่าวมา) ก็เป็นสิทธิของอัลลอฮฺ ที่จะให้เขาเข้าสวรรค์ของพระองค์ ตามการงานที่เขาได้กระทำไว้ ”
ในบันทึกของอัลบุคอรีย์ 3016 ท่านร่อซูล กล่าวไว้มีความว่า
“แท้จริงชาวสวรรค์นั้น จะมองเห็นกันและกัน เหมือนกับเรามองดวงดาวที่ส่องแสง ทางด้านขอบฟ้าจากทางทิศตะวันออกและ ทิศตะวันตก นั่นคือ ความแตกต่าง(ประเสริฐ) ของแต่ละคน(ซึ่งขึ้นอยู่กับการประกอบกรรมดี ที่ได้ทำไว้ในดุนยา)”
บรรดาศอฮาบะฮฺ ถามว่า : “ ญาร่อซูลุลลอฮฺ ณ ที่นั้น คือ ที่พำนักของบรรดาอัล -อัมบิยาอฺ ซึ่งเป็นสถานที่เฉพาะของพวกเขาเหล่านั้น ปุถุชนธรรมดาอย่างพวกเราไม่สามารถบรรลุถึง ณ ที่นั่นได้ใช่ไหมครับ ? ”
ท่านร่อซูล ตอบว่า : “หาเป็นเช่นนั้นไม่ ฉันขอสาบานว่า ผู้ที่ศรัทธามั่นต่ออัลลอฮฺและร่อซูลของพระองค์อย่างแท้จริง (และยึดมั่น ปฏิบัติตามคำสั่งใช้ –หลีกห่างจากข้อห้ามต่าง ๆ) เขาผู้นั้นก็มีสิทธิที่จะบรรลุถึงที่ของบรรดาอัมบิยาอฺได้ ”
ประชาชาติของนบีมุฮัมมัด จะมีจำนวนมากที่สุดของชาวสวรรค์
ส่วนหนึ่งจากความเมตตา กรุณาของอัลลอฮฺ ที่มีต่ออุมมะฮฺ มุฮัมมะดียะฮฺ คือ การทำให้ประชาชาตินบีมุฮัมมัด มีจำนวนมากที่สุดของชาวสวรรค์ และท่านนบี ก็จะมีผู้ติดตามมากที่สุดเช่นกันในวันกิยามะฮฺ มีฮะดีษมากมายยืนยันในเรื่องนี้
ในบันทึกของบุคอรีย์ และมุสลิม ท่านร่อซูล กล่าวไว้ มีความว่า
“(ในวันกิยามะฮฺ)จะมีประชาชาติของนบีท่านต่าง ๆ แต่ละประชาชาติก็จะอยู่กับนบีของพวกเขา และฉันก็เห็นกลุ่มคณะประมาณสิบกว่าคน อยู่ร่วมกับนบีของเขา นบีของท่านก็มีประชาชาติเพียง คน หรือ สองคน และนบีบางท่านก็ไม่มีประชาชาติเลย แม้แต่คนเดียว และเมื่อฉันมองไปอีกทางหนึ่ง ก็พบกลุ่มชนมหึมา ฉันจึงคิดว่าคงจะเป็นประชาชาติของฉัน
ก็มีเสียงกล่าวขึ้นว่า : นี่คือ นบีมูซา และประชาชาติของเขา แต่ว่า มุฮัมมัดเจ้าจงมองไปที่ฟากฟ้าด้านนี้ เจ้าก็พบกลุ่มชนมหึมา
เสียงนั้นกล่าวต่ออีกว่า แล้วเจ้าจงมองไปยังฟากฟ้าอีด้านหนึ่ง ก็จะพบกลุ่มชนมหึมาเช่นนั้น และทั้งหมดนั้นก็คือ ประชาชาติของเจ้า
เสียงนั้นก็จะกล่าวต่ออีกว่า จะมี 70,000 จากประชาชาติของเจ้า จะได้เข้าสวรรค์โดยปราศจากการสอบสวนและการลงโทษ”
ในบันทึกของอิมามมุสลิม ท่านนบีมุฮัมมัด กล่าวว่า :
“ฉันเป็นนบีที่มีประชาชาติมากที่สุดในบรรดาประชาชาติของนบีท่านต่าง ๆ และฉันก็จะเป็นคนแรกที่เปิดประตูสวรรค์”
อีกฮะดีษหนึ่ง ท่านนบีมุฮัมมัด กล่าวไว้มีความว่า :
“ฉันเป็นคนแรกที่รับสิทธิในการขอชะฟาอะฮฺ และฉันก็ได้รับความไว้ใจ มีคนเชื่อฟังมากที่สุด
เพราะแท้จริงมี นบีบางท่าน จะมีผู้ให้ความไว้วางใจและเชื่อฟังเพียงคน หรือสองคนเท่านั้น ”
ในบันทึกของมุสลิม ท่านร่อซูล กล่าวว่า
“ฉันขอสาบานด้วยชีวิตของนั้น ซึ่งอยู่ภายใต้พระหัตถ์ของพระองค์ ฉันปรารถนาที่จะให้ประชาชาติของฉันมีจำนวนครึ่งหนึ่งของชาวสวรรค์”
ในบันทึกของมุสลิม ท่านร่อซูล กล่าวว่า :
“ชาวสวรรค์ นั้นมีจำนวน 120 แถว และ 80 แถวนั้นก็จะเป็นประชาชาติของฉัน ส่วนอีก 40 แถวนั้น จะเป็นประชาชาติของนบีท่านอื่น ๆ ”
จากนิตยสารรายเดือน อัต- เตาฮีด
ที่มา : อัล-อิศลาห์ สมาคม