บทเรียนแห่งความตาย
เรียบเรียงโดย อิสมาอีล กอเซ็ม
มวลการสรรเสริญเป็นเอกสิทธิ์ของอัลลอฮฺผู้อภิบาลแห่งสากลโลก ความสุขความศานติจงประสบแด่ท่านนบี ผู้ทรงเกียรติตลอดจนเหล่าศอหาบะห์ของท่าน
มนุษย์คนแรกที่อัลลอฮ์ ได้สร้างมา คือ ท่านนบีอาดัม มาจากดิน และสร้างคู่ครองของท่านเพื่อมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับท่าน คือ ฮาวา ดังจุดกำเนิดของมนุษย์ที่ได้แพร่กระจายไปทั่วสารทิศในโลกนี้ ดังคำดำรัสของอัลลอฮฺที่ว่า
اللَّهَ وَاتَّقُوا وَنِسَاءً كَثِيرًا رِجَالًا مِنْهُمَا وَبَثَّ زَوْجَهَا مِنْهَا وَخَلَقَ وَاحِدَةٍ نَّفْسٍ مِّن خَلَقَكُم الَّذِي رَبَّكُمُ اتَّقُوا النَّاسُ أَيُّهَا يَارَقِيبًا عَلَيْكُمْ كَانَ اللَّهَ إِنَّ وَالْأَرْحَامَ بِهِ تَسَاءَلُونَ الَّذِي( 1 )
"มนุษยชาติทั้งหลาย ! จงยำเกรงพระเจ้าของพวกเจ้าที่ได้บังเกิดพวกเจ้ามาจากชีวิตหนึ่ง และได้ทรงบังเกิดจากชีวิตนั้นซึ่งคู่ครองของเขา และได้ทรงให้แพร่สะพัดไปจากทั้งสองนั้น ซึ่งบรรดาชายและบรรดาหญิงอันมากมาย และจงยำเกรงอัลลอฮฺที่พวกเจ้าต่างขอกัน ด้วยพระองค์ และพึงรักษาเครือญาติ แท้จริงอัลลอฮฺทรงสอดส่องดูพวกเจ้าอยู่เสมอ"
(สูเราะห์ อันนิซาฮฺ อายะห์ที่ 1)
เมื่อเราได้รับทราบจุดกำเนิดที่มาของเราแล้ว อัลลอฮ์ ยังได้บอกอีกด้วยว่าพระองค์ได้บังเกิดพวกเรามาเพื่ออะไร
وَمَا خَلَقْتُ الْجِنَّ وَالْإِنسَ إِلَّا لِيَعْبُدُونِ) 56 )
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"
จากอายะห์ข้างต้นทำให้เราทราบว่าพระองค์ได้สร้างเรามาเพื่ออะไร เป้าหมายของพระองค์ก็คือ เพื่อให้มนุษย์ทำการกราบไหว้ สักการะ เคารพภักดีพระองค์เพียงผู้เดียว ห้ามนำสิ่งอื่นมาเทียบเคียงหุ้นส่วนในการเคารพภักดีต่อพระองค์
อีกอายะห์ที่พระองค์กล่าวถึงการสร้างมนุษย์
قال الله تعالى
الَّذِي خَلَقَ الْمَوْتَ وَالْحَيَاةَ لِيَبْلُوَكُمْ أَيُّكُمْ أَحْسَنُ عَمَلًا وَهُوَ الْعَزِيزُ الْغَفُورُ (2 (
"พระผู้ทรงให้มีความตายและให้มีความเป็น เพื่อจะทดสอบพวกเจ้าว่า ผู้ใดบ้างในหมู่พวกเจ้าที่มีผลงานดียิ่ง
และพระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงให้อภัยเสมอ"
สิ่งที่อัลลอฮ์ สร้างมนุษย์มาคู่กับการให้ชีวิตแก่มนุษย์ พระองค์ได้กำหนดอายุขัย ของมนุษย์ในการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ตามแต่วาระของแต่ละคน พระองค์ได้กำหนดอายุของแต่ละคนไม่เท่ากัน และสาเหตุของการเสียชีวิตที่แตกต่างออกไป แต่มนุษย์ทุกคนต้องเดินไปสู่เส้นทางแห่งความตาย ไม่มีมนุษย์คนใดที่สามารถหลีกหนีความตายไปได้ ดังดำรัสของพระองค์ที่ว่า
قال الله تعالى :
كُلُّ نَفْسٍ ذَائِقَةُ الْمَوْتِ وَإِنَّمَا تُوَفَّوْنَ أُجُورَكُمْ يَوْمَ الْقِيَامَةِ فَمَن زُحْزِحَ عَنِ النَّارِ وَأُدْخِلَ الْجَنَّةَ فَقَدْ فَازَ وَمَا الْحَيَاةُ الدُّنْيَا إِلَّا مَتَاعُ الْغُرُورِ ( 185 )
"แต่ละชีวิตนั้น จะได้ลิ้มรสแห่งความตาย และแท้จริงที่พวกเจ้าจะได้รับรางวัลของพวกเจ้าโดยครบถ้วนนั้น คือวันปรโลก แล้วผู้ใดที่ถูกให้ห่างไกลจากไฟนรก และถูกให้เข้าสวรรค์แล้วไซร้ แน่นอน เขาก็ชนะแล้ว และชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้นั้น มิใช่อะไรอื่นนอกจากสิ่งอำนวยประโยชน์แห่งการหลอกลวง เท่านั้น"
(สูเราะฮฺ อาล อิมรอน อายะห์ 185)
นี่คืออายะห์ที่มายืนยันบอกถึงอายุขัยของมนุษย์ ว่าพวกเขานั้นเมื่อถูกให้มีชีวิตขึ้นมา ชีวิตของเขาก็ต้องถูกให้จบสิ้นไปด้วยกับการตาย โดยไม่มีมนุษย์คนใดสามารถหลีกหนีได้ ดังนั้นการกำหนดของอัลลอฮฺ เมื่อพระองค์ได้กำหนดการตายของมนุษย์แต่ละคนไว้แล้ว เมื่อเวลานั้นมาถึงคนเราไม่สามารถที่จะประวิงเวลาได้แม้แต่วินาทีเดียว เราไม่อยากจะตายก็ไม่ได้ เมื่อกฎเกณฑ์แห่งความตายเป็นสิ่งที่หลีกหนีไม่ได้ ฉะนั้นเราสมควรที่จะเตรียมตัวของเรา ในการเผชิญหน้ากับความตาย การเตรียมตัวที่ดีที่สุดก็คือ การที่เราได้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ และประกอบการงานที่ดีตามที่พระองค์ได้มีคำสั่งใช้ และละทิ้งในสิ่งที่พระองค์ได้ห้ามไว้
ความสนุกสนาม สิ่งละเล่นในโลกใบนี้ ทรัพย์สินสมบัติ ลูกหลาน ทำให้เราลืมการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ว่าเรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร จนทำให้เราลืมความตายที่มันจ้องเราอยู่ตลอด เมื่อเราลืมความตายมันก็ทำให้เรานิ่งเฉยต่อการทำความดี เพราะเรามีความรู้สึกว่าความตายกับเรานั้นมันห่างไกลกันมาก ดังนั้นการรำลึกถึงความตายจะเป็นสิ่งผลักดันให้เราประกอบคุณงามความดี เมื่อเราอยู่กับการทำความดี ไม่มีการฝ่าฝืนต่ออัลลอฮ์ ทำให้จิตใจเราสงบ และไม่มีความวิตก กังวลกับการที่เราจะจากโลกนี้ไป เพราะการจากโลกนี้ไปนั้น เราก็ต้องไปใช้ชีวิตอีกโลกหนึ่ง หลังจากที่เราตายไป ทุกการกระทำที่เราได้กระทำไว้จะเริ่มได้รับการตอบแทน ดังนั้นผู้ศรัทธาเขาจะไม่กังวลกับความตาย เพราะเขาทำใจเตรียมพร้อมรอมันอยู่แล้ว และผู้ศรัทธาเขาจะหมั่นประกอบคุณงามความดีทุกอย่างที่ก่อเกิดประโยชน์แก่เขาหลังจากที่เขาได้เสียชีวิตไปแล้ว
คนแล้วคนเล่าที่เขาได้จากเราไป เป็นข้อคิดเตือนสติให้เราได้บ้างหรือเปล่า ดังนั้นการที่เมื่อมีการเสียชีวิต มีบทบัญญัติให้เราไปร่วมละหมาดให้แก่ผู้ที่เสียชีวิต ก็เพื่อเป็นข้อคิดให้ และยังส่งเสริมให้ติดตามไปส่งผู้ตายที่หลุมฝังศพเพื่อจะทำให้จิตใจของเราอ่อนโยน และได้หันเข้าหาการทำความดี และเพื่อจะทำให้เขาได้คิดถึงโลกหน้ามากขึ้น
อัลลอฮฺ ได้เปรียบเทียบการมีชีวิตในโลกใบนี้ไว้ในดำรัสของพระองค์ที่ว่า
اعْلَمُوا أَنَّمَا الْحَيَاةُ الدُّنْيَا لَعِبٌ وَلَهْوٌ وَزِينَةٌ وَتَفَاخُرٌ بَيْنَكُمْ وَتَكَاثُرٌ فِي الْأَمْوَالِ وَالْأَوْلَادِ كَمَثَلِ غَيْثٍ أَعْجَبَ الْكُفَّارَ نَبَاتُهُ ثُمَّ يَهِيجُ فَتَرَاهُ مُصْفَرًّا ثُمَّ يَكُونُ حُطَامًا وَفِي الْآخِرَةِ عَذَابٌ شَدِيدٌ وَمَغْفِرَةٌ مِّنَ اللَّهِ وَرِضْوَانٌ وَمَا الْحَيَاةُ الدُّنْيَا إِلَّا مَتَاعُ الْغُرُورِ ( 20 )
"พึงทราบเถิดว่า แท้จริงการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้มิใช่อื่นใด เว้นแต่เป็นการละเล่นและการสนุกสนานร่าเริงและเครื่องประดับและความโอ้อวดระหว่างพวกเจ้า และการแข่งขันกันสะสมในทรัพย์สินและลูกหลาน เปรียบเสมือนเช่น น้ำฝนที่การงอกเงยพืชผลยังความพอใจให้แก่กสิกรแล้วมันก็เหี่ยวแห้ง เจ้าจะเห็นมันเป็นสีเหลือง แล้วมันก็กลายเป็นเศษเป็นชิ้นแห้ง ส่วนในวันปรโลกนั้นมีการลงโทษอย่างสาหัส และมีการอภัยโทษ และความโปรดปรานจากอัลลอฮ และการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ มิใช่อื่นใดนอกจากการแสวงหาผลประโยชน์แห่งการหลอกลวงเท่านั้น"
(สูเราะฮฺ อัล-หะดีด อายะห์ที่ 20)
นี่คือความเป็นจริงของมนุษย์เราในการมีชีวิตบนโลกนี้ เปรียบเสมือนพืชผักที่ได้มีการรดน้ำดูแลอย่างดี จนความสวยงามความเขียวขจีของพืชผักมันทำให้เรามีความสุขความสบายใจ แต่ความสวยงามความเขียวขจีนั้นมันก็ไม่สามารถคงสภาพอยู่ได้ตลอด มันเหยี่ยวเฉากลายเป็นสีเหลือง และสุดท้ายมันก็กลายเป็นผุยผง เหมือนกับชีวิตมนุษย์เรา ที่วันจบสิ้นและโลกหน้ามีการตอบแทน สองอย่างเท่านั้นไม่สวรรค์ก็นรก ดังนั้นการประกอบคุณงามความดี ตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ และไม่ปฏิบัติในสิ่งที่พระองค์ได้ห้ามไว้มัน คือทางรอดของเรา และความปลอดภัยในโลกหน้า
ขออัลลอฮ์ ได้โปรดให้เราจบชีวิตในสภาพที่เราได้ศรัทธาต่อพระองค์ และขอให้เรามีบั้นปลายที่ดีก่อนที่เราจะจากโลกนี้ไป....อามีนญารอบบัลอาลามีน