รูปแบบของความอดทน
ดร.มุฮัมมัด บินมุซัฟฟิรฺ บินฮุเซนอัฏเฏาะวีลอัซซะฮฺรอนี
ความอดทนเป็นการงานอันสูงส่งอย่างหนึ่ง มันคืออำนาจจิตและการยอมรับสิ่งที่อัลลอฮฺทรงกำหนดมา มันคือ ความสามารถในการอดทนต่อเคราะห์กรรมใดๆ และไม่รู้สึกกังวลใจในยามลำบาก
ความอดทน เป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่งของมนุษย์ ซึ่งมีขึ้นและมีลง มันพัฒนาตัวมันเองโดยความรู้และประสบการณ์ของแต่ละบุคคล มันเป็นสภาพทางจิตใจที่ทำให้ผู้คนสงบและอุทิศตนให้แก่งานที่ตัวเองทำ โดยไม่ส่อให้เห็นถึงความเศร้าโศกเสียใจ ความโกรธหรือการบ่น ดังวจนะของอัลลอฮฺ ที่ว่า
“จงแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้อดทน ผู้ที่เมื่อทุกข์ภัยมาประสบแก่พวกเขา
พวกเขาจะกล่าวว่า แท้จริง เราเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺและยังพระองค์ที่เราจะกลับไป”
(กุรอาน 2: 156)
ผู้อดทนในอายะฮฺดังกล่าวนี้ คือผู้ที่เตรียมตัวเองไว้เพื่อที่จะเผชิญหน้ากับเคราะห์กรรมและการทดสอบใดๆ ที่อัลลอฮฺ ได้ทรงกำหนดไว้สำหรับพวกเขาด้วยความอดทน อัลลอฮฺ ได้ทรงกล่าวถึงความอดทนไว้ในที่ต่างๆ กว่า 70 แห่งในคัมภีร์กุรอาน และต่อไปนี้เป็นเพียงบางตัวอย่าง เช่น
“โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย จงขอความช่วยเหลือ อดทน และจงละหมาด เพราะอัลลอฮฺจะทรงอยู่กับบรรดาผู้อดทน”
(กุรอาน 2: 153)
“แท้จริง บรรดาผู้อดทนจะได้รับการตอบแทนโดยไม่มีการคำนวณ”
(กุรอาน 39: 10)
“บรรดาผู้อดทนจะได้รับรางวัลตอบแทนสิ่งที่พวกเขาได้ทำไว้อย่างดีที่สุด”
(กุรอาน16: 96)
ในซุนนะฮฺของท่านนบีมุฮัมมัด มีคำพูดของท่านนบีมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ เช่น
“ความอดทนในยามทุกข์ยากเดือดร้อน (โดยหวังรางวัลตอบแทนจากอัลลอฮฺในโลกหน้า) ช่วยให้เราปลอดภัยจากไฟนรก
เพราะอัลลอฮฺได้ทรงทำให้คนเหล่านั้นเข้าสวรรค์ โดยไม่คิดคำนวณสำหรับการงานของเขา”
(อัลฮัยษะมี, “มัจญมะฮฺอัซซะวาอิด” 10/284-285)
“ใครก็ตามที่ได้รับอะไรบางอย่างและรู้สึกขอบคุณ
ใครที่ถูกทดสอบและมีความอดทน
ใครที่กดขี่คนอื่นและขอการอภัยโทษหลังจากนั้น และ
ใครที่ถูกกดขี่และให้อภัย
คนเหล่านั้น จะได้รับความสงบสุขและความปลอดภัย (จากอัลลอฮฺ) และพวกเขาได้รับการชี้ทางที่ถูกต้อง”
(อัลฮัยษะมี, “มัจญมะอฺอัซซะวาอิด” 10/284)
“ความอดทนเป็นครึ่งหนึ่งของความศรัทธา”
(อัลเฆาะซาลี, “อิฮฺยาอุลูมุดดีน” 4/61)
“ไม่มีใครได้รับอะไรที่ดีไปกว่าและยิ่งใหญ่ไปกว่าความอดทน”
(บันทึกโดยมุสลิม 7/145, มาลิก “อัลมุวัฏเฏาะอฺ” 2/997)
ความอดทนเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของความศรัทธา(อีมาน) อับดุลลอฮฺ บินอับบาส รายงานว่า
ท่านนบีมุฮัมมัด ได้ถามสาวกของท่านว่า “พวกท่านเป็นผู้ศรัทธาจริงหรือ?”
บรรดาสาวกต่างนิ่งเงียบ ดังนั้น อุมัรฺ บินอัลค็อฏฏอบ จึงกล่าวว่า “ครับ ท่านรอซูลุลลอฮฺ”
ดังนั้น ท่านจึงถามว่า “อะไรคือสัญลักษณ์ของความศรัทธาของพวกท่าน?”
พวกเขาตอบว่า “เราขอบคุณต่ออัลลอฮฺในยามมีความสุขและมั่งคั่ง เราอดทนในยามประสบเคราะห์กรรม และเรายอมรับสิ่งที่อัลลอฮฺทรงกำหนดไว้”
ท่านนบี ได้กล่าวว่า “ขอสาบานด้วยพระเจ้าแห่งก๊ะอฺบ๊ะอฺ พวกท่านเป็นผู้ศรัทธาที่แท้จริง”
(อัลเฆาะซาลี, “อิฮฺยา อุลูมุดดีน” 4/61-62)
ลุฮัยบ์ บินสินาน รายงานว่าท่านนบีมุฮัมมัด ได้กล่าวว่า
“เป็นเรื่องที่น่าทึ่งเหลือเกินสำหรับชีวิตของผู้ศรัทธาเพราะในทุกกิจการของพวกเขานั้นมีความดี และนี่มิใช่กรณีของผู้ใดนอกไปจากกรณีของผู้ศรัทธาเท่านั้น เพราะถ้าหากเขามีโอกาสได้รับความสุข เขาก็ขอบคุณพระเจ้า ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับเขา และถ้าเขาประสบความทุกข์ยากลำบาก เขาก็ยังคงอดทน ซึ่งก็เป็นสิ่งดีสำหรับเขา”
(บันทึกโดยมุสลิม 18/125)
ผู้ศรัทธาได้รับคำแนะนำให้มีความอดทน ผู้ศรัทธาที่อดทนนั้นดีกว่าผู้ศรัทธาที่ไม่มีความอดทน ท่านนบีมุฮัมมัด ได้กล่าวว่า
“ผู้ศรัทธาที่อยู่ท่ามกลางผู้คนและยังคงอดทนต่อพฤติกรรมไม่ดีของผู้คนเหล่านั้น ดีกว่า ผู้ศรัทธาที่อยู่ท่ามกลางผู้คนและไม่มีความอดทนต่อพวกเขา”
(บันทึกโดยอัลบุคอรี)
มุสลิมต้องมีความอดทนในทุกเรื่อง เพราะเมื่อใครมีความอดทนน้อย เขาก็จะมีความกังวลและอาจสร้างความเสียหายได้ ความอดทนเป็นข้อพิสูจน์ถึงการมีวุฒิภาวะ มีความสุขุมและความกล้าหาญ โดยมาตรฐานนี้เองที่มนุษย์ถูกวัดระดับตามความอดทนของพวกเขา เมื่อพวกเขาเผชิญกับการทดสอบและความทุกข์ยากลำบาก
มนุษย์ไม่รู้ถึงสิ่งที่พวกเขายึดมั่น ยกเว้นเมื่อเขาแสดงความอดทนต่อสิ่งที่เขาไม่ชอบ และการงานใดๆ ที่ไม่มีความอดทน การงานนั้นก็มีแต่จะประสบความล้มเหลว และผู้ศรัทธาต้องอดทนเมื่อเผชิญหน้ากับเคราะห์กรรมและต้องยับยั้งตัวเองให้พ้นจากความเจ็บปวดร้าวและความวิตกกังวล เพราะความช่วยเหลือจากอัลลอฮฺ มาตามระดับความอดทนของแต่ละคน
ท่านนบีมุฮัมมัด กล่าวว่า
“แท้จริง ความอดทนอยู่ที่ตอนประสบเคราะห์กรรมครั้งแรก”
(บันทึกโดยอัลบุคอรี)
ความอดทนถูกถือว่าเป็นหนึ่งในหลักการที่ความศรัทธา (อีมาน) วางอยู่บนพื้นฐาน 4 อย่าง อันได้แก่ ความเชื่อมั่นโดยปราศจากข้อสงสัย ความยุติธรรม ความอดทน และการฮิญาด
ผลของความอดทนถูกกล่าวไว้ในคัมภีร์อัลกุรอานหลายแห่งด้วยกัน เพราะอัลลอฮฺ ทรงรู้ว่าการจะเป็นคนดีนั้นต้องใช้ความพยายามอย่างหนัก เนื่องจากเขาต้องอดทนเพื่อปฏิบัติหน้าที่ทางศาสนา ทำการฮิญาดในหนทางของอัลลอฮฺ ละเว้นจากการทำความชั่ว ต่อต้านอารมณ์ใฝ่ต่ำของตัวเอง ต้องอดทนต่อความโง่เขลา ความไม่เป็นธรรมและความเห็นแก่ตัวของใครบางคน และอดทนต่อแรงเย้ายวนของมารร้ายในยามที่ถูกทดสอบและประสบความทุกข์ยากลำบาก
(อัลเฆาะซาลี, “อิฮฺยา อุลูมุดดีน” 4/63)
มุสลิมต้องมีความอดทนในทุกสถานการณ์ แม้เขาจะมีชีวิตอยู่ในความเจริญรุ่งเรือง มีสุขภาพพลานามัยดี มีทรัพย์สินมั่งคั่งและมีลูกหลานมากมายก็ตาม เพราะถ้าหากเขาไม่มีความอดทนในการมีชีวิตประเภทนี้ เขาก็จะเป็นผู้กดขี่หรือโหดร้ายต่อคนอื่นที่มีโอกาสน้อยกว่าเขา
ผู้ทรงความรู้คนหนึ่งกล่าวว่า การแสดงความอดทนในยามเจริญรุ่งเรืองนั้น ยากกว่าในยามทุกข์ยากลำบาก เพราะเขาต้องต่อต้านการมีชีวิตที่สะดวกสบายและต้องต่อสู้กับความต้องการและความสุขสำราญ ในทำนองเดียวกัน การแสดงความอดทนในเรื่องทรัพย์สินของตนเองก็คือ การต้องใช้จ่ายทรัพย์สินในหนทางของอัลลอฮฺและขอบคุณพระองค์ที่ประทานแก่เขา
อัลลอฮฺ ทรงกล่าวว่า
“โอ้บรรดาผู้ศรัทธา จงอย่าให้ทรัพย์สินของสูเจ้าและลูกหลานของสูเจ้าทำให้สูเจ้าหันห่าง ออกจากการระลึกถึงอัลลอฮฺ บรรดาผู้ที่ทำเช่นนั้น คือ ผู้ขาดทุนอย่างแท้จริง”
(กุรอาน 63: 9)
“ทรัพย์สินของสูเจ้าและลูกหลานของสูเจ้ามิใช่อื่นใด นอกไปจากการทดสอบ และอัลลอฮฺเท่านั้นที่ทรงมีรางวัลตอบแทนอันยิ่งใหญ่อยู่กับพระองค์”
(กุรอาน 64: 15)
เมื่ออัลลอฮฺ ประทานชัยชนะให้แก่ผู้ศรัทธาในการพิชิต การแผ่ขยายอิสลามและการเพิ่มอำนาจ สาวกคนหนึ่งของท่านนบี ได้กล่าวว่า
“เราถูกทดสอบด้วยความทุกข์ยากลำบาก เราอดทนได้ แต่เมื่อเราถูกทดสอบด้วยชีวิตที่สะดวกสบาย เรากลับไม่อดทน”
ความอดทนของมุสลิมในยามประสบเคราะห์กรรมและการทดสอบเป็นการไถ่โทษบาปและความผิดของคนผู้นั้น ครั้งหนึ่ง ท่านนบีมุฮัมมัด ได้ไปเยี่ยมหญิงคนหนึ่งซึ่งกำลังป่วย
ท่านได้บอกนางว่า “ทำไมเธอจึงตัวสั่นเช่นนั้นเล่า?”
นางได้ตอบว่า “ฉันเป็นไข้และขออย่าให้มันเป็นสิ่งที่อัลลอฮฺประทานมาเลย”
ดังนั้น ท่านนบี จึงบอกนางว่า “อย่าสาปแช่งมัน เพราะมันไถ่โทษบาปของลูกหลานของอาดัม เหมือนกับเตาเผาขจัดสิ่งเจือปนออกจากเหล็ก”
(บันทึกโดยมุสลิม)
เรื่องราวของนบีอัยยูบเป็นเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของความอดทนในยามประสบเคราะห์กรรม อัลลอฮฺ ทรงกล่าวว่า
“และจงรำลึกถึงเรื่องราวของอัยยูบ เมื่อเขาได้ร้องเรียนพระเจ้าของเขาว่า
แท้จริงข้าพระองค์ประสบความทุกข์ยาก และพระองค์เท่านั้นเป็นผู้ทรงเมตตายิ่งในบรรดาผู้เมตตาทั้งหลาย”
(กุรอาน 21: 83)
เราเห็นได้ว่านบีอัยยูบได้บรรยายสภาพของตัวเองว่าเป็นเช่นไร แต่ขณะเดียวกัน ท่านก็ยังคงนึกถึงคุณลักษณะแห่งความเมตตาของพระองค์โดยไม่ขอให้พระองค์ทรงช่วยให้หายป่วยด้วยความเกรงใจพระองค์ นบีอัยยูบไม่แม้แต่จะแสดงความหงุดหงิดฉุนเฉียวหรือแสดงความไม่พอใจ และท่านควบคุมตัวเองไว้ไม่ให้ขอความช่วยเหลือต่ออัลลอฮฺโดยตรงเพื่อช่วยให้ท่านพ้นจากความเจ็บป่วย ด้วยศีลธรรมอันสูงส่งและความไว้วางใจในความเมตตาของอัลลอฮฺ อัลลอฮฺ จึงทรงตอบรับคำร้องเรียนของท่าน และขจัดความทุกข์ทรมานทั้งหลายให้หมดไปจากท่าน มิเพียงเท่านั้น พระองค์ยังได้ทรงชดเชยให้ท่านด้วยการกลับมาของครอบครัวที่ท่านได้สูญเสียไปอีกด้วย
(อิบนุกะซีรฺ, “ตัฟซีรฺอัลกุรอาน” 3/188-190)
ในบรรดาเรื่องของความอดทนซึ่งหาได้ยากนั้น เรื่องราวของอิมามอะหมัด บินฮัมบัล เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง อิมามอะหมัดถูกทรมานเพื่อที่จะให้ท่านกล่าวว่าคัมภีร์กุรอานถูกสร้างขึ้นมา แต่ท่านปฏิเสธและต้องใช้ความอดทนอย่างสุดขีดในการยืนยันความเชื่อของท่าน
กฎของอิสลามแบ่งความอดทนออกเป็น 4 ประเภทด้วยกัน คือ ความอดทนที่เป็นหน้าที่ (ฟัรดู) เลือกทำก็ได้ (นะฟัล) น่ารังเกียจ (มักรูฮฺ) และต้องห้าม (มุฮัรฺรอม) มุสลิมมีหน้าที่ต้องแสดงความอดทนในเรื่องสิ่งต้องห้าม ความอดทนเมื่อถูกทดสอบและในยามที่ประสบเคราะห์กรรมคือความพยายามเป็นพิเศษที่ขึ้นอยู่กับระดับความศรัทธาของแต่ละคน
♦ ความอดทนที่น่ารังเกียจก็คือความอดทนที่มุสลิมยอมให้ความเสียหายใดๆ ในหนทางที่ขัดต่อคำสอนของอิสลามเกิดขึ้น
♦ ส่วนความอดทนที่ต้องห้ามคือความอดทนที่คนผู้หนึ่งละเว้นจากการแสดงความไม่เคารพตัวเองต่อครอบครัวของเขา และเพิกเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนเหล่านั้น
(อัลเฆาะซาลี, “อิฮฺยา อุลูมุดดีน” 4/69-70)
ความอดทนมีหลายรูปแบบ เช่น
1. ความอดทนเมื่อแสวงหาความรู้ เพราะใครที่อดทนก็จะได้รับความรู้ แต่ใครที่ไม่อดทนก็จะโง่ไม่รู้ต่อไป
2. ความอดทนในขณะปฏิบัติหน้าที่ของตน ระดับความอดทนของแต่ละคนจะมีผลต่อการทำงานของคนผู้นั้น
3. ความอดทนในการต่อสู้ เพราะชัยชนะเป็นของกองทัพที่มีความอดทน
4. ความอดทนในยามอดอยากยากจน เพราะความอดทนในยามนี้ทำให้ผู้อดทนมีเกียรติ
5. ความอดทนเมื่อปฏิบัติหน้าที่ทางศาสนา เช่น การละหมาด การถือศีลอด การจ่ายซะกาต การประกอบพิธีฮัจญ์ และการญิฮาดในหนทางของอัลลอฮฺ
6. ความอดทนในการยับยั้งตนเองมิให้ทำบาปและสร้างความเสียหาย
7. ความอดทนเมื่อต้องเผชิญกับการทดสอบและเคราะห์กรรม
ความอดทนอดกลั้นของมนุษย์ต่อความปรารถนาของตัวเองนั้นยากยิ่งกว่าความอดทนในระหว่างการต่อสู้ ดังนั้น จึงได้รับรางวัลตอบแทนจากอัลลอฮฺมากกว่า ทหารอดทนในการรบด้วยความหวังในชัยชนะและทรัพย์ที่จะได้จากสงคราม เขาอาจอดทนในสนามรบเพื่ออุทิศตนให้แก่คนของเขาหรืออดทนเพราะหน้าที่ของเขา หรืออาจอดทนเพื่อโอ้อวดให้คนอื่นยกย่องเขาว่าเป็นคนกล้าหาญก็ได้ แต่ผู้ศรัทธาอดทนต่อความขมขื่นจากความสูญเสียและต่อสู้กับความปรารถนาของตนเองเพื่อเชื่อฟังอัลลอฮฺ โดยการแสวงหารางวัลตอบแทนและความโปรดปรานจากพระองค์ ในกรณีนี้ อัลลอฮฺ จะประทานความช่วยเหลือและสนับสนุนเขาในสิ่งที่เขาต้องการ เพราะใครก็ตามที่มีเจตนาบริสุทธิ์ต่ออัลลอฮฺในการทำดีและละเว้นความชั่ว อัลลอฮฺจะทรงช่วยเขาและคุ้มครองเขาให้พ้นความชั่วเหล่านั้น
คนที่มีความอดทน แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท
1. คนที่มีความอดทนและละเว้นจากการตามใจตนเองและละเว้นจากการทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง คนเหล่านี้ถูกเรียกว่า คนที่หันไปหาอัลลอฮฺ
2. คนที่พึงพอใจในสิ่งที่อัลลอฮฺทรงกำหนดแก่พวกเขา คนเหล่านี้อยู่ในระดับของผู้ยอมจำนนอย่างมีความสุข
3. คนที่ยึดมั่นในสิ่งที่อัลลอฮฺทรงสร้างไว้สำหรับเขา เช่น อุปสรรคและความยากลำบากต่างๆ คนเหล่านี้อยู่ในระดับของผู้ซื่อสัตย์และเป็นคนดีมีศีลธรรม
เคาะลีฟะฮฺอุมัร บินค็อฏฏ็อบ ได้แบ่งความอดทนเป็น 2 ประเภทคือ ความอดทนต่อเคราะห์กรรมและความอดทนเกี่ยวกับสิ่งที่อัลลอฮฺทรงห้าม และเขาถือว่าความอดทนประเภทที่สองดีกว่าประเภทแรก
อิมามอัลเฆาะซาลี กล่าวว่าความอดทนมี 2 ประเภท
ประเภทแรก เป็นความอดทนทางร่างกายซึ่งเป็นความอดทนในระหว่างการทำกิจกรรมใดๆ เช่น การทำงานหนัก การลงโทษทางร่างกาย ความเจ็บป่วย บาดแผลที่เจ็บปวดแสนสาหัสเพราะการต่อสู้หรืออุบัติเหตุ
ส่วนประเภทที่สอง เป็นความอดทนทางจิตใจต่ออารมณ์ใฝ่ต่ำ และความอดทนประเภทนี้แบ่งออกเป็นหลายส่วน เช่น
1. ความอดทนในเรื่องความต้องการอาหารและการมีความสัมพันธ์ทางเพศ ความอดทนเช่นนี้ถูกเรียกว่า “อิฟฟะฮฺ” (ความบริสุทธิ์)
2. ความอดทนเมื่อต่อสู้ในสนามรบ ความอดทนเช่นนี้ถูกเรียกว่า ความกล้าหาญ
3. ความอดทนเมื่ออยู่ในสภาวะโกรธหรือฉุนเฉียว ความอดทนเช่นนี้ถูกเรียกว่า ความอดกลั้นหรือการหักห้ามใจ
4. ความอดทนเมื่อประสบภัยพิบัติ ความอดทนเช่นนี้ถูกเรียกว่า ความทุกข์ทรมานอันยาวนาน
5. ความอดทนเมื่อได้รับความสุขแห่งชีวิต ความอดทนเช่นนี้ถูกเรียกว่า การถือสันโดษ
6. ความอดทนเมื่อมีรายได้ไม่พอตอบสนองความจำเป็นของชีวิต ความอดทนเช่นนี้ถูกเรียกว่า ความพอใจในสิ่งที่มีอยู่
7. ความอดทนเกี่ยวกับการเปิดเผยความลับของมุสลิม ความอดทนเช่นนี้ถูกเรียกว่า การรักษาความลับ
อัลลอฮฺ ได้ทรงรวบรวมความหมายทั้งหมดนี้ไว้ในคำหนึ่ง นั่นคือ ความอดทน พระองค์ทรงกล่าวว่า
“บรรดาผู้อดทนต่อความทุกข์ยากในยามยากจน และในยามต่อสู้”
(กุรอาน 2: 177)
มีงานเขียนอิสลามมากมายที่รวบรวมคำพูดเกี่ยวกับความดีงามของความอดทนไว้ เช่น
1. ความอดทนในยามทุกข์เป็นหนึ่งในขุมทรัพย์แห่งความศรัทธา
2. ความอดทนคือความรีบเร่งในเรื่องความสงบและชิงผ่อนคลายไว้ก่อน และคือการวางใจในอัลลอฮฺ
3. ความอดทนนำมาซึ่งความปลอดภัย ในขณะที่ความหุนหันพลันแล่นนำมาซึ่งความเสียใจและความเศร้าโศก
4. ความอดทนเป็นส่วนหนึ่งของความศรัทธา
5. ความกระวนกระวายเป็นสิ่งที่น่าเบื่อมากกว่าความอดทน
6. คนชั่วมีความอดทนทางร่างกายได้มากกว่า แต่คนดีมีความอดทนทางจิตใจได้มากกว่า
7. ผลลัพธ์ที่เป็นความสุข มาพร้อมกับความอดทนและความเอื้อเฟื้อในยามมีเคราะห์กรรม
8. ถ้าคุณอดทน การกำหนดของอัลลอฮฺก็จะผ่านไปและคุณจะได้รับรางวัลตอบแทนจากอัลลอฮฺสำหรับความอดทน แต่ถ้าคุณกระวนกระวายไม่เป็นสุข การกำหนดของอัลลอฮฺก็จะผ่านไปและคุณได้รับความช่วยเหลือแล้ว
9. ความอดทนประกันความสำเร็จ และอัลลอฮฺไม่ทรงทำให้ผู้วางใจในพระองค์ผิดหวัง
10. พระผู้อภิบาลของคุณจะทรงยินดีกับความอดทนของคุณ
ท่านนบีมุฮัมหมัด กล่าวว่า
“ตัวอย่างของผู้ศรัทธาก็เหมือนกับต้นไม้ที่อ่อนลู่ลม ไม่ว่าลมจะมาในทิศทางใด มันก็จะทำให้ต้นไม้นั้นเอนไป แต่เมื่อลมสงบ ต้นไม้นั้นก็จะตั้งตรงอีกครั้ง
เช่นเดียวกับผู้ศรัทธาที่ประสบเคราะห์กรรม (แต่เขายังคงอดทน จนกระทั่งอัลลอฮฺทรงขจัดความทุกข์ยากลำบากของเขาไป)
ส่วนคนชั่วก็เหมือนกับต้นสนที่ยืนแข็งทื่อ จนกระทั่งอัลลอฮฺทรงหักมันลงเมื่อพระองค์ทรงประสงค์”
ที่มา : หนังสือการเยียวยาหัวใจ (Healing of the Heart)