วิถีแห่งความปลอดภัย
  จำนวนคนเข้าชม  8199

 

วิถีแห่งความปลอดภัย


 

โดย อาจารย์ ดาวุด สันติวิไลพร


 

          ท่านพี่น้องมุสลิมที่เคารพรักทั้งหลาย มาเถิด เรามาร่วมกัน เพิ่มขีดความยำเกรง หรือ ตักวา ต่อพระองค์ อัลลอฮ์  ด้วยกับการปฏิบัติตามคำสอนของอิสลามอย่างจริงจัง และด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อให้เกิดความสันติสุขและปลอดภัยในชีวิต ทั้งในส่วนบุคคล ครอบครัว และสังคม 

 

       ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาที่พระองค์ อัลลอฮ์  ได้ประทานมาให้กับมนุษยชาติทั้งหลาย เป็นศาสนาที่นำมาซึ่งความปลอดภัย สันติ และความผาสุกต่อผืนแผ่นดิน ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาที่สร้างให้มนุษยชาติ อยู่ในกรอบของความดีที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งอิสลามได้ประกันความปลอดภัยในชีวิตอย่างแท้จริง ให้เกิดขึ้นในชีวิตทั้งส่วนบุคคล ครอบครัว และสังคม อิสลามมิได้ประกันถึงความปลอดภัยในชีวิตแต่เพียงในโลกนี้เท่านั้น แต่ทว่าอิสลามได้ประกันในความปลอดภัยไปจนถึงวันกิยามะห์ ในโลกหน้า ด้วยเหตุนี้เองเราในฐานะที่เป็นผู้ศรัทธาต่อพระองค์อัลลอฮ์ เป็นผู้ที่ถูกสั่งใช้ให้ปฏิบัติตามคำสอนของอิสลาม ในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านอะกีดะห์ คือการยึดมั่นต่อพระองค์อัลลอฮ์  ด้านอิบาดะห์ คือการปฏิบัติในศาสนกิจ ความสัมพันธ์กับคนอื่น สังคม เศรษฐกิจ และอื่นๆ 
 

พระองค์ อัลลอฮ์  ทรงกล่าวในอัลกุรอานว่า


يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا ادْخُلُوا فِي السِّلْمِ كَافَّةً وَلَا تَتَّبِعُوا خُطُوَاتِ الشَّيْطَانِ إِنَّهُ لَكُمْ عَدُوٌّ مُبِينٌ (820)

 

"บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงเข้าอยู่ในความสันติ โดยทั่วทั้งหมด

และจงอย่าตาม บรรดาก้าวเดินของชัยฏอน แท้จริงมันคือ ศัตรูที่ชัดแจ้งของพวกเจ้า"
 

(ซูเราะห์ อัลบากอเราะฮ์ อายะห์ที่ 208)

 

         พฤติกรรมและการปฏิบัติหรือการกระทำต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ของมุสลิมในทุกวันนี้ เป็นเสมือนกระจก ที่สะท้อนถึงความปลอดภัยที่ชัดเจน ซึ่งมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดที่จะบ่งบอกถึงความปลอดภัย และสันติภาพของสังคม ท่านนบีมุฮัมมัด  ได้กล่าวว่า


اَلْمُسْلِمُ مَنْ سَلِمَ الْمُسْلِمُوْنَ مِنْ لِسَانِهِ وَيَدِهِ

"มุสลิมที่แท้จริงนั้นคือ ผู้ที่ให้ความปลอดภัยแก่มุสลิมคนอื่น จากลิ้นและมือของเขา"

 

        จากหะดิษข้างต้นท่านนบีมุฮัมมัด  ได้ชี้แจงเกี่ยวกับความหมายที่แท้จริงของคำว่า "มุสลิม" นั่นคือ ส่วนหนึ่งของคุณลักษณะของมุสลิม เขาจะต้องพึงรักษาลิ้นและมือของเขาจากการกระทำที่ก่อให้เกิดความลำบาก หรืออันตรายต่อผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อมุสลิมด้วยกัน สังคมจึงปลอดจากความไม่สงบต่างๆ การก่ออาชญากรรม ความขัดแย้ง และการแตกแยก 

        เมื่อใดที่มุสลิมยอมรักษาลิ้นของเขา จากการด่าทอผู้อื่น การนินทาต่อผู้อื่น การใส่ร้ายป้ายสี และจากการยุแหย่ให้แตกแยกกัน และเช่นเดียวกับการที่มุสลิมจะต้องรักษามือของเขา จากการไปทำร้ายผู้อื่น ไม่กระทำการอธรรม ไม่กดขี่ข่มเหง การกระทำที่ป่าเถื่อน และไม่ฆ่าผู้อื่น พึงทราบเถิดว่า ลิ้นและมือนั้น หากใช้ในทางที่ผิด ก็จะส่งผลกระทบ ทำให้สังคมนั้นๆ เสียหาย ปั่นป่วน สามารถกล่าวได้ว่า มุสลิมคนใดก็ตาม ที่สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจต่อมุสลิมอีกคนหนึ่ง ไม่ว่าจะด้วยลิ้นของเขา หรือมือของเขา การกระทำหรือจากการใช้อำนาจอิทธิพลของเขาแล้วนั้น ก็สามารถกล่าวได้ว่า เขาคนนั้นยังไม่ใช่มุสลิมที่แท้จริง 

         ดังนั้นในส่วนนี้เอง จึงเป็นตัวบ่งบอกว่า มุสลิมที่แท้จริงคือ สิ่งที่มุสลิมทุกคนจะต้องเข้าใจ และจะต้องปฏิบัติตามคุณลักษณะและอุปนิสัยที่มุสลิมทุกคนควรมี  จึงกล่าวได้ว่ามุสลิมที่มีอยู่ในทุกวันนี้ มีความสันติ เพราะอิสลามได้สอนให้พวกเขาประกอบในคุณงามความดี และห่างไกลจากการกระทำความชั่ว  ศาสนาอิสลาม จึงมีแต่ความสันติและปลอดภัย

         ถึงแม้ว่าจะมีคนบางกลุ่มที่กล่าวหาว่า ศาสนาอิสลามสอนให้มุสลิมเป็นคนหัวรุนแรงก็ตาม แต่คำกล่าวหานี้ไม่เป็นความจริง มีความเป็นไปได้ว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้น จากการทำสงครามในประเทศมุสลิมนั้น ส่อให้เห็นความรุนแรงอาจมาจากสาเหตุที่ว่า มุสลิมถูกอธรรม ไม่ได้รับความเป็นธรรมในบางสิ่งบางอย่าง หรือถูกล่วงละเมิดในสิทธิบางประการ จึงก่อให้เกิดการตอบโต้ หรือเกิดจากคนบางกลุ่มที่กระทำเลยขอบเขต อันเนื่องมาจากความเข้าใจผิดในแก่นแท้ของคำสอนอิสลาม ดังนั้นเหตุการณ์เช่นนี้ ก็สามารถเกิดขึ้นได้ กับทุกๆศาสนาหรือประเทศใดๆก็ได้  ซึ่งมิได้เกิดขึ้นเฉพาะคนที่นับถือศาสนาอิสลามเท่านั้น เช่นในกรณีลักทรัพย์ เรามิอาจที่จะปฏิเสธได้ว่า เกิดขึ้นในสังคมอิสลามเพียงสังคมเดียวเท่านั้น ในสมัยของท่านนบีมุฮัมมัด  เหตุการณ์เช่นนี้ก็เคยเกิดขึ้น และยังสามารถตัดสินลงโทษโดยใช้ ฮุก่ม คือบทบัญญัติการตัดสินของอิสลาม ต่อผู้กระทำความผิด ด้วยความเป็นธรรม เพราะศาสนาอิสลามตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม 

ท่านนบีมุฮัมมัด  ได้กล่าวกับเรื่องนี้ว่า


لَوْاُنَّ فَاطِمَةَ بِنْتَ مُحَمَّدٍ سَرِقَتْ لَقَطَعْتُ يَدَهَا

"หาก ฟาตีมะห์ บุตรีของ มุฮัมมัด ได้ทำการลักขโมย แน่นอน ฉันจะตัดมือของหล่อน" 

(รายงานโดยอิหม่ามมุสลิม)

        ท่านผู้ฟังที่เคารพ อิสลามเป็นศาสนาที่สอนให้ ผู้ที่ปฏิบัติตามอิสลาม ให้ปฏิบัติ หรือกระทำในสิ่งที่มีความชอบธรรม ต่อเพื่อนมนุษย์ และอิสลามก็มิเคยสั่งใช้ให้ทำ ในสิ่งที่เป็นอธรรมต่อเพื่อนมนุษย์ พระองค์ อัลลอฮ์  ทรงกล่าวในอัลกุรอาน ซูเราะห์ อัลนะห์ลุ อายะห์ที่ 90


إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالْإِحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ (90)

"แท้จริงอัลลอห์ทรงใช้ ให้รักษาความยุติธรรม และทำความดี และการบริจาคแก่ญาติใกล้ชิด

และให้ละเว้นจากการทำลามก และการชั่วช้า และการอธรรม พระองค์ทรงตักเตือนพวกเจ้า เพื่อพวกเจ้าจักได้รำลึก"

        ท่านพี่น้องที่เคารพ สามารถที่จะสรุปได้ว่า อิสลามเป็นศาสนาที่ดีที่สุด ปลอดภัย และยังได้ให้หลักประกันถึงความสงบเรียบร้อย คือความปลอดภัยต่อมนุษยชาติ หากมนุษย์ยอมที่จะน้อมรับ คำสอนของอิสลาม และเป็นบ่าวของพระองค์ อัลลอฮ์ ซุบฮานาฮูว่าตาอาลา 





 

คุตบะห์วันศุกร์ ณ มัสยิดท่าอิฐ