อีหม่านจะกลับไปสู่เมืองมะดีนะห์
แปลเรียบเรียงโดย อบูชีส
อะไรคือความหมายของวจนะของท่านนบี ศ็อลลัลลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม : แท้จริงอีหม่านจะกลับไปสู่เมืองมะดีนะห์ เหมือนกับงูที่กลับไปสู่รูของมัน ?
ฮะดิษนี้รายงานโดยบุคอรีย์และมุสลิม จากฮะดิษของอบีฮุร็อยเราะห์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮู่ แท้จริงท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
"แท้จริง อีหม่านจะกลับไปยังมะดีนะห์ เหมือนดั่งที่งูนั้นได้กลับไปยังรูของมัน"
' ( يأرز ) "ยะอ์ริศ" อนุญาตให้อ่านฟัตฮะห์ หรือฏ็อมมะห์ได้
ความหมายก็คือ "ยะอ์ริศ" แปลว่า "กลับไป" ยืนหยัดในเมืองมะดีนะห์ เหมือนงูเมื่อมันออกไปจากรูของมัน มันก็กลับมายังรูของมัน เป็นการบ่งชี้จากท่านนบี ศ็อลลัลลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แท้จริงศาสนานี้จะกลับไปสู่มะดีนะห์หลังจากที่เมืองต่างๆมันกำลังเสื่อมเสีย เหมือนงูที่มันออกจากรูของมันและร่อนเร่ออกไป ในท้ายที่สุดมันก็จะกลับคืนรังมัน
บ่งชี้ได้ว่า แท้จริงอิสลามนั้นออกไปจากเมืองมะดีนะห์ และจะกลับคืนสู่เมืองมะดีนะห์อีกครั้ง เพราะแท้จริงอิสลามด้วยกับความเข้มแข็ง และเรืองอำนาจ จะยังไม่แผ่กระจายออกไป เว้นแต่จากเมืองมะดีนะห์เท่านั้น ถึงแม้ว่าจะเริ่มต้นวางรากฐานจากเมืองมักกะห์ก็ตาม และมักกะห์นั้นคือสถานที่แรกของการลงมาของวะห์ยู แต่ทว่าสำหรับมุสลิมในช่วงนั้นยังไม่มีรัฐ และไม่เรืองอำนาจ และยังไม่ทำการญิฮาดใดๆ เว้นแต่หลังจากที่ได้อพยพสู่เมืองมะดีนะห์ และด้วยเหตุนี้ด้วยกับฐานอำนาจที่มั่นคงของอิสลาม และปฏิบัติตามหลักการได้อย่างสมบูรณ์แบบ และเผยแผ่ได้อย่างเต็มที่ คือจากเมืองมะดีนะห์ และมันจะกลับสู่เมืองมะดีนะห์อีกครั้งในยุคสุดท้าย
นักวิชาการบางท่านกล่าวว่า ฮะดิษบทนี้กล่าวถึงเรืองราวในอดีต ความหมายก็คือ ผู้คนต่างมุ่งหน้าสู่เมืองมะดีนะห์ และกลับสู่มะดีนะห์ เพื่อไปรับเอาบทบัญญัติและเรียนรู้อิสลามกับท่านร่อซูล ศ็อลลัลลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
แต่ทว่าความหมายแรกนั้นชัดเจนและถูกต้องที่สุด
มัจมัวะอ์ฟะตะวา เชค อุศัยมีน ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ ฮะดิษที่รายงานถึงความประเสริฐของเมืองมะดีนะห์ การกลับมา ก็คือ อีหม่านที่ถูกต้องจะกลับคืนสู่เมืองมะดีนะห์
"กลับมา" ก็คือ "หากอีหม่านออกไป แท้จริงมันจะกลับมา เหมือนกับงูที่กลับคืนสู่รูของมัน" งูเมื่อมันออกไปไกลจากรังของมัน หลังจากนั้นมันจะกลับมาและเข้าสู่รูของมัน เช่นเดียวกับอีหม่าน หากมีผู้มีอีหม่านจำนวนหนึ่งออกไปจากเมืองมะดีนะห์ แน่นอนว่าก็จะมีผู้คนอีกกลุ่มหนึ่งมาทดแทนพวกเขา นี่คือการรับรองให้แก่ชาวเมืองมะดีนะห์ เป้าหมายคือ ผู้ที่แบกรับสัจจธรรมแนวทางของท่านนบี ศ็อลลัลลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ในเมืองนั้นจะต้องมีบรรดาผู้รู้อยู่ และจะต้องมีผู้ศรัทธาอยู่ในเมือง และจะต้องมีบรรดาผู้มีความยำเกรงและคนดีๆอยู่ในนั้น และจะไม่มีช่วงเวลาใดๆที่ว่างเว้นจากจากผู้ที่เรียกร้องไปสู่อัลลอฮ์ สู่บทบัญญัติอิสลามและศาสนาของพระองค์
เมื่อทำการตรวจสอบถึงหลักฐานๆต่างก็พบว่าเป็นเช่นนั้นจริง ตั้งแต่สมัยของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จนถึงในยุคปัจจุบัน แท้จริงแล้วเมืองมะดีนะห์สำหรับมันนั้นมีความพิเศษ ซึ่งชาวเมืองนั้นมีทั้งผู้รู้ ผู้ประกอบศาสนกิจ และผู้ที่สมถะ และก็ไม่ปฏิเสธว่าในมันนั้นมีพวกกลับกลอกและบรรดาผู้ฝ่าฝืนและอื่นๆ
ดังที่อัลลอฮ์ ตรัสไว้ว่า
وَمِمَّنْ حَوْلَكُم مِّنَ الأَعْرَابِ مُنَافِقُونَ وَمِنْ أَهْلِ الْمَدِينَةِ مَرَدُواْ عَلَى النِّفَاقِ لاَ تَعْلَمُهُمْ نَحْنُ نَعْلَمُهُمْ سَنُعَذِّبُهُم مَّرَّتَيْنِ ثُمَّ يُرَدُّونَ إِلَى عَذَابٍ عَظِيمٍ
"และส่วนหนึ่งจากผู้ที่พำนักอยู่รอบๆ พวกท่านที่เป็นอาหรับชนบทนั้น เป็นพวกกลับกลอก
และในหมู่ชาวมะดีนะฮ์ก็เช่นเดียวกัน พวกเขาเหล่านั้นดื้อรั้นในการกลับกลอก
เจ้า(มุฮัมมัด) ไม่รู้จักธาตุแท้ของพวกเขาดอก เรา(อัลลอฮ์) รู้จักพวกเขาดี
เราจะลงโทษพวกเขาสองครั้ง แล้วพวกเขาจะถูกนำกลับไปสู่การลงโทษอันยิ่งใหญ่ต่อไป"
บ่งชี้ว่าในเมืองมะดีนะห์มีพวกที่กลับกลอก มีทั้งพวกรอฟิเฏาะห์ มีทั้งบรรดาผู้ฝ่าฝืน มีทั้งบรรดาผู้ทำความผิด แต่ทว่าในนั้นก็มีบรรดาผู้รู้ ผู้มีความสมถะ มีผู้ประกอบศาสนกิจ และผู้เรียนรู้ และยังมีมัสยิดนบี ซึ่งเป็นสถานที่ ที่ถูกมุ่งมั่นเดินทางไป เป็นมัสยิดที่สอง ในการส่งเสริมให้เดินทางไป และการละหมาดในนั้นได้ผลบุญถึงพันเท่า ยกเว้นมัสยิดฮะรอม(มักกะห์)
และในนั้นยังมีหลุมฝังศพของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และหลุมฝังศพของทั้งสองสหายของท่าน และมีบรรดาหลุมฝังศพของเหล่าซอฮาบะห์ในบะเกียะอ์ และหลุมฝังศพของนักรบชะฮีดอีกมากมาย และในมันยังมีมัสยิดกุบาอ์ ที่พระองค์อัลลอฮ์ ได้ประทานอัลกุรอานลงมาว่า
لَّمَسْجِدٌ أُسِّسَ عَلَى التَّقْوَى مِنْ أَوَّلِ يَوْمٍ أَحَقُّ أَن تَقُومَ فِيهِ فِيهِ رِجَالٌ يُحِبُّونَ أَن يَتَطَهَّرُواْ وَاللّهُ يُحِبُّ الْمُطَّهِّرِينَ
"แน่นอน มัสยิดที่ถูกวางรากฐานบนความยำเกรงตั้งแต่วันแรกนั้นสมควรอย่างยิ่งที่เจ้าจะเข้าไปยืนละหมาดในนั้น
เพราะในมัสยิดนั้นมีคณะบุคคลที่ชอบจะชำระตัวให้บริสุทธิ์ และอัลลอฮ์นั้นทรงรักบรรดาผู้ที่ชำระตัวให้สะอาดบริสุทธิ์อยู่เสมอ"
เป็นมัสยิดที่ถูกประทานลงมาแก่กลุ่มชนที่อยู่ ณ มัสยิดกุบาอ์ในทุกสภาพ ดังนั้นมะดีนะห์จึงมีความพิเศษและมีเกียรติ และดังกล่าวนั้นอัลลอฮ์ ทรงให้ความประเสริฐแก่เมืองมะดีนะฮ์ และทรงทำให้เป็นสถานที่อพยพแก่ท่านนบี ศ็อลลัลลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แต่เมืองมะดีนะฮ์ไม่ได้ประเสริฐกว่ามักกะห์ เพราะมักกะห์คือกิบละห์ของปวงชนมุสลิม และเป็นกิบละห์ที่หมู่มวลมุสลิมต่างมุ่งไปสู่ทิศทางนั้น
http://www.ibn-jebreen.com/?t=books&cat=1&book=215&page=7440