ซินาหรือผิดประเวณีนั้นเป็นที่ต้องห้าม
  จำนวนคนเข้าชม  6702

 

ซินาหรือผิดประเวณีนั้นเป็นที่ต้องห้าม

 

ดร.อะมีน บิน อับดุลลอฮฺ อัช-ชะกอวีย์


 

          การสรรเสริญทั้งมวลเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ การสดุดีและความศานติจงมีแด่ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ฉันขอปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ควรได้รับการภักดีนอกจากอัลลอฮฺเพียงผู้เดียว โดยไม่มีภาคีหุ้นส่วนอันใดสำหรับพระองค์ และฉันขอปฏิญาณว่าท่านนบีมุหัมมัดคือบ่าวของอัลลอฮฺและเป็นศาสนทูตของพระองค์  
 

อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

         “และบรรดาผู้ที่ไม่วิงวอนขอพระเจ้าอื่นใดคู่เคียงกับอัลลอฮ และพวกเขาไม่ฆ่าชีวิตซึ่งอัลลอฮทรงห้ามไว้ เว้นแต่เพื่อความยุติธรรม และพวกเขาไม่ผิดประเวณี และผู้ใดกระทำเช่นนั้น เขาจะได้พบกับความผิดอันมหันต์  การลงโทษในวันกิยามะฮฺจะถูกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าสำหรับเขา และเขาจะอยู่ในนั้นอย่างอัปยศ” 

(อัล-ฟุรกอน : 68-69 )

อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ได้ตรัสอีกว่า

          “และบรรดาผู้ที่พวกเขาเป็นผู้รักษา (ไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ของ) อวัยวะเพศของพวกเขา (โดยไม่ผิดประเวณี) เว้นแต่แก่บรรดาภรรยาของพวกเขา หรือที่มือขวาของพวกเขาครอบครอง (คือทาสี) ในกรณีเช่นนั้นพวกเขาจะไม่ถูกตำหนิ  ฉะนั้นผู้ใดแสวงหาอื่นจากนี้ ชนเหล่านั้นพวกเขาก็เป็นผู้ละเมิด”

 (อัล-มุอฺมินูน : 5-7)

อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ได้ตรัสอีกว่า

“และพวกเจ้าอย่าเข้าใกล้การผิดประเวณี แท้จริงมันเป็นการลามกและทางอันชั่วช้า” 

(อัล-อิสรออฺ : 32)

         บรรดาโองการที่กล่าวมาข้างต้นบ่งชี้ถึงคุณลักษณะของบ่าวผู้ศรัทธามั่นต่ออัลลอฮฺด้วยคุณลักษณะที่ดีงามยิ่ง เช่น ไม่ตั้งภาคีด้วยการภักดีต่อพระเจ้าอื่นร่วมกับอัลลอฮฺ ไม่คร่าชีวิตของผู้อื่น และรักษาอวัยวะเพศจากการกระทำชั่วช้าลามก อัลลอฮฺได้เตือนผู้ที่ละเมิดไปกระทำสิ่งเหล่านี้ด้วยกับโทษอันมหันต์และการลงโทษในไฟนรกที่ทวีคูณและน่าอัปยศยิ่งนักหากเขาไม่กลับเนื้อกลับตัว และประกอบคุณงามความดีหลังจากนั้น ดังที่พระองค์ตรัสว่า 

         “และบรรดาผู้ที่ไม่วิงวอนขอพระเจ้าอื่นใดคู่เคียงกับอัลลอฮ และพวกเขาไม่ฆ่าชีวิตซึ่งอัลลอฮทรงห้ามไว้ เว้นแต่เพื่อความยุติธรรม และพวกเขาไม่ผิดประเวณี และผู้ใดกระทำเช่นนั้น เขาจะได้พบกับความผิดอันมหันต์  การลงโทษในวันกิยามะฮฺจะถูกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าสำหรับเขา และเขาจะอยู่ในนั้นอย่างอัปยศ  

        เว้นแต่ผู้ที่กลับเนื้อกลับตัว และศรัทธาและประกอบการงานที่ดี เขาเหล่านั้นแหละอัลลอฮจะทรงเปลี่ยนความชั่วของพวกเขาเป็นความดี และอัลลอฮเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ และผู้ใดกลับเนื้อกลับตัวและกระทำความดี แท้จริงเขากลับเนื้อกลับตัวเข้าหาอัลลอฮอย่างจริงจัง” 

(อัล-ฟุรกอน : 68-71)


         อนึ่ง การทำซินา (ผิดประเวณี) เป็นความผิดอันมหันต์ (บาปใหญ่) โดยที่อัลลอฮฺกล่าวพร้อมกับการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ และการฆ่าชีวิตผู้อื่น เนื่องจากมีผลกระทบต่อระบบครอบครัว ทำลายระบบวงศ์ตระกูลของมนุษย์โดยสิ้นเชิง ละเมิดข้อห้ามของอัลลอฮฺ เป็นการจุดไฟแห่งความโกรธแค้นและการเป็นศัตรู เป็นการสร้างความเสียหายแก่ภรรยา ลูกสาว พี่สาว น้องสาวของผู้อื่น และเป็นการสร้างความเสียหายบนหน้าแผ่นดินนี้

         ด้วยเหตุนี้ อิสลามจึงกำหนดบทลงโทษโทษอย่างหนักแก่ผู้ผิดประเวณีที่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว นั่นคือ ด้วยการฆ่าสถานเดียว และรูปแบบการฆ่าที่แตกต่างไปจากความผิดอื่นๆ นั่นคือการฝังครึ่งตัวแล้วขว้างด้วยก้อนหินจนกระทั่งเสียชีวิต

         ท่านอิหม่ามอัล-บุคอรียฺและอิหม่ามมุสลิมได้บันทึกหะดีษจาก ท่านอับดุลลอฮฺ อิบนู มัสอูด เล่าว่า ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า

“ไม่อนุญาตแก่ผู้ใดที่จะฆ่าชีวิตของมุสลิม ที่กล่าวปฏิญาณว่าอัลลอฮฺเป็นพระเจ้าของเขา และฉันเป็นศาสนทูตของอัลลอฮฺ

เว้นแต่หนึ่งในสามกรณีต่อไปนี้ คือ

  ผู้ผิดประเวณีที่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว

♣ ♣  ผู้ที่ฆ่าชีวิตผู้อื่น และ

♣ ♣ ♣  ผู้ที่มุรตัดออกจากศาสนาอิสลาม” 

(บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ หมายเลข : 6878 และมุสลิม หมายเลข : 1676)


        ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ยังได้ระบุความเสียหายแก่ผู้ที่นำพาตนเองลงสู่บ่วงแห่งการซินาว่าเขาผู้นั้นมีศรัทธาที่อ่อนมากขณะที่เขาทำซินา

«لَا يَزْنِي الزَّانِي حِينَ يَزْنِي وَهُوَ مُؤْمِنٌ» [البخاري برقم 6809]

 

“ผู้ผิดประเวณีจะไม่ทำผิดประเวณีในขณะที่เขาเป็นผู้ศรัทธา ณ เวลาที่เขากระทำการผิดประเวณีอยู่นั้น”  

(บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ หมายเลข : 6809)

         อิหม่ามอัล-บุคอรียฺได้รายงานหะดีษในคืนที่ท่านนบีอิสรออฺและเมี๊ยะรอจว่า มะลักญิบรีล และมีกาอีลได้มาหาท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม แล้วทั้งสองนำท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ไปยังสถานที่แห่งหนึ่งคล้ายเตาเผา ผู้รายงานพูดว่า ฉันคิดว่าท่านได้พูดว่า 

        ” ทันใดนั้นมีเสียงดังกึกก้องเล็ดลอดออกมา เรามองเห็นกลุ่มคนทั้งผู้ชายและผู้หญิงในสภาพที่เปลือยกาย โดยที่มีไฟเผาไหม้จากเบื้องล่างของพวกเขา เมื่อไฟได้เผามาถึง พวกเขาก็ร้องโอดครวญด้วยเสียงที่ดังทรมาน เนื่องจากความร้อนจัดของไฟ ฉันจึงถามญิบรีลว่า พวกเขาเหล่านั้นเป็นใครกัน?

ญิบรีลบอกว่า พวกเขาคือผู้ที่ทำผิดประเวณีทั้งผู้ชายและผู้หญิง” 

(บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ หมายเลข : 7048)

        ด้วยเหตุนี้ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จึงได้ทำสัญญากับบรรดาสาวกของท่านว่าอย่าได้ถลำตัวลงไปกระทำความชั่วชนินี้ อุบาดะฮฺ อิบนุ ศอมิต เล่าว่า ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวกับสาวกกลุ่มหนึ่งของท่านว่า

«بَايِعُونِي عَلَى أَنْ لَا تُشْرِكُوا بِاللَّهِ شَيْئًا، وَلَا تَسْرِقُوا وَلَا تَزْنُوا» [البخاري برقم 18، ومسلم برقم 1709] 

 

“ท่านทั้งหลายพึงสัญญากับฉันเถิดว่าจะไม่มีการตั้งภาคีใดๆ ร่วมกับอัลลอฮฺ และจะไม่ลักขโมย และจะไม่ผิดประเวณี” 
 

(บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ หมายเลข : 18 และมุสลิม หมายเลข : 1709)

     อิหม่ามอะหมัด อิบนุ หัมบัล กล่าวว่า “ฉันไม่เห็นว่าหลังจากการฆ่าชีวิตผู้อื่นแล้วจะมีบาปอันใดที่ยิ่งใหญ่มากไปกว่าการผิดประเวณี”

     อิหม่ามอัล-มุนซิรียฺ กล่าวว่า “มีหลักฐานยืนยันว่าผู้ที่ดื่มสุราเป็นนิจเมื่อจบชีวิตลง โทษของเขาไม่ต่างไปจากผู้ที่กราบไหว้เทวรูป แต่ผู้ที่ผิดประเวณีจะถูกลงโทษอย่างหนักยิ่งไปกว่าโทษการดื่มสุรา”


 

 

แปลโดย :  อิสมาอีล ซุลก็อรนัยน์ หุเสน / Islamhouse