ริซกีที่แท้จริง

โดย…. อาจารย์อิมรอน สาดและ

 

        ขอความสุขสวัสดีความกรุณาปรานีจากอัลเลาะห์ จงประสบแด่บรรดาพี่น้องผู้ศรัทธาที่มาร่วมกันปฏิบัติละหมาดวันศุกร์ที่เคารพรักทุกท่าน

 

        ท่านพี่น้องที่เคารพรัก ชีวิตของเราคงดำเนินต่อไปในโลกดุนยาแห่งนี้ วันแล้ววันเล่า เดินทางต่อไปจนถึงวาระแห่งความตาย ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ซึ่งมันใกล้เข้ามาทุกขณะ ถึงอย่างไรก็ตามตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ในโลกดุนยา เราก็จะต้องแสวงหาริซกีที่พระองค์อัลเลาะห์  ได้ประทานให้กับเราเพื่อเป็นปัจจัยยังชีพ ให้เรามีชีวิตอย่างสุขสบายในโลกดุนยานี้ เพื่อเราจะได้ทำอามั้ลอิบาดะห์ เป็นเสบียงสู่โลกอาคีเราะห์ ที่เราจะต้องได้ประสบอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นโลกที่ถาวร ไม่มีวันสิ้นสุด

 

       มนุษย์ส่วนใหญ่มีความคิดว่า ความสุขที่เขาได้รับในโลกดุนยานั้น มันขึ้นอยู่กับริซกีที่เขาได้รับว่ามากน้อยเพียงใด ความคิดของมนุษย์ส่วนใหญ่คิดว่า ถ้าหากเขาได้รับริซกีมาก เขาก็จะมีความสุขมาก ถ้าหากเขาได้รับริซกีน้อย เขาก็จะมีความสุขน้อย เช่นกัน บางครั้งริซกีที่เขาได้รับอยู่ อาจจะหดหายจากเขาไปอย่างหุนหันพันแล่น เขาผู้นั้นก็จะเกิดความท้อแท้ใจ ในการกำหนดของพระองค์อัลเลาะห์  ก็เป็นได้

 

        เมื่อเราพูดถึงคำว่า ริซกี พี่น้องผู้ศรัทธาก็จะหมายถึงทรัพย์สินเงินทอง แต่คำว่า ริซกี ไม่ได้หมายถึงทรัพย์สินเงินทองเพียงอย่างเดียว ทรัพย์สินเงินทองนั้นเป็นชนิดหนึ่งของริซกีที่พระองค์อัลเลาะห์  ได้ประทานให้กับบ่าวของพระองค์ และจำเป็นที่เราจะต้องแยกระหว่างริซกีที่พระองค์อัลเลาะห์  ได้ทรงประทานให้กับเรา โดยที่เราไม่คาดคิด และริซกีที่เราแสวงหา ขวนขวายมาเพื่อให้ได้รับตามที่เราต้องการ ทรัพย์สินที่เราหามาทุกวันนี้ 

 

       ในแต่ละเดือน ที่เราได้รับเงินเดือน 1 หมื่นบาท หรือ 2 หมื่นบาทก็ตาม เงินเดือนเหล่านี้คือริซกีที่เราแสวงหา เป็นเงินที่นำมาเลี้ยงตัวเรา และครอบครัวของเราได้ สามารถที่จะทำให้เราดำรงชีวิตอยู่ในโลกดุนยานี้ได้ ผู้ที่รับริซกีเป็นรายวัน รายเดือนเหล่านี้ เขาก็จะบริหารริซกี ของเขาในสิ่งที่เขาใช้จ่ายและบริโภคในแต่ละวันในแต่ละเดือนนั้นๆ ส่วนคำว่าริซกีที่จริงแล้ว มันไม่ใช่เฉพาะทรัพย์สินเงินทองเท่านั้น คำว่าริซกี คือทุกสิ่งที่ได้รับประโยชน์จากมัน ดังนั้นคำว่าริซกี ที่แท้จริง เป็นความหมายที่รวมความถึงทรัพย์สินเงินทอง และรวมถึงสิ่งต่างๆที่เราได้รับประโยชน์จากมันอีกมากมาย 
 

นักวิชาการได้กล่าวไว้ในเรื่องนี้ว่า

- พ่อที่ซอและห์ (พ่อที่ดี ปฏิบัติดีต่อลูก) นั่นคือริซกี(ของลูก)
 

- พี่หรือน้องที่ดี (รักพี่รักน้อง) นั่นคือริซกี(ของเขา)
 

- แม่ที่เมตตาเอ็นดูสงสารเรา(รักลูก ดูแลลูก) นั่นคือริซกี(ของลูก)
 

- ภรรยาที่ดี(คอยปรนนิบัติสามี) นั่นคือริซกี(ของสามี) 
 

- ลูกที่ตออัต(ภัคดีเชื่อฟังคำสั่งของพ่อแม่) นั่นคือริซกี(ของพ่อแม่)
 

- ผู้จัดการ หรือผู้บังคับบัญชาที่เข้าใจ(ลูกน้อง) ให้ความยุติธรรม(กับพวกเขา) นั่นคือริซกี(ของพวกเขา)
 

- สุขภาพที่ดี(ของผู้ใด) นั่นคือริซกี(ของผู้นั้น) 
 

- คำแนะนำตักเตือน(ของคนหนึ่งคนใด) ที่เป็นประโยชน์ต่อท่าน นั่นคือริซกี(ของท่าน) 
 

- ความรักที่ผู้คน(มีต่อท่าน) นั่นคือริซกี(ของท่าน) 
 

- ความพอใจ(ของท่าน)ในสิ่งที่ได้รับ(อัลเลาะห์ประทานให้กับท่าน แม้ว่าจะ)น้อยหรือมาก(ก็ตาม ความพอใจนั้น) นั่นคือริซกี(ของท่าน) 

ดังนั้นบรรดานักวิชาการจึงได้กล่าวถึงเรื่องริซกีเอาไว้อย่างกว้างขวาง

       ท่านพี่น้องที่เคารพรัก สิ่งมีชีวิตที่พระองค์อัลเลาะห์  ได้ทรงสร้างมาในโลกดุนยา พระองค์ได้กำหนดริซกีให้กับมันทั้งหมด มิใช่เฉพาะมนุษย์เท่านั้น และไม่ใช่ผู้ศรัทธาต่ออัลเลาะห์เท่านั้นที่พระองค์จะประทานริซกีให้ แม้แต่ผู้ที่ปฎิเสธพระองค์ พระองค์ก็ทรงเมตตาบุคคลเหล่านั้นในโลกดุนยาด้วยริซกีของพระองค์ ดังมีคำดำรัสของพระองค์อัลเลาะห์  ในซูเราะห์ฮู๊ด โองการที่ 6 ว่า

       "ย่อมไม่มีสัตว์ใดอยู่ได้ ณ หน้าแผ่นดิน เว้นแต่อาหารของมันมาแต่อัลเลาะห์(ผู้ซึ่งประทานอาหารแก่มัน) พระองค์ทรงรู้ถึงแหล่งที่อยู่ของมัน (ในภาคพิภพนี้หลังจากมันคลอดจากครรภ์แม่ของมัน หรือที่อยู่อาศัยในกระดูกสันหลังก่อนจากเข้าปฏิสนธิในครรภ์แม่ของมัน) และ (ทรงรู้ถึง) ที่พักตัว(ในครรภ์แม่)ของมัน  ทั้งสิ้นนี้ย่อมมีอยู่ในบันทึกอันแน่นอน"

       จากโองการนี้ทำให้เราเข้าใจได้ว่า ริซกีที่พระองค์อัลเลาะห์  ประทานมานั้น พระองค์ได้กำหนด ให้กับทุกสิ่งที่มีชีวิต ไว้เป็นที่เรียบร้อย มีคำถามอยู่ว่า แล้วผู้ที่ได้รับริซกีมากๆ จะถือเป็นความดีของเขา และผู้ที่ได้รับริซกีน้อยจะถือเป็นความไม่ดีได้หรือไม่ ? ไม่ใช่เลย...ความจริงริซกีที่อัลลอห์ประทานให้กับเรานั้น แม้ว่าจะน้อย หากพระองค์ทรงให้มีบารอกัต ก็จะทำให้เราพอเพียง ทำให้เกิดความสุข จากการบริหารริซกีนั้น ไปในหนทางที่ถูกต้อง บางคนได้รับริซกีมากมาย แต่ไม่มีบารอกัต ความมากมายของริซกีจะมาสร้างความทุกข์ในจิตใจของเขาในโลกดุนยานี้ ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นมากมาย มนุษย์ส่วนใหญ่นั้นมีสัญชาตญาณที่ไม่มีความพอเพียง แม้ว่าจะได้รับริซกีมากมายเพียงใด แต่ในหัวใจของเขาก็ยังอยากจะได้เพิ่มมากขึ้น
ท่านรอซูลุ้ลลอห์  ได้กล่าวว่า

لوكان لابن آدم واديان من ذهب لابتغى إليهما ثالثا ولايملأ جوف بن آدم الا التراب ويتوب الله على من تاب

"หาก(มนุษย์)ลูกหลานอาดัม ได้รับหุบเขา 2 แห่ง ที่เต็มไปด้วยทองคำ แน่นอนพวกเขายังต้องการหุบเขาทองคำแห่งที่ 3 เพิ่มอีก

และจะไม่มีอะไรบรรจุเต็มในท้องของ(มนุษย์)ลูกหลานอาดัมนอกจากก้อนดิน และพระองค์อัลลอฮ์ จะทรงอภัยโทษให้กับผู้ที่สารภาพผิดต่อพระองค์"

        จากใจความของหะดิษบทนี้ นักอรรถาธิบายหะดิษ ให้ความเห็นว่า มนุษย์ส่วนใหญ่จะยังคงแสวงหาทรัพย์สินในโลกดุนยา จนถึงวาระสุดท้ายของเขา ก่อนที่เขาจะจากโลกดุนยานี้ไป แต่ในที่สุดสิ่งที่เขาจะได้รับก็คือก้อนดินที่เต็มท้องของเขา เมื่อเขาได้ถูกฝังลงไปในหลุมศพ และพระองค์อัลเลาะห์  จะทรงรับการเตาบัต(สารภาพผิด) ของบ่าวที่แสวงหาทรัพย์สินในโลกดุนยา มาสร้างความเสื่อมเสียให้ตัวเขา ถ้าเขาหันกลับมาเตาบัตตัวอย่างจริงใจ พระองค์อัลลอห์  ก็จะให้อภัยโทษกับเขา

       ท่านพี่น้องที่เคารพ จากความหมายของหะดิษนี้เราจะพบว่า มนุษย์ไม่มีความเพียงพอในเรื่องการแสวงหา ดังนั้นเราในฐานะผู้ศรัทธาจะต้องใช้สติปัญญาของเราพิจารณาว่า ทำอย่างไรที่จะทำให้ริซกีที่อัลลอห์  ประทานให้กับเรานั้นมีบารอกะห์ ถ้าหากริซกีมีบารอกะห์ ทั้งตัวเราบรรดาภรรยาเรา และลูกหลานเรา จะมีความเพียงพอในค่าใช้จ่ายที่เราบริโภคในครอบครัวของเรา แต่ถ้าหากว่าริซกีที่ได้มา มาจากสิ่งฮารอม ขอให้สำนึกเสมอว่า ริซกีนั้น จะสร้างความทุกข์ในโลกดุนยา และจะทุกข์ตลอดกาลในโลกอาคีเราะห์จากการถูกทรมานในไฟนรก วั้ลอิยาซุบิลลาห์ والعياذبالله 

ท่านอิบนุก็อยยิม ร่อฮิมุ้ลลอห์ ได้กล่าวในหนังสือของท่านว่า 

"ใครก็ตามที่เขาได้ปฏิบัติตัวเพื่อพระองค์อัลเลาะห์ ตามที่พระองค์ทรงประสงค์ พระองค์อัลเลาะห์ ก็จะปฏิบัติกับเขาเหนือกว่าสิ่งที่เขาต้องการเสียอีก"

        ดังนั้นจำเป็นต่อเราท่านทั้งหลายในขณะที่เราอยู่ในโลกดุนยา เราทำมาหากิน แสวงหาริซกีที่อัลเลาะห์ประทานให้เรานี้ เราจะต้องมีความมั่นใจว่าริซกีที่เราได้มานั้น แท้จริงเป็นริสกีที่อัลเลาะห์  เป็นผู้ประทานให้แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น อัลกุรอานซูเราะอัซซาริยาต  อายะห์ 58 กล่าวว่า

"แท้จริงอัลเลาะห์นั้นคือผู้ที่ทรงประทานปัจจัยยังชีพ ผู้ทรงอานุภาพยิ่ง ผู้ทรงมั่นคงยิ่ง"

         ในอีกโองการหนึ่ง เราจะต้องยึดให้มั่นว่า แท้จริงอัลเลาะห์  นั้นเป็นผู้ประทานริซกีให้กับเรา และอำนาจในการจะประทานให้หรือจะระงับไว้ก็อยู่ที่พระองค์ องค์เดียวเท่านั้น ดังที่พระองค์ทรงตรัสไว้ในซูเราะห์อัซซาริยาต โองการที่ 2  

"และ ในชั้นฟ้านั้นมี ริสกีหรือปัจจัยยังชีพของพวกเจ้าทั้งหลายอยู่ (หมายถึงจากน้ำฝนตกลงมาแล้วเกิดขึ้นมากมายจากน้ำนั้น) และสิ่งที่พวกเจ้าได้ถูกสัญญาเอาไว้ "

        เมื่อเรามั่นใจว่าริสกีนี้เป็นสิ่งที่อัลเลาะห์เท่านั้นที่จะประทานให้กับบ่าวของพระองค์ เราก็จะไม่หาหนทางไปหาริสกีด้วยการคดโกง หลอกลวงชาวบ้าน หรือบิดพลิ้วต่อหน้าที่ของเรา มีหลายคนอยากได้ทรัพย์สินเงินทองมากมาย จะได้มาอย่างไรก็ตาม(ฉันไม่สน) ขอให้ได้มาก็แล้วกัน ดังนั้นคนเหล่านี้จึงใช้ริสกีที่ได้มาอย่างไม่สนใจว่า จะถูกต้อง(ฮาล้าล) หรือผิดๆ (ฮารอม) ก็ตาม

      ท่านพี่น้องที่เคารพ จากเรื่องริสกีที่กล่าวมานี้ จะขอสรุปพอสังเขปว่า ผู้ที่มีศรัทธาต่ออัลเลาะห์ทุกคน ก่อนที่จะตัดสินใจปฏิบัติงานใดๆเพื่อแสวงหาริสกีของอัลลอฮ์ ขอให้ตรวจสอบให้ดีว่า งานของเรานั้นเป็นงานที่ฮาล้าลหรือฮารอม ถ้าเรารู้สึกตัวว่าเรากำลังประกอบอาชีพที่ฮารอมอยู่ ขอให้เตาบัตตัวสารภาพผิดต่ออัลลอฮ์  แล้วหันมาประกอบอาชีพที่ฮาล้าลเถิด เราจะได้รับบะรอกัตในริสกีนั้น และจะพบกับความสุขที่แท้จริงในโลกดุนยา หลังจากเราเสียชีวิตลง เราก็จะพบความสุขที่ถาวรในโลกอาคิเราะห์    إن شاء الله

คุตบะฮ์วันศุกร์ ณ มัสยิดท่าอิฐ