นักดะอฺวะฮฺนั้นต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว 27-30
  จำนวนคนเข้าชม  3060

 

ศิลปะที่สำคัญของวิธีการดะอฺวะฮฺ  30 ประการ 

 

เขียนโดย : อาอิฏบินอับดิลลาฮฺอัลก็อรนีย์
 

แปลและเรียบเรียงโดย : อาจารย์ อับดุลฆอนี บุญมาเลิศ

 

ศิลปะที่สำคัญของวิธีการดะอฺวะฮฺ ประการที่ 27-30

 

27. นักดะอฺวะฮฺต้องยืนอยู่แนวหน้าในการทำอิบาดะฮฺ

          นักดะอฺวะฮฺนั้น  จะต้องรักษาการทำอิบาดะฮฺที่เป็น “นะวาฟิล” ต่าง ๆ และการทำชิกรุลลอฮฺและดุอาอฺ นักดะอฺวะฮฺจะต้องปฏิบัติให้เป็นประจำและให้มากกว่าคนธรรมดา  เขาจะต้องยืนอยู่แนวหน้าในการทำหน้าที่ตลอด  รักษาเวลาละหมาดให้ตรงเวลาในการขอดุอาอฺตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงหลังตะวันตกดิน อัลลอฮฺ  จะได้ทรงพิทักษ์รักษาเขา เขาจะต้องทบทวนตนเองด้วยการขอดุอาอฺ และการใช้คำพูดที่ดี ๆ หลังจากละหมาดฟัจรฺและจะต้องทำการชิกรุลลอฮฺประจำวัน  ออกห่างจากสายตาของผู้คน  อ่านกุรอานเป็นประจำ พิจารณาเรื่องราวของอัลกรุอาน อ่านประวัติของชาวสลัฟ 

 

          การหมดเวลาไปกับการคบค้าสมาคมอยู่กับผู้คนส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสาเหตุให้หัวใจมืดบอก ทำให้ความคิดไม่ปกติ อ่อนไหวง่าย และทำให้หัวใจแข็งกระด้างในที่สุด ดังนั้นในบางครั้งช่วงเวลากลางวันหรือช่วงกลางคืน สมควรที่จะต้องปลีกตัวอยู่คนเดียวไม่นั่งร่วมวงกับใคร ไม่พบปะผู้ใด ไม่พูดโทรศัพท์ ไม่อ่านนอกจากสิ่งที่เป็นประโยชน์แล้วสำรวจตนเองในเรื่องดังกล่าวนั้น


 

28. นักดะอฺวะฮฺต้องไม่หมกมุ่นในเรื่องดุนยา และเตรียมพร้อมเพื่อความตาย

          นักดะอฺวะฮฺ  จะต้องคิดเสมอในเรื่องที่เขาจะต้องจากไปจากโลกดุนยานี้  และระลึกอยู่เสมอว่าเขานั้นจวนที่จะต้องไป  เรื่องของอะญัลนั้น เป็นที่แน่นอนที่เขาต้องไปพบ  ดังนั้น  จึงไม่ต้องติดยึดอยู่กับผู้คนมากมายหรือผู้ที่นิยมชมชอบ  อัลลอฮฺ  ได้ตรัสว่า

 

“ไม่มีผู้ใดในบรรดาชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน เว้นแต่เขาจะมายังพระผู้ทรงกรุณาปราณีในฐานะอย่างคนหนึ่ง

แน่นอนที่สุดพระองค์ทรงรอบรู้ดีถึงพวกเขาและทรงนับพวกเขา อย่างถี่ถ้วนไว้แล้ว

และทุกคนในพวกเขาจะมายังพระองค์ในวันกิยามะฮฺอย่างโดดเดี่ยว”
 

(มัรยัม / 93 – 95)

         เป็นที่ทราบกันดีว่า เขาจะต้องตายอยู่คนเดียว ถูกเกิดมาคนเดียว ถูกฝังอยู่คนเดียว แล้วอัลลอฮฺ  จะทรงทดสอบเขาในทุกคำพูดที่เขาได้พูดไป  เขาก็ได้คิดว่า  เพราะเหตุใดเขาจึงเชิญชวน?  เพราะอะไรเขาจึงพูด?  เขากำลังพูดอะไร?  ทำไมเขาจึงเผยแพร่?  ต้องพูดเพื่อว่า เขาจะได้มีความรอบคอบและสุขุม

         ด้วยเหตุดังกล่าวนี้  นักดะอฺวะฮฺจึงต้องลดความหมกมุ่นในเรื่องของดุนยาลงแต่เพียงพอดี ไม่ลดจนเป็นอันตราย ความพอดีคือสายกลางมีที่พักอาศัยเยี่ยงคนอื่น ๆ เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่อยู่ในฐานะปานกลาง เป็นที่ทราบดีว่า ยังมีความจริงที่คนส่วนมากยังไม่ทราบ ที่คนร่ำรวยทำตนเป็นยากจน ส่วนคนยากจนทำตนเป็นรวย


29. นักดะอฺวะฮฺ จะต้องแสดงออกด้วยภาพลักษณ์ที่งดงาม

          บางคนพบว่านักดะอฺวะฮฺต้องสวมใส่เสื้อผ้าแบบคนยากจนหรือจะต้องสวมใส่เสื้อผ้าคุณภาพเลวราคาถูก อย่างนี้เป็นความคิดที่ผิด เพราะแท้จริงอัลลอฮฺ  นั้น พระองค์ทรงอนุมัติสิ่งที่ดี ๆ เอาไว้ และท่านร่อซูล  ได้เรียกร้องให้แต่งกายสวยงามภูมิฐาน สมดังคำพูดของท่านที่ว่า

“พวกท่านจงแต่งตัวกันให้สวยงามจนดูดีในสายตาของผู้คน” 

และท่านยังกล่าวอีกว่า “แท้จริง  อัลลอฮฺนั้นทรงงดงามพระองค์ทรงโปรดความงาม” 

(บันทึกโดย อบูดาวูด)

          สิ่งที่สมควร คือ นักดะอฺวะฮฺจะต้องดูดีมีสง่า ใส่เครื่องหอมที่ให้กลิ่นหอม ในการต้อนรับคนที่ดี ๆ ทั้งหลาย นักดะอฺวะฮฺ สามารถที่จะมีพาหนะที่ดีซึ่งไม่ขัดแย้งกับแนวทางของอัลลอฮฺ  หรือแนวทางของท่านร่อซูล  ดังนั้น จึงสมควรอย่างยิ่งที่นักดะอฺวะฮฺจะต้องเตรียมพร้อมอยู่ในสภาพที่เหมาะสมกับสถานการณ์  เพราะท่านร่อซูล  นั้น จะพิถีพิถันเป็นพิเศษในเรื่องดังกล่าว ในการออกไปทำพิธีการละหมาดขอฝน ท่านสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่หรูหรา เพื่อแสดงถึงความนอบน้อมถ่อมตน และแสดงถึงความยากไร้ต่อพระพักตร์ของอัลลอฮฺ  แต่สำหรับในโอกาสวันอีดต่าง ๆ ท่านจะสวมใสเสื้อคลุมที่มีราคาแพงถึงหนึ่งพันดีนาร์ ออกไปพบปะสู่สายตาของผู้คน ราคาเสื้อที่ท่านใส่นั้นมีค่าเท่ากับอูฐหนึ่งร้อยตัว

         จึงจำเป็นที่นักดะอฺวะฮฺ  จะต้องสวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์ให้เหมาะสมกับบุคลิกแต่ละสถานการณ์ บางครั้งก็แพง บางครั้งก็ถูก  จะถือว่าเป็นการอธรรมที่นักดะอฺวะฮฺจะต้องอยู่ในบ้านพักแบบบ้านดินโบราณ  ขณะที่ในปัจจุบันบ้านพักอาศัยได้ถูกก่อสร้างด้วยคอนกรีตเป็นตึกหมดแล้ว และถือว่าเป็นความไม่เป็นธรรมที่นักดะอฺวะฮฺจะต้องนั่งบนทรายในขณะที่ผู้คนนั่งบนพรหม หรือนักดะอฺวะฮฺต้องใส่เสื้อผ้าเก่าคร่ำคร่าขาดวิ่น หรือสวมเสื้อเพียงชุดเดียวทั้งปี ทั้ง ๆ ที่ทราบดีว่า อัลลอฮฺ  นั้นทรงกว้างขาวง และอัลลอฮฺ  นั้น ทรงโปรดที่จะเห็นร่องรอยของเนี๊ยะอฺมะฮฺของพระองค์ที่บ่าวของพระองค์

        ขณะเดียวกัน นักดะอฺวะฮฺนั้น จะต้องไม่ทำตัวหมกมุ่นอยู่กับเรื่องของดุนยาจนเกินขอบเขต จนละเลยหน้าที่แนวทางของตน เป็นที่น่าเสียดายที่พบว่ายังมีนักดะอฺวะฮ์ส่วนมาก หรือชัยคฺบางท่าน หรือนักศึกษาบางจำพวก ที่จมอยู่กับเรื่องของดุนยาจนถึงหูสองข้างเลย เขามีทั้งบริษัท ห้างร้าน อพาร์ทเม้นท์ ทำให้ละเลยการทำหน้าที่ดะอฺวะฮฺไป

        เราไม่คัดค้าน ในการที่มุสลิมจะมีธุรกิจการค้า หรือการจัดสรรที่ดิน เพื่อให้เขามีรายได้ เช่นเดียวกับที่อุษมาน บิน เอาฟฺ และคนอื่น ๆ ได้กระทำจากกลุ่มของศ่อฮาบะฮฺ หากแต่ถ้านักดะอฺวะฮฺใช้เวลาทั้งหมดอยู่กับกิจการเหล่านั้น อยู่ประจำที่สำนักงาน มุ่งทำการติดต่อซื้อขายในการคิดราคาค่างวดของตั๋วแลกเงินหรือเช็คต่าง ๆ แล้วปล่อยให้ประชาชนตกอยู่ในความหลงผิด พฤติกรรมเช่นนี้ถือว่าผิด และเป็นเรื่องที่น่าอับอายที่สุด เพราะอัลลอฮฺ  ทรงแต่งตั้งท่านให้อยู่ในการฏออะฮฺที่สวยงามที่สุด คือ การดะอฺวะฮฺ

        ขณะเดียวกันนักดะอฺวะฮฺ ต้องให้ความสำคัญต่อภาพลักษณ์ของตนเอง พร้อมกับมีความงดงามด้วยหลักศรัทธา ต้องมีความสงบเสงี่ยม มีสัมมาคาราวะ แต่งกายตามแบบฉบับนักวิชาการที่ดี เพราะกลุ่มชนแต่ละพวกจะมีการแต่งตัวเป็นการเฉพาะและเดินอย่างผู้รู้ดูดี เอาใจใส่ในความสะอาดส่วนที่เป็นอวัยวะที่ต้องชำระ เช่น การแปรงฟัน การตัดเล็บ การเลี้ยงเครา การเล็มหนวด และมีความเคยชินกับเรื่องของส่วนอื่น ๆ ที่ต้องทำความสะอาด ชำระร่างกายเป็นประจำพร้อมใส่เครื่องหอม รักษาภาพลักษณ์ที่ดีเอาไว้ เพื่อจะได้แสดงออกมากซึ่งการเป็นนักดะฮฺวะอฺด้วยภาพลักษณ์ที่ดี งดงามต่อหน้าประชาชน

 

นักดะอฺวะฮฺนั้นต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

        แท้จริงแล้วนักดะอฺวะฮฺนั้น จะต้องมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองไม่ลอกเลียนแบบใครจนละลายหายตามไปกับคนบางคน ดังเราจะเห็นนักดะอฺวะฮฺบางคน เมื่อนิยมชมชอบนักดะอฺวะฮฺท่านอื่น หรือผู้รู้บางท่านก็ไม่มีความเป็นตัวของตัวเองหลงไปเลียนแบบตามในทุกสิ่ง ทั้งรูปร่างและท่าทางการเดิน การเคลื่อนไหว กิริยาท่าทางการแต่งตัว เลียนแบบผู้นั้นทุกกระเบียด

มีรายงานจากท่านรอซูล  เป็นคำพูดของท่านว่า

 “ท่านอย่าเป็นคนที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง โดยบอกว่าหากผู้คนทำดีฉันทำดีด้วย หากพวกเขาทำไม่ดี ฉันก็ทำไม่ดีด้วย”

       หาเป็นเช่นนั้นไม่ ถ้าพบเห็นผู้คนทำความดี ก็สมควรทำตามเขาได้ แต่พวกเขาทำความชั่ว ก็ต้องออกให้ห่างความชั่วนั้นเสีย เพราะการทำตัวกลมกลืนสูญสิ้นความเป็นตัวตนด้วยการลอกเลียนแบบตามผู้อื่นนั้น มิใช่การเรียกร้องของนักดะอฺวะฮฺเลย

        แท้จริงแล้ว ท่านจะต้องมีเอกลักษณ์ของท่านเอง มีความเป็นตัวของท่านเอง และท่านทราบใช่ไหมว่าอัลลอฮฺ  นั้นทรงสร้างท่านมาอย่างดีเพียงผู้เดียว ท่านนั้นไม่เหมือนใคร และในแผ่นดินก็ไม่มีใครที่เหมือนท่านได้ ดังนั้นท่านคือหนึ่งที่อีกหลายล้านคนที่อัลลอฮฺ  ได้ทรงสร้างขึ้นมาตั้งแต่อาดัม จนถึงวาระที่อัลลอฮฺ  จะเก็บเอาแผ่นดินนี้ไป ทั้งเสียงของท่านก็ไม่เหมือนใครสักคน รวมถึงรูปร่างทรงความพร้อมของท่าน ตลอดจนพรสวรรค์ที่ท่านมีอยู่ทั้งหมดนี้ท่านก็ไม่เหมือนคนอื่น และชาวอาหรับนั้นรังเกียจเป็นอย่างมากในการที่จะเลียนแบบสวมรอยผู้อื่น

        มีเรื่องเล่ากันว่านกยูงนั้น ต้องการจะเลียนแบบการเดินของกา แล้วนกยูงตัวนั้นก็ลืมท่าเดินของตัวเองขณะเดียวกันมันก็ไม่สามารถเลียนแบบท่าเดินของกาได้

        เช่นเดียวกันกับนักอ่านอัลกุรอานทั้งหลาย นักอ่านคนหนึ่งต้องการที่จะเลียนแบบนักอ่านคนอื่นเขาก็ต้องเหน็ดเหนื่อยมาก และเขาก็ทำได้ไม่ดีพอในการเลียนเสียง และก็ไม่สามารถใช้เสียงของตนได้เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นของเดิมที่อัลลอฮฺ  ให้เขามา ยกเว้นในกรณีที่เขามีเสียงคล้ายคนอื่นโดยไม่ต้องดัดแปลงและเหน็ดเหนื่อย และเสียงก็เพราะเหมือนกันอย่างนี้ถือว่าไม่เป็นไร อินชาอัลลอฮฺ

         ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่นักดะอฺวะฮฺจะต้องมีเอกลักษณ์ส่วนตัว ซึ่งแท้จริงท่านนบี  ได้ชมเชยบรรดาศอฮาบะฮฺของท่านแต่ละคนตามเอกลักษณ์ส่วนตัว 

ท่านได้กล่าวชม อุมัร ว่า เข้มแข็งดังได้กล่าวว่า “โอ้อุมัร จะเปรียบเทียบท่านก็เหมือนกับนวะฮฺและมูซา”

และท่านก็ได้ชม อบูบักร  ว่า มีความเมตตาสงสารดังที่กล่าวไว้ว่า “โอ้ อบูบักร จะเปรียบท่าน ก็เปรียบได้กับอิบรอฮีมและอีซา”

 

        ดังนั้น คนเข้มแข็งก็ยังดำรงอยู่ในความเข้มแข็งของตน และให้ใช้ความเข้มแข็งในการช่วยเหลือสนับสนุนเรื่องศาสนา

        ศาสนาอิสลามนั้น ยังต้องการคนที่เข้มแข็งทั้งในความคิดเห็นและการกระทำของเขา ขณะเดียวกันยังมีความต้องการคนที่มีความเมตตาสงสาร เพราะแต่ละคนก็มีส่วนและยังมีความสำคัญยิ่ง เช่นเดียวกับที่เรายังมีความต้องการพลังต่างๆ ของผู้คนในอดีตที่ผ่านไปมากมายที่เราได้พูดถึงเขาไว้ว่า ท่านรอซูล  นั้นได้จัดให้ผู้คนตามความจำกัดและความถนัดอยู่หลายชนิด และจัดให้พวกเขาอยู่นำหน้า ตามความเหมาะสมแห่งพรสวรรค์ของพวกเขา 

        ผู้นำหน้าในเรื่องการอ่านได้แก่ อุบัย บิน กะอฺบิ และฮัซซานก็เป็นกวีของท่านนบี  และเซด บิน ซาบิต ก็เป็นคนที่คล่องแคล่วในหมู่ชน และอบูบักร  ก็เป็นผู้ที่สำคัญในเรื่องของการจัดบริหาร สำหรับอุมัร  นั้น เป็นผู้ที่มีหน้าที่สำคัญทางด้านความเด็ดขาดเข้มแข็ง


30. นักดะอฺวะฮฺนั้นจะต้องเอาใจใส่ให้ความสนใจเรื่องกิจการของสตรี

          นักดะอฺวะฮฺนั้น จะต้องให้ความสนใจเอาใจใส่เรื่องราวกิจการต่างๆของสตรี อย่าได้ละเลยเพิกเฉยอยู่ ต้องพูดทั้งในการบรรยายหรืออื่นๆ เพราะว่านางนั้นเป็นครึ่งหนึ่งของสังคม และเนื้อหาที่มีอยู่ในหนังสือเล่มนี้ก็สามารถนำไปใช้กับสตรีได้ด้วยเช่นเดียวกัน

 

        เราขอวิงวอนต่ออัลลอฮฺ  ได้ทรงพอพระทัยต่อเรา เละได้ทรงปกป้องพวกเราให้พ้นความผิดทั้งคำพูดและการกระทำ และขอพระองค์ทรงคุ้มครองเราให้อยู่ในบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงให้ความคุ้มครองด้วยเถิด




 

ที่มา อัลอิศลาห์สมาคม