การงานเพียงอย่างเดียวจะพอเพียงกับสวรรค์หรือไม่ ?
  จำนวนคนเข้าชม  8264

 

การงานเพียงอย่างเดียวจะพอเพียงกับสวรรค์หรือไม่ ?

 

เขียนโดย    :   ดร. ญะมาล อัล- มะรอกีบีย์ 

แปลและเรียบเรียงโดย :   บินอับดุลลอฮฺ   ฏอนฏอวีย์ 

 

 สวรรค์ คือ สถานที่พำนักอันทรงเกียรติ เป็นสถานที่แห่งความเมตตา อัลลอฮฺ  ตรัสกับสวรรค์ว่า : 

 

“เจ้า(สวรรค์) คือ ความเมตตาของข้า และความเมตตาของข้าที่มีต่อเจ้า ก็จะประสบกับบ่าวของข้า ที่ข้าประสงค์เท่านั้น ”
 

        ฉะนั้น คนจะไม่ได้เข้าสวรรค์อันเนื่องมาจากการประกอบอามัลเพียงอย่างเดียว แต่ มุสลิม และ มุอฺมิน จะได้เข้าสวรรค์ด้วยกับความเมตตา และความประเสริฐของอัลลอฮฺ ควบคู่กันไปด้วย พระองค์คือ ผู้ทรงชี้แนะสู่ทางนำอันเที่ยงตรง แล้วก็ให้ความสำเร็จต่อท่านในการประกอบอามัลที่ศอและฮฺ

 

ท่านร่อซูล  กล่าวว่า “การงานของบุคคลเพียงอย่างเดียว จะไม่พอเพียงกับสวรรค์ของอัลลอฮฺเป็นอันขาด ” 

บรรดาศอฮาบะฮฺกล่าวว่า “แม้กระทั่งท่านด้วยหรือครับ ญาร่อซูลุลลอฮฺ ?”  

ท่านร่อซูล  ตอบว่า “แม้แต่ฉันก็เช่นกัน ยกเว้นเสียแต่พระองค์จะทรงเมตตา และโปรดปรานต่อฉันอย่างท่วมท้น"

       "ดังนั้นพวกเจ้าทั้งหลายจงทำอามัลต่าง ๆ ให้ดีที่สุดให้ถูกต้องที่สุด จงแจ้งข่าวดีเถิด(สวรรค์) และจงขอความช่วยเหลือต่อพระองค์ ทั้งยามเช้าและยามเย็น และช่วงหนึ่งของกลางคืน จงตั้งความหวังให้มั่นคงและถูกต้อง พึงทราบเถิดว่า การงานที่รักยิ่ง ณ อัลลอฮฺ คือ การงานที่กระทำอย่างสม่ำเสมอ ถึงแม้จะเพียงเล็กน้อย
 

(บันทึกโดย บุคอรีย์ โปรดดูรายละเอียด 39-5678 , 6464-6467)

ฉะนั้น ฮะดีษบทนี้จึงคล้องกับดำรัสของอัลลอฮฺ  ในซูเราะฮฺ อัล-อะอฺรอฟ : 43

“และพวกเราได้ถูกป่าวร้องว่านั่นแหละ คือ สวนสวรรค์ โดยที่พวกท่านได้รับมันไว้เป็นมรดก เนื่องด้วยสิ่งที่พวกเจ้าเคยกระทำกันไว้” 

 

มีฮะดีษมากมาย ที่กล่าวถึงบุคคลที่จะได้รับสวรรค์ก็ด้วยกับ การมีอีมานที่ถูกต้อง และการทำอามัลที่ซอและห์  

          ท่านร่อซูล  ได้กล่าวไว้ว่า “บุคคลใดที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ และร่อซูลของพระองค์ ดำรงไว้ซึ่งการละหมาด ถือศีลอดในเดือนรอมฎอน เสียสละในหนทางของพระองค์ หรือ สิ้นชีวิต ณ แผ่นดินที่เขากำเนิด ก็เป็นสิทธิของพระองค์ ที่จะให้เขาได้รับสวรรค์เป็นสิ่งตอบแทน” 

บรรดาศอฮาบะฮฺ ถามว่า : “ แล้วเราจะไม่แจ้งข่าวดีอันนี้กับมนุษย์หรอกหรือ ? ”  

ท่านร่อซูล  ตอบว่า : 

       “แท้จริง สวรรค์นั้นมีร้อยชั้น ซึ่งพระองค์ทรงตระเตรียมให้แด่ผู้ที่เสียสละในหนทางของพระองค์ ซึ่งความกว้างระหว่างของแต่ละชั้นนั้น เท่ากับระดับของชั้นฟ้าและแผ่นดิน ดังนั้น พึงทราบเถิด หากพวกเจ้าจะขอสวรรค์ต่อพระองค์ ก็จงขอที่ระดับของ อัลฟิรเดาซฺ ซึ่งเป็นสวรรค์ชั้นสูงสุด และจะอยู่ในท่ามกลางของสวรรค์ระดับต่าง ๆ ณ ที่ชั้นจะเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำต่าง ๆ ของสวรรค์ ( แม่น้ำนม, แม่น้ำเหล้า , แม่น้ำน้ำผึ้ง ) และทางเบื้องบนจะเป็น อะรัช(บรรลังก์)ของพระองค์ ”

(บันทึกโดย อัลบุคอรีย์) 

ในบันทึกของอิมาม อัลบุคอรีย์  และมุสลิม  ท่านร่อซูล   กล่าวไว้มีความว่า 

         “ บุคคลใดที่ปฏิญาณว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่แท้จริงนอกจากอัลลอฮ์ องค์เดียวเท่านั้น และนบีมุฮัมมัด เป็นบ่าวและร่อซูลของพระองค์  นบีอีซาเป็นบ่าวของพระองค์ บุตรที่เกิดจากมัรยัม (โดยปราศจากบิดา) โดยวิธีเป่าวิญญาณเข้าไปในครรภ์ของมัรยัม

          ใครที่ศรัทธาอีกว่า สวรรค์ นรก มีจริงมิใช่การหลอกลวง (เมื่อเขาศรัทธามั่นในสิ่งที่กล่าวมา) ก็เป็นสิทธิของอัลลอฮฺ ที่จะให้เขาเข้าสวรรค์ของพระองค์ ตามการงานที่เขาได้กระทำไว้ ” 

 

ในบันทึกของอัลบุคอรีย์ 3016  ท่านร่อซูล  กล่าวไว้มีความว่า

     “แท้จริงชาวสวรรค์นั้น จะมองเห็นกันและกัน เหมือนกับเรามองดวงดาวที่ส่องแสง ทางด้านขอบฟ้าจากทางทิศตะวันออกและ ทิศตะวันตก นั่นคือ ความแตกต่าง(ประเสริฐ) ของแต่ละคน(ซึ่งขึ้นอยู่กับการประกอบกรรมดี ที่ได้ทำไว้ในดุนยา)”

     บรรดาศอฮาบะฮฺ ถามว่า  : “ ญาร่อซูลุลลอฮฺ ณ ที่นั้น คือ ที่พำนักของบรรดาอัล -อัมบิยาอฺ ซึ่งเป็นสถานที่เฉพาะของพวกเขาเหล่านั้น ปุถุชนธรรมดาอย่างพวกเราไม่สามารถบรรลุถึง ณ ที่นั่นได้ใช่ไหมครับ ? ” 

     ท่านร่อซูล  ตอบว่า : “หาเป็นเช่นนั้นไม่ ฉันขอสาบานว่า ผู้ที่ศรัทธามั่นต่ออัลลอฮฺและร่อซูลของพระองค์อย่างแท้จริง (และยึดมั่น  ปฏิบัติตามคำสั่งใช้ –หลีกห่างจากข้อห้ามต่าง ๆ) เขาผู้นั้นก็มีสิทธิที่จะบรรลุถึงที่ของบรรดาอัมบิยาอฺได้ ”  


ประชาชาติของนบีมุฮัมมัด  จะมีจำนวนมากที่สุดของชาวสวรรค์

          ส่วนหนึ่งจากความเมตตา กรุณาของอัลลอฮฺ ที่มีต่ออุมมะฮฺ มุฮัมมะดียะฮฺ คือ การทำให้ประชาชาตินบีมุฮัมมัด  มีจำนวนมากที่สุดของชาวสวรรค์ และท่านนบี  ก็จะมีผู้ติดตามมากที่สุดเช่นกันในวันกิยามะฮฺ มีฮะดีษมากมายยืนยันในเรื่องนี้

ในบันทึกของบุคอรีย์ และมุสลิม ท่านร่อซูล  กล่าวไว้ มีความว่า

          “(ในวันกิยามะฮฺ)จะมีประชาชาติของนบีท่านต่าง ๆ แต่ละประชาชาติก็จะอยู่กับนบีของพวกเขา และฉันก็เห็นกลุ่มคณะประมาณสิบกว่าคน อยู่ร่วมกับนบีของเขา นบีของท่านก็มีประชาชาติเพียง คน หรือ สองคน และนบีบางท่านก็ไม่มีประชาชาติเลย แม้แต่คนเดียว และเมื่อฉันมองไปอีกทางหนึ่ง ก็พบกลุ่มชนมหึมา ฉันจึงคิดว่าคงจะเป็นประชาชาติของฉัน 

ก็มีเสียงกล่าวขึ้นว่า : นี่คือ นบีมูซา และประชาชาติของเขา แต่ว่า มุฮัมมัดเจ้าจงมองไปที่ฟากฟ้าด้านนี้ เจ้าก็พบกลุ่มชนมหึมา 

เสียงนั้นกล่าวต่ออีกว่า แล้วเจ้าจงมองไปยังฟากฟ้าอีด้านหนึ่ง ก็จะพบกลุ่มชนมหึมาเช่นนั้น และทั้งหมดนั้นก็คือ ประชาชาติของเจ้า  

เสียงนั้นก็จะกล่าวต่ออีกว่า  จะมี 70,000 จากประชาชาติของเจ้า จะได้เข้าสวรรค์โดยปราศจากการสอบสวนและการลงโทษ” 

ในบันทึกของอิมามมุสลิม  ท่านนบีมุฮัมมัด  กล่าวว่า  :

“ฉันเป็นนบีที่มีประชาชาติมากที่สุดในบรรดาประชาชาติของนบีท่านต่าง ๆ และฉันก็จะเป็นคนแรกที่เปิดประตูสวรรค์” 

อีกฮะดีษหนึ่ง ท่านนบีมุฮัมมัด  กล่าวไว้มีความว่า :

“ฉันเป็นคนแรกที่รับสิทธิในการขอชะฟาอะฮฺ และฉันก็ได้รับความไว้ใจ มีคนเชื่อฟังมากที่สุด

เพราะแท้จริงมี นบีบางท่าน จะมีผู้ให้ความไว้วางใจและเชื่อฟังเพียงคน หรือสองคนเท่านั้น ” 

ในบันทึกของมุสลิม  ท่านร่อซูล  กล่าวว่า  

“ฉันขอสาบานด้วยชีวิตของนั้น ซึ่งอยู่ภายใต้พระหัตถ์ของพระองค์ ฉันปรารถนาที่จะให้ประชาชาติของฉันมีจำนวนครึ่งหนึ่งของชาวสวรรค์”

ในบันทึกของมุสลิม  ท่านร่อซูล  กล่าวว่า : 

“ชาวสวรรค์ นั้นมีจำนวน 120 แถว และ 80 แถวนั้นก็จะเป็นประชาชาติของฉัน ส่วนอีก 40 แถวนั้น จะเป็นประชาชาติของนบีท่านอื่น ๆ ”  

 

 

จากนิตยสารรายเดือน อัต- เตาฮีด 
 

ที่มา : อัล-อิศลาห์ สมาคม