การฝังศพ
ชัยคฺ มุหัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จะไม่ฝังคนตายในช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์กำลังขึ้น ช่วงที่ดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า และช่วงเวลาเที่ยงวัน
ซึ่งตามแบบฉบับของท่านนั้น ให้ขุดหลุมฝังศพลึกแบบละหัด (คือการขุดหลุมลึกลงไปในแนวดิ่ง แล้วขุดเข้าไปเป็นช่องด้านข้างทางทิศกิบลัตเพื่อวางมัยยิตในช่องดังกล่าวในลักษณะที่หันหน้าเข้าหากิบลัต) โดยขุดส่วนของศีรษะและเท้าให้กว้างเป็นพิเศษ
และมีรายงานว่าขณะวางมัยยิตลงในหลุมท่านกล่าวว่า
« بِسمِ اللهِ وَعلى مِلَّةِ رَسُولِ اللهِ» [رواه الترمذي برقم 1046 وأبو داود برقم 3214]
“(เราทำสิ่งนี้) ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ และตามแบบฉบับของเราะสูลุลลอฮฺ”
(บันทึกโดยอัตติรมิซีย์ หะดีษเลขที่ 1046 และอบูดาวูด หะดีษเลขที่ 3214)
รายงานหะดีษอีกสำนวนหนึ่งระบุว่าท่านกล่าว
« بِسمِ اللهِ، وَفي سَبِيْلِ اللهِ، وَعلى مِلَّةِ رَسُولِ اللهِ » [رواه الترمذي برقم 3213]
“(เราทำสิ่งนี้) ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ในหนทางของอัลลอฮฺ และตามแบบฉบับของเราะสูลุลลอฮฺ”
(บันทึกโดยอบูดาวูด หะดีษเลขที่ 3213)
มีรายงานว่าขณะฝังศพ ท่านโปรยดินทางด้านศีรษะของผู้ตายจำนวนสามครั้ง เมื่อฝังเสร็จ ท่านและเศาะหาบะฮฺจะยืนบนหลุมศพเพื่อขอดุอาอ์ตัษบีตให้ผู้ตาย ซึ่งท่านก็กำชับให้เศาะหาบะฮฺขอดุอาอ์ด้วย และไม่ปรากฏว่าท่านเคยนั่งอ่านอัลกุรอานบนหลุมศพ หรือกล่าวตัลกีนสอนผู้ตายแต่อย่างใด ส่วนการทำหลุมศพให้สูงเด่น การก่อสิ่งปลูกสร้างหรือทำโดมหลังคาเหนือหลุมศพนั้น ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่มีในแบบฉบับของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ทั้งสิ้น
มีรายงานว่าท่านอะลี บิน อบีฎอลิบ ได้เคยส่งคนไปตรวจตรา โดยสั่งว่าถ้าพบรูปปั้นรูปเคารพอยู่ที่ใดก็ให้ดัดแปลงแก้ไขจนเปลี่ยนสภาพ และหากพบว่ามีหลุมศพใดทำสูงขึ้น ก็ต้องปรับให้ราบเสีย
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ห้ามมิให้ก่ออิฐฉาบปูนก่อสิ่งปลูกสร้างเหนือหลุมศพ ทั้งยังห้ามมิให้ขีดเขียนสิ่งใดบนหลุมศพ โดยในสมัยนั้นหากประสงค์จะจดจำหลุมศพใดก็เพียงวางก้อนหินเป็นสัญลักษณ์เท่านั้น นอกจากนี้ท่านยังห้ามมิให้สร้างมัสยิดบนพื้นที่สุสาน หรือจุดไฟตะเกียงส่องสว่างประดับประดาสุสาน โดยท่านได้สาปแช่งผู้ที่กระทำการดังกล่าว และท่านห้ามมิให้ละหมาดหันเข้าหาสุสาน และห้ามมิให้ยึดหลุมศพของท่านเป็นสถานที่รื่นเริงเฉลิมฉลอง
ตามแบบฉบับของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม นั้น ห้ามมิให้กระทำการใด ๆ ที่เป็นการไม่ให้เกียรติต่อหลุมศพ ไม่ว่าจะเป็นการเดินย่ำ นั่ง หรือเอนพิงหลุมศพ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ให้ความสำคัญกับหลุมศพถึงขั้นใช้เป็นสถานที่ละหมาด จัดงานรื่นเริงเฉลิมฉลอง หรือเคารพกราบไหว้
การเยี่ยมสุสาน
ท่านมักจะไปเยี่ยมสุสานของบรรดาเศาะหาบะฮฺ เพื่อขอดุอาอ์ และขออภัยโทษให้แก่พวกเขา โดยท่านใช้ให้ผู้ที่ไปเยี่ยมสุสานกล่าวว่า
« السَّلامُ عَلَيْكُم أَهلَ الدِّيَارِ مِنَ المؤمِنِينَ والْمُسلِمِينَ، وَإِنَّا إِنْ شَاءَ اللهُ بِكُم لاحِقُونَ، نَسْأَلُ اللهَ لَنا وَلَكُمُ العَافِيَةَ » [رواه مسلم برقم 975]
“ขอความสันติจงประสบแด่พวกท่าน โอ้บรรดาผู้ศรัทธาและมุสลิมอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้
ส่วนพวกเรานั้น อินชาอัลลอฮฺ ก็จะตามพวกท่านไป ขออัลลอฮฺทรงให้เราและพวกท่านปลอดภัยด้วยเถิด”
(บันทึกโดยมุสลิม หะดีษเลขที่ 975)
ทั้งนี้ ขณะเยี่ยมสุสานนั้นท่านกล่าวและทำเช่นเดียวกับในกรณีของละหมาดญะนาซะฮฺ แต่บรรดาผู้ตั้งภาคีกลับหันไปวิงวอนขอให้ผู้ตายดลบันดาลให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ หรือขอความช่วยเหลือในเรื่องต่าง ๆ ทั้งหมดนี้ล้วนตรงกันข้ามกับสิ่งที่เป็นแบบฉบับของท่านนบีอย่างสิ้นเชิง เพราะแบบฉบับของท่านนั้นคือการยืนยันเน้นหนักในหลักเตาฮีด (เคารพสักการะอัลลอฮฺเพียงพระองค์เดียว) และการทำดีต่อผู้ตาย
♣ ท่านส่งเสริมให้แสดงความเสียใจแก่ญาติพี่น้องของผู้ตาย ส่วนการรวมตัวกันอ่านอัลกุรอานอุทิศผลบุญให้ผู้ตายนั้น ไม่ปรากฏว่ามีในแบบฉบับของท่านแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นที่หลุมศพหรือที่ใดก็ตาม
♣ และตามแบบฉบับของท่านนั้น ญาติพี่น้องผู้ตายไม่ใช่ผู้ที่ต้องลำบากจัดเตรียมอาหารเลี้ยงผู้อื่น แต่ท่านใช้ให้ผู้อื่นนำอาหารมาให้แก่พวกเขา
♣ ท่านไม่อนุญาตให้ป่าวประกาศข่าวการตายด้วยความโศกเศร้าเสียใจฟูมฟายจนเกินเลย หรือในลักษณะที่เป็นการไม่ยอมรับในกำหนดของอัลลอฮฺ โดยท่านกล่าวว่าการกระทำดังกล่าวเป็นพฤติกรรมของพวกญาฮิลิยะฮฺ
แปลโดย : อัสรัน นิยมเดชา / Islamhouse