ศิลปะที่สำคัญของวิธีการดะอฺวะฮฺ 30 ประการ
เขียนโดย : อาอิฏบินอับดิลลาฮฺอัลก็อรนีย์
แปลและเรียบเรียงโดย : อาจารย์ อับดุลฆอนี บุญมาเลิศ
ศิลปะที่สำคัญของวิธีการดะอฺวะฮฺ ประการที่ 20-23
20. ต้องประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีงามด้วยตัวของเขาเอง
จำเป็นอย่างยิ่งที่นักดะอฺวะฮฺ จะต้องแสดงประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีงาม และจะต้องทำให้ดีที่สุดหรือใกล้เคียงที่สุด โดยต้องระวังว่า ถ้าเกิดความผิดพลาดแล้วจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โต เพราะนักดะอฺวะฮฺนั้นถ้าทำผิดพลาดก็จะเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาทันที เนื่องจากผู้คนนั้นกำลังเฝ้ามองดูเขาอยู่ เสมือนว่ามีกระจกบานใหญ่อยู่ตรงหน้าท่าน ทุกครั้งที่มีจุดสีดำเกิดขึ้นมันจะขยายใหญ่ขึ้น ดังนั้นจงเกรงกลัวอัลลอฮฺ ให้มากเกี่ยวกับเรื่องของประชาชาตินี้ เพื่อจะได้ไม่เป็นสาเหตุของความพินาศล่มจมของคนส่วนมาก เราจะพบเห็นผู้คนส่วนใหญ่จมดิ่งอยู่ในการทำผิด เพราะเหตูมาจากการฟัตวาตอบปัญหา ซึ่งเกิดจากการแสดงความคิดเห็นวินิจฉัยโดยส่วนตัวของผู้รู้บางคน ที่นำพาไปสู่การทำผิดเพียงหนเดียว แต่ทว่าด้วยสาเหตุนั้น ทำให้ผู้คนทั้งโลกต้องตกต่ำไป !!
ผู้รู้บางท่าน กล่าวว่า “ผู้รู้ตกต่ำ โลกก็ตกต่ำ”
ดังนั้นต้องศึกษาข้อมูลให้ถูกต้องก่อนการตัดสินใจนำมาใช้ และศึกษาขั้นตอนที่จะปฏิบัติ เพื่อจะได้ไม่เป็นการนำเสนอที่ทำให้คนบางพวกต้องประสบความยุ่งยาก และกี่คนแล้วที่ทำการฟัตวาให้คนโดยทั่วไป โดยอ้างถึงการกระทำของคนบางกลุ่มบางพวก อย่างนี้ถือเป็นความผิดอย่างมหันต์
21. ต้องสร้างความใกล้ชิดสนิทสนม ใกล้ชิดกับผู้คนโดยทั่วไป
สมควรอย่างยิ่งที่นักดะอฺวะฮฺ จะต้องสร้างความสนิทสนมกับผู้คนด้วยการทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้แก่ผู้คนเหล่านั้น เป็นวิธีที่สำคัญยิ่งอีกประการหนึ่ง มิใช่เพียงการพูดให้ฟัง หรือเพียงกล่าวปราศรัยหรือคุฏอบะฮฺสั่งสอน หากแต่ว่าจะต้องทำดังเช่นที่ท่านร่อซูล ได้สร้างความสนิทสนมแก่ผู้คน ในบางครั้งมีการให้สิ่งของ บางครั้งก็เข้าเยี่ยมเยียน และก็ถือว่าไม่เป็นไร ถ้าจะมีการเชื้อเชิญด้วย เพราะท่านร่อซูล นั้นเคย เชื้อเชิญผู้คนที่มีความสนิทสนมคนเหล่านั้น ด้วยการให้ของขวัญแก่พวกเขา บางครั้งก็ให้อูฐจำนวนหนึ่งร้อยตัวแก่คนคนเดียว ท่านสวมชุดใหม่และเข้าสวมกอดกับผู้คน หรือในบางครั้งก็ลุกให้คนหนึ่งนั่งแทนที่นั่งของท่าน การกระทำเช่นนี้เรียกว่าการทำให้ได้ใกล้ชิดสนิทสนม
ทั้งนี้คงจะไม่เป็นการยุ่งยากอันใดนัก ในการสร้างความใกล้ชิดผู้คนเพื่อที่จะชักนำพวกเขากลับสู่อัลลอฮฺ เช่น การสร้างความคุ้นเคยใกล้ชิดกับกลุ่มวัยรุ่นที่มีการฝ่าฝืน เมื่อท่านได้พบเห็นวัยรุ่นใดที่ฝ่าฝืนท่านก็ได้สอนเขา หรือเมื่อพบว่ามีชายหนุ่มที่ไม่สามารถทำการสมรสได้ ท่านก็ช่วยจ่ายค่ามะฮัรแก่เขา แล้วท่านกก็เจรจากับเขา ชักชวนให้ช่วยเป็นเพื่อน ท่านไปละหมาดญะมาอะฮฺที่มัสยิดพร้อมกับท่าน หรือชักจูงเขาให้กลับไปสู่อัลลอฮฺ หรือเตาบะฮฺกลับเนื้อกลับตัว
ขณะเดียวกัน ท่านจะต้องแสดงความสนิทสนมกับผู้คนที่ท่านพบเห็น เช่น เมื่อท่านพบเห็นคนติดยาเสพติด ท่านก็หยิบยื่นทรัพย์สินให้โดยมีเงื่อนไขว่าให้เขาเลิกยาเสพติดให้ได้
22. จำเป็นที่นักดะอฺวะฮฺ จะต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีให้เหมาะสมกับสถานภาพ ความเป็นอยู่ เพื่อที่จะก่อให้เกิดให้ความรัก หรือ ให้การสนับสนุนต่อกัน
สมควรที่นักดะอฺวะฮฺ จะต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ช่วยเหลือเกื้อกูลตามอัธยาศัยภายในขอบเขต เช่น เรื่องของความรักและความโกรธให้เป็นไปตามความฏออะฮฺของบุคคลผู้นั้น หรือโกรธก็ตามขนาดของการฝ่าฝืนของเขาผู้นั้น ท่านจะต้องไม่รักเขาจนเกินขอบเขตของคนที่มีความภักดี (ฏออะฮฺ) นั้น หรือโกรธคนที่ทำชั่วจนเกินเลยขอบเขต
ดังนั้นถ้าแสดงความรักผู้ใดก็ขอให้อยู่ในขอบเขตความดีงามของเขาที่ภักดีต่ออัลลอฮฺ และถ้าโกรธผู้ใดก็ให้อยู่ในขอบเขตของการฝ่าฝืนของเขาซึ่งทำการฝ่าฝืนต่ออัลลอฮฺ ในบางครั้งจะมีในคนคนเดียวนั้นที่มีทั้งรักและโกรธ เช่น รักเพราะเขาทำการละหมาดญามาอะฮฺ โกรธเพราะเขาชอบนินทาผู้อื่น ชอบเพราะไว้เครา โกรธเพราะเขาสวมเสื้อผ้ายาวลากพื้น ทุกสิ่งที่กล่าวนี้อาจมีอยู่ในคนเดียวที่มีทั้งรักและโกรธ
23. นักดะอฺวะฮฺที่ดี จะต้องอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับผู้คนในสังคม
จำเป็นแก่นักดะอฺวะฮฺ ที่จะต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกับผู้คนในสังคม โดยการเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาของผู้คน หรือไปเยี่ยมผู้ป่วยที่บ้านของพวกเขา การตัดขาดจากผู้คนนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะผู้คนทั้งหลายนั้นเมื่อพวกเขารู้สึกว่าท่านได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับช่วยเหลือให้พวกเขาหมดปัญหา พวกเขาก็จะรักพวกท่าน และขอเสนอแนะให้นักดะอฺวะฮฺนั้นเข้าร่วมงานนิกะหฺ ซึ่งในบางครั้งนักดะอฺวะฮฺจะอ้างอุซูรฺที่มิได้ไปร่วมงานนิกะหฺเพราะไม่สะดวก มิได้หมายความว่าไม่ชอบที่จะไปร่วมงานหากแต่ว่าเมื่อเขาได้ไปร่วมงานก็จะเป็นสิ่งที่ดีกว่า เพื่อเป็นการขอพรให้คู่บ่าวสาว และขอพรให้เจ้าของบ้านและแสดงความยินดีกับพวกเขาตลอดจนเสนอตัวในการรับใช้ต่าง ๆ หรือเข้าร่วมงานโดยการกล่าวปราศรัยในที่ประชุมนั้น ช่วยในการต้อนรับแขกก็ยิ่งจะช่วยทำให้เกิดความรักต่อกันและกันขึ้นไปอีก
จึงขอเชิญชวนให้นักดะอฺวะฮฺ ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการช่วยงานสมรสแก่ผู้ที่จะเข้าพิธีสมรส โดยสอบถามว่าเจ้าภาพมีอะไรให้ท่านช่วยไหม ? หรือกรณีที่ได้ยินข่าวการเสียชีวิตของใครบางคน ก็ให้รีบไปยังครอบครัวของผู้ตาย เพื่อเยี่ยมและปลอบใจเขาและย้ำเตือนเขาให้อดทนหนักแน่น มิเช่นนั้นผู้คนจะมองท่านว่าเป็นคนประเภทใด ? ในเมื่อท่านชักชวนเขาให้มาละหมาดญุมุอะฮ์ในวันศุกร์ ให้คำสั่งสอนแก่พวกเขาในวันศุกร์ แต่เขากับไม่เห็นท่านในการร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพวกเขาในยามที่พวกเขาเดือดร้อน
ทำนองเดียวกัน ท่านจะต้องมีส่วมร่วมในการช่วยแก้ปัญหาของพวกเขา นักดะอฺวะฮฺนั้นคือ ผู้ปรับปรุงแก้ไข ในขณะเดียวกันท่านก็จะได้รับความรักจากผู้คนทั้งหลาย ดังเช่น ครั้งหนึ่งท่านนบี ได้เคยล่าช้าจากการทำละหมาดดุฮรฺ เนื่องจากได้ออกไปยังเผ่าของอัมรุบนุเอ๊าฟฺ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาของพวกเขา และทำการเจรจาออมชอมในหมู่พวกเขา และเมื่อท่านร่อซูล ได้ทราบข่าวการป่วยของผู้ใด แม้แต่อาหรับชนบท(บัดวีย์) ที่อาศัยอยู่ท้ายเมืองมะดีนะฮฺ ท่านก็จะนำเหล่าศ่อฮาบะฮฺออกไปเยี่ยมเยียนผู้เจ็บป่วยนั้น การปฏิบัติเช่นนี้มีส่วนสำคัญที่ทำให้นักดะอฺวะฮฺจะเป็นผู้ที่ได้รับเอาความรักและความเข้าใจอยู่ในหัวใจของผู้คนทั้งหลาย
ที่มา อัลอิศลาห์สมาคม