อัลลอฮ์ เป็นผู้ทรงสิทธิ์ในการเลือกแต่เพียงพระองค์เดียว
ชัยคฺ มุหัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ
มวลการสรรเสริญเป็นเอกสิทธิ์ของอัลลอฮฺพระผู้อภิบาลแห่งสากลโลกฉันขอปฏิญาณว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺไม่มีภาคีใดเทียบเคียงพระองค์ และขอปฏิญาณว่าท่านนบีมุหัมมัดคือบ่าวและศาสนทูตของพระองค์
อัลลอฮฺตะอาลา เพียงพระองค์เดียวคือ ผู้ทรงสร้าง และผู้ทรงเลือก พระองค์ตรัสว่า
﴿ وَرَبُّكَ يَخۡلُقُ مَا يَشَآءُ وَيَخۡتَارُۗ مَا كَانَ لَهُمُ ٱلۡخِيَرَةُۚ سُبۡحَٰنَ ٱللَّهِ وَتَعَٰلَىٰ عَمَّا يُشۡرِكُونَ ٦٨ ﴾ [القصص: ٦٨]
“และพระเจ้าของเจ้าทรงสร้างสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์และทรงเลือกพวกเขาไม่มีสิทธิ์ในการเลือก
มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่อัลลอฮฺและพระองค์ทรงสูงส่งเหนือสิ่งที่พวกเขาตั้งภาคี”
(อัลเกาะศ็อศ: 68)
ซึ่งความหมายของการเลือกในที่นี้ คือ การคัดเลือกและคัดกรองสิ่งที่เหมาะสม ส่วนดำรัสของพระองค์ที่ว่า "พวกเขาไม่มีสิทธิ์ในการเลือก” นั้นหมายถึง การเลือกนั้นไม่ใช่สิทธิ์ของผู้ถูกสร้างเหล่านั้นเพราะเมื่อพระองค์เป็นผู้สร้างสรรพสิ่งแต่เพียงพระองค์เดียว พระองค์ก็ย่อมเป็นผู้มีสิทธิ์ในการเลือกแต่เพียงพระองค์เดียวเช่นกัน เพราะพระองค์คือผู้ซึ่งรู้ดีที่สุดเกี่ยวกับการเลือกของพระองค์
ดังที่พระองค์ตรัสความว่า
"อัลลอฮฺทรงรู้ดียิ่งว่าพระองค์จะประทานสารของพระองค์แก่ผู้ใด”
(อัลอันอาม: 124)
และดังที่พระองค์ตรัสว่า
﴿ وَقَالُواْ لَوۡلَا نُزِّلَ هَٰذَا ٱلۡقُرۡءَانُ عَلَىٰ رَجُلٖ مِّنَ ٱلۡقَرۡيَتَيۡنِ عَظِيمٍ ٣١ أَهُمۡ يَقۡسِمُونَ رَحۡمَتَ رَبِّكَۚ نَحۡنُ قَسَمۡنَا بَيۡنَهُم مَّعِيشَتَهُمۡ فِي ٱلۡحَيَوٰةِ ٱلدُّنۡيَاۚ وَرَفَعۡنَا بَعۡضَهُمۡ فَوۡقَ بَعۡضٖ دَرَجَٰتٖ ﴾ [الزخرف: ٣١، ٣٢]
“และพวกเขากล่าวว่าเหตุใดอัลกุรอานนี้จึงไม่ถูกประทานลงมาให้แก่ชายผู้ยิ่งใหญ่จากสองเมืองนี้?
พวกเขาเป็นผู้แบ่งปันความเมตตาแห่งพระเจ้าของเจ้ากระนั้นหรือ?
เราต่างหากที่เป็นผู้จัดสรรปัจจัยยังชีพของพวกเขาในระหว่างพวกเขาในการมีชีวิตอยู่ในบนโลกนี้
และเราได้เชิดชูบางคนในหมู่พวกเขาเหนือกว่าบางคนหลายชั้น”
(อัซซุครุฟ: 31-32)
จะเห็นว่าอัลลอฮฺตะอาลา ทรงปฏิเสธสิทธิ์ในการเลือกของพวกเขา และทรงย้ำว่าเรื่องดังกล่าวเป็นสิทธิ์ของพระองค์ผู้ทรงจัดสรรปัจจัยยังชีพ และกำหนดให้ผู้คนในสังคมมีความแตกต่างกันหลายระดับชั้น ดังนั้นอัลลอฮฺตะอาลาซึ่งเป็นผู้ทรงสร้างสรรพสิ่งจึงสมควรที่จะเป็นผู้มีสิทธิ์ในการเลือกผู้หนึ่งผู้ใดเพื่อการหนึ่งการใด ตามแต่ที่พระองค์เห็นสมควร และด้วยความรอบรู้ของพระองค์โดยมิพักต้องอาศัยคำแนะนำหรือข้อเสนอแนะของผู้ใด
ซึ่งการที่พระองค์เป็นผู้ทรงสิทธิ์ในการเลือกแต่เพียงพระองค์เดียวนั้น ถือเป็นหลักฐานอันชัดแจ้งยิ่งถึงความเป็นพระเจ้าและความเป็นเอกะของพระองค์ ทั้งยังเป็นสิ่งยืนยันถึงความสมบูรณ์แบบของพระองค์ และความสัตย์จริงของบรรดาศาสนทูตของพระองค์
ส่วนหนึ่งจากการเลือกของพระองค์คือการที่พระองค์ทรงคัดเลือกมลาอิกะฮฺ บางส่วนให้มีหน้าที่รับผิดชอบเฉพาะด้าน ดังที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
« اللهمَّ رَبَّ جِبْرِيلَ وَمِيْكائِيل وَإسْرافِيل، فَاطرَ السَمَاوَاتِ والأرضِ، عَالمَ الغَيبِ والشهادةِ، أنتَ تَحكُم بَين عِبادِكَ فِيما كانوا فيه يَخْتَلِفونَ، اهْدِنَا لِما اخْتُلِفَ فِيْهِ مِنَ الحقِّ بإذْنكَ، إنَّك تَهْدِي مَنْ تَشاءُ إلى صِراطٍ مُسْتَقِيْمٍ » [رواه مسلم برقم 770]
“โอ้อัลลอฮฺผู้เป็นพระเจ้าของญิบรีลมีกาอีลและอิสรอฟีลผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินผู้ทรงรอบรู้สิ่งที่อยู่ในที่ลับและที่แจ้ง พระองค์ทรงตัดสินในสิ่งที่บรรดาบ่าวของพระองค์ขัดแย้งกัน ขอพระองค์ทรงชี้นำทางแห่งสัจธรรมจากสิ่งที่มีการขัดแย้งกันด้วยประสงค์ของพระองค์ แท้จริงพระองค์ทรงชี้นำทางผู้ที่พระองค์ประสงค์สู่หนทางที่ถูกต้องเที่ยงตรง”
(บันทึกโดยมุสลิมหะดีษเลขที่770)
เช่นเดียวกับการที่พระองค์ทรงเลือกบรรดานบีจากลูกหลานของอาดัม และทรงเลือกผู้ทำหน้าที่เราะสูลจากบรรดานบีเหล่านั้น จากนั้นทรงเลือกเราะสูลห้าท่านจากบรรดาเราะสูลทั้งหลายให้ได้รับฉายา“อุลุลอัซมฺ” ที่มีเกียรติและมีความประเสริฐเหนือเราะสูลท่านอื่นๆ ดังที่ถูกกล่าวถึงในสูเราะฮฺอัลอะหฺซาบอายะฮฺที่ 8 และอัชชูรออายะฮฺที่ 13 และทรงเลือกท่านนบีอิบรอฮีมและท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จากบรรดาอุลุลอัซมฺเพื่อดำรงฐานะ “เคาะลีล”(ผู้เป็นที่รักของพระองค์– ผู้แปล)ขอความสันติจงประสบแด่ทุกท่าน
อีกตัวอย่างหนึ่งของการเลือกของพระองค์คือ การที่พระองค์ทรงเลือกลูกหลานนบีอิสมาอีลจากบรรดาลูกหลานอาดัม และทรงเลือกลูกหลานกินานะฮฺจากสายคุซัยมะฮฺ และทรงเลือกกุร็อยชฺจากลูกหลานกินานะฮฺ และทรงเลือกบนีฮาชิมจากลูกหลานกุร็อยชฺ จากนั้นทรงเลือกท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จากบนีฮาชิม และทรงเลือกประชาชาติของท่านเหนือประชาชาติอื่นๆ
ดังปรากฏรายงานจากมุอาวิยะฮฺบินหัยดะฮฺเล่าจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมว่า
« أنتُم تُوْفُون سَبعينَ أُمَّةً ، أنتم خَيْرُها وأَكرَمُها على الله » [رواه أحمد برقم 20015]
“พวกท่านเป็นผู้ที่ทำให้จำนวนประชาชาติทั้งหมดครบเจ็ดสิบประชาชาติซึ่งพวกท่านเป็นประชาชาติที่ดีเลิศและมีเกียรติที่สุด ณ อัลลอฮฺ"
(มุสนัดอะหมัดหะดีษเลขที่ 20015)
แปลโดย:อัสรัน นิยมเดชา / islamhouse