อ่านฟาติฮะห์ซ้ำต้องสุญูดซะฮฺวีหรือไม่ ?
  จำนวนคนเข้าชม  10712

 

อ่านฟาติฮะห์ซ้ำต้องสุญูดซะฮฺวีหรือไม่ ?

 

อุมมุ อุ้ลยา แปลและเรียบเรียง

 

คำถาม : 

 

หากกลับไปอ่านฟาติฮะห์ซ้ำอีกครั้ง ทั้งแบบตั้งใจอ่านซ้ำและหลงลืม หรือเพราะสงสัยจำเป็นต้องสุญูดซะฮฺวีหรือไม่ ? 
และหากเกิดสงสัยขณะอ่านตะชัฮฮุด (อัตตะฮี้ยาตุ ฯ ) จะต้องกลับไปอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น และต้องสุญูดซะฮฺวีหรือไม่ ? 
และถ้าผู้ละหมาดไม่ทราบว่าสิ่งที่เขาทำไปขณะละหมาดทำให้ต้องสุญูดซะฮฺวีหรือไม่ เขาจะทำอย่างไร ?

 

คำตอบ :

         จากคำถามทำให้เราทราบว่า ท่านประสบกับเสียงกระซิบกระซาบอย่างมากขณะละหมาด เราจึงขอบอกกับท่านว่าไม่ต้องไปใส่ใจมัน เพราะวิธีนี้คือวิธีรักษาอาการของท่านที่ได้ผลมากที่สุด พร้อมกันนี้เราขอเตือนให้ท่านทราบว่า คนที่เกิดความสงสัยมากๆ เป็นต้นว่ารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ก็ไม่ต้องไปสนใจและไม่ต้องไปทำตามสิ่งที่ตนสงสัย และไม่จำเป็นต้องสุญูดซะฮฺวี

         ท่านอัลมัรดาวียฺ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ  ระบุไว้ในหนังสือ “อัลอินศอฟ” ว่า : คนที่เผลอไผลขี้ลืมมาก กระทั่งมันกลายเป็นการกระซิบกระซาบเท่ากับเขากำลังถูกยุยงรบกวน เพราะมันทำให้เขาเข้าไปสู่การเสริมเติมแต่งศาสนา  จนกลายเป็นการเพิ่มเติมการละหมาด ทั้งที่แน่ใจว่าได้กระทำโดยสมบูรณ์แล้ว จึงจำเป็นที่เขาจะต้องปล่อยทิ้งความรู้สึกที่ว่านี้เสีย

         ส่วนคนที่ไม่ได้เป็นโรคถูกกระซิบกระซาบนี้  หากเขาอ่านฟาติฮะห์ซ้ำ หรืออ่านบางส่วนของต้นซ้ำโดยเจตนา การละหมาดของเขาถือว่าถูกต้องใช้ได้ ตามที่นักวิชาการบางกลุ่มได้ให้น้ำหนักไว้ และหากว่าเขาอ่านซ้ำโดยที่ลืมหรือสงสัย ละหมาดของเขาก็ยังถือว่าใช้ได้อยู่เช่นกัน และตามความเห็นของนักวิชาการบางคนก็ให้ทำสุญูดซะฮฺวีด้วย

          สำหรับการสงสัยเวลากล่าวตะชัฮฮุดนั้น  หากเกิดตรงตอนท้ายของตะชัฮฮุด (ตั้งแต่เริ่มให้ศ่อละวาตแก่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ซึ่งถือเป็นรุก่นหนึ่งของการละหมาดก็ให้อ่านซ้ำใหม่ เพราะใครที่สงสัยว่าทำหรือยังไม่ได้ทำ (ในรุก่นของการละหมาด) ก็เสมือนกับว่าเขายังไม่ได้ทำ จึงจำเป็นต้องกลับไปทำใหม่อีกครั้ง เพราะการสงสัยว่าไม่ได้ทำนั้น ก็เท่ากับว่าไม่ได้ทำจริงๆ และให้สุญูดซะฮฺวีด้วย (สุญูดหลังให้สลาม)

          ท่านอิบนุ กุดามะฮฺ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ กล่าวไว้ในหนังสือ “มุฆนีย์” ว่า : “ หากสงสัยว่าไม่ได้ทำรุก่นใดรุก่นหนึ่งของการละหมาด หรือทำบกพร่องอะไรหรือไม่ ? ฮุก่มของเขาก็คือ ฮุก่มของคนที่ยังไม่ได้ทำ (คือต้องกลับไปทำใหม่) ไม่ว่าเขาจะเป็นอิหม่าม หรือละหมาดคนเดียวก็ตาม เพราะพื้นฐานเดิมเท่ากับว่ายังไม่ได้มีการกระทำนั้นๆ เกิดขึ้น (ยังไม่ได้ทำ)

          แต่หากสงสัยในตอนต้นของตะชัฮฮุด ก็ไม่จำเป็นต้องสุญูดซะฮฺวี (เพราะเป็นซุนนะห์ในการละหมาด หากไม่ได้อ่านก็ไม่ทำให้ละหมาดเสีย) เช่นเดียวกับการที่ทำสิ่งใดไปแล้วเกิดสงสัยว่า การกระทำนั้นส่งผลให้ต้องสุญูดซะฮฺวีหรือไม่ (ก็ไม่ต้องสุญูด) เพราะเป็นการสงสัยในสาเหตุของการสุญูดซะฮฺวี 
 

 

และอัลลอฮฺ  นั้นคือผู้ทรงรอบรู้ที่สุด

 

ที่มา : http://fatwa.islamweb.net/fatwa/index.php?page=showfatwa&Option=FatwaId&Id=258745

 

หมายเหตุ
 

รุก่นของการละหมาดได้แก่ :
 

1) การตั้งเจตนา
2) การตักบี๊รครั้งแรก (ตั๊กบีร่อตุ้ลเอี๊ยะฮฺรอม)
3) การอ่านฟาติฮะห์ในทุกร็อกอะฮฺ
4) การก้มรุกั๊วอ์
5) การเงยขึ้นจากรุกั๊วอ์ 
6) การสุญูด
7) การเงยขึ้นจากสุญูด
8) การนั่งระหว่างสองสุญูด
9) ความสำรวมและสงบนิ่ง
10) การนั่งสำหรับอ่านตะชะฮุดครั้งสุดท้าย
11) การอ่านตะชะฮุดครั้งสุดท้าย
12) การให้ศ่อลาวาตนบีในตะชะฮุดครั้งสุดท้าย
13)  การให้สลาม
14) การเรียงลำดับขั้นตอนการปฏิบัติ 
15) การยืนหากสามารถยืนได้

หากหลงลืมหรือไม่ได้กระทำในข้อหนึ่งข้อใดก็ให้เขากลับมาทำรุก่นนั้นๆ ใหม่และให้สุญูดซะฮฺวีหลังให้สลาม


 

ส่วนวาญิบของการละหมาดได้แก่ : 
 

1) การตักบี๊รที่ไม่ใช่ตักบี๊รครั้งแรก 
2) การกล่าว “สะมิอัลลอฮุลิมันฮะมิดะฮฺ” สำหรับอิหม่ามและผู้ละหมาดคนเดียว
3) การกล่าว “ร็อบบะนาวะละกัลฮัมดุ” สำหรับทุกคน 
4) การกล่าวขณะรุกั๊วะว่า  “ซุบฮาน่าร็อบบิยัลอะซีม” 
5) การกล่าวขณะสุญูดว่า “ซุบฮาน่าร็อบบิยัลอะอฺลา” 
6) การกล่าวขณะนั่งระหว่างสองสุญูดว่า  “ร็อบบิฆฟิรลี”
7) การอ่าน “ตะชะห์ฮุด” ครั้งแรก และการนั่งเพื่ออ่านตะชะห์ฮุด

         หากหลงลืมหรือไม่ได้กระทำวาญิบข้อใด เมื่อเลยตำแหน่งของมันไปแล้ว ก็ให้ละหมาดต่อไปไม่ต้องกลับมาทำซ้ำ และให้สุญูดซะฮฺวีก่อนให้สลาม


ส่วนการสงสัยในจำนวนร็อกอัต เช่นสงสัยว่าละหมาดไปแล้ว 2 หรือ 3 ร็อกอัตกันแน่ ให้กลับมาดูว่า อยู่ในสภาพใดต่อไปนี้ คือ
 

1. แน่ใจในจำนวนใดจำนวนหนึ่ง ก็ให้ยึดตามจำนวนที่แน่ใจแล้วละหมาดต่อให้เสร็จ จากนั้นให้สุญูดซะฮฺวีหลังให้สลาม
2.  ไม่แน่ใจว่าละหมาดไปกี่ร็อกอัตแล้ว ก็ให้ยึดเอาจำนวนที่น้อยกว่าและละหมาดต่อให้เสร็จ จากนั้นให้สุญูดซะฮฺวีก่อนให้สลาม 

( บางส่วนจากสรุปฮุก่มการสุญูดซะฮฺวี โดย เชค มุฮัมมัด บิน ซอและห์ อัลอุซัยมีน ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ )