อัลกุรอานคือพระดำรัสของอัลลอฮฺ
อับดุลอะซีซ บิน มัรซูก อัฏ-เฏาะรีฟีย์
อัลกุรอาน คือ พระดำรัสของอัลลอฮฺ พระองค์ได้ตรัสด้วยพระดำรัสนั้นออกมาจริงๆ เป็นพระดำรัสของพระองค์ทั้งตัวอักษร โองการ และสูเราะฮฺต่างๆ ทั้งหมดของอัลกุรอาน เราจะไม่กล่าวว่า “อัลกุรอานนั้นเป็นเพียงแค่ความหมาย หรือเป็นเพียงแค่การเล่าถึงความหมายดังกล่าว” แต่เราจะกล่าวว่า พระองค์อัลลอฮฺจะตรัสเมื่อใดก็ได้ที่พระองค์ทรงประสงค์จะตรัส
“และอัลลอฮฺได้ตรัสกับมูซาจริง”
(อัน-นิสาอ์ 164)
“และเมื่อมูซาได้มาตามกำหนดเวลาของเรา และพระเจ้าของเขาได้ตรัสแก่เขา”
(อัล-อะอฺรอฟ 143)
การตรัสของพระองค์ก็คือ พระดำรัสของพระองค์ ”และอัลลอฮฺนั้นทรงสัจจะ”
(อัลอะห์ซาบ 4)
และพระดำรัสอัลลอฮฺนั้นได้รับการท่องจำในหัวอกทั้งหลาย
“ทว่า มันเป็นโองการทั้งหลายอันชัดแจ้งที่อยู่ในหัวอกของบรรดาผู้ที่ได้รับความรู้”
(อัล-อันกะบูต 49)
และอัลกุรอานคือสิ่งที่สามารถสดับรับฟังผ่านหูได้
“ และหากว่ามีคนคนหนึ่งคนใดในหมู่มุชริกผู้ตั้งภาคีได้ขอให้เจ้าคุ้มครอง ก็จงคุ้มครองเขาเถิด เพื่อว่าพวกเขาจะได้ยินพระดำรัสของอัลลอฮฺ”
(อัต-เตาบะฮฺ 6)
ถึงแม้ว่าผู้ที่นำอัลกุรอานมาเผยแผ่คือท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กระนั้นมันก็จะไม่ทำให้อัลกุรอานเปลี่ยนสถานะออกจากการเป็นคำพูดของอัลลอฮฺได้ และอัลกุรอานนั้นถูกเขียนไว้เป็นบันทึก
อัลลอฮฺตรัสว่า
“ขอสาบานต่อคัมภีร์ที่ถูกบันทึก ในแผ่นจารึกที่กางแผ่ไว้”
(อัฏ-ฏูรฺ 2-3)
จารึกแห่งอัลกุรอานนี้อัลลอฮฺได้รักษาไว้ใน อัล-เลาห์ อัล-มะห์ฟูซฺ (กระดานที่บันทึก) ณ ที่พระองค์ พระองค์ได้ตรัสว่า
“ทว่า มันคืออัลกุรอานอันยิ่งใหญ่สูงส่ง อยู่ในกระดานที่ถูกเก็บไว้”
(อัล-บุรูจญ์ 21-22)
“แท้จริง อัลกุรอานนั้นอยู่ในแม่บทแห่งคัมภีร์ (อัล-เลาห์ อัล-มะห์ฟูซฺ) ณ ที่เรา มันสูงส่งพรั่งพร้อมด้วยวิทยปัญญา”
(อัซ-ซุครุฟ 4)
ถึงแม้อัลกุรอานจะถูกบันทึกในแผ่นจารึก ก็ไม่ได้ทำให้มันออกจากสถานะการเป็นพระดำรัสของอัลลอฮฺ ถึงแม้ว่ากระดาษและน้ำหมึกจะเป็นสิ่งถูกสร้างของพระองค์ก็ตาม อัลลอฮฺได้ตรัสว่า
“หากเราได้ลงมาให้แก่เจ้า ซึ่งคัมภีร์ฉบับหนึ่ง(ที่ถูกจารึกไว้)ในกระดาษ”
(อัล-อันอาม 7)
ในโองการนี้พระองค์ทรงจำแนกว่า “คัมภีร์” เป็นสิ่งหนึ่ง และ “กระดาษ” ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งต่างหาก พระองค์ทรงยืนยันอย่างชัดเจนว่า อัลกุรอานนั้นเป็นพระดำรัสของพระองค์ ถึงแม้ว่ามันจะถูกจดด้วยปากกาซึ่งเป็นสิ่งถูกสร้าง และด้วยน้ำหมึกซึ่งเป็นสิ่งถูกสร้างอีกเช่นเดียวกัน
“และหากว่าต้นไม้ทั้งหมดที่มีอยู่ในแผ่นดินเป็นปากกาหลายด้าม และมหาสมุทร(เป็นน้ำหมึก)มีสำรองไว้อีกเจ็ดมหาสมุทร คำพูดของอัลลอฮฺย่อมที่จะไม่หมดสิ้นไป(แต่น้ำหมึกและปากกานั้นจะหมดเสียก่อน)”
(ลุกมาน 27)
“จงกล่าวเถิด หากทะเลเป็นน้ำหมึกสำหรับบันทึกพจนารถของพระผู้เป็นเจ้าของฉัน แน่นอนทะเลจะเหือดแห้งก่อนที่คำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้าของฉันหมดสิ้นไป ถึงแม้ว่าเราจะนำมันมาเยี่ยงนั้นมาเป็นหมึกอีกก็ตาม”
(อัล-กะฮ์ฟฺ 109)
ดังนั้น ทั้งสิ่งที่ปากกาได้จดหรือสิ่งที่มันไม่ได้จด ทั้งหมดล้วนคือพระดำรัสของอัลลอฮฺทั้งสิ้น และใครได้กล่าวว่า “พระดำรัสของอัลลอฮฺคือสิ่งถูกสร้าง(มัคลูก)” นั่นก็แสดงว่าแท้จริงเขาได้เป็นกาฟิรฺแล้ว เนื่องจากพระดำรัสของพระองค์อัลลอฮฺนั้นเป็นส่วนหนึ่งจากคุณลักษณะของพระองค์ และพระองค์ก็ได้จำแนกระหว่างสิ่งถูกสร้างที่เป็นมัคลูกกับพระดำรัสของพระองค์ไว้อย่างชัดเจน พระองค์ตรัสว่า
“แท้จริง พระเจ้าของพวกเจ้าคืออัลลอฮฺ ผู้ทรงสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินในหกวัน แล้วทรงสถิตสูงส่งเหนือบัลลังก์อะรัช พระองค์ทรงให้กลางคืนไล่ตามกลางวันด้วยความรวดเร็ว และทรงสร้างดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และบรรดาดวงดาวขึ้น โดยถูกกำหนดให้ทำหน้าที่บริการตามพระบัญชาของพระองค์ พึงรู้เถิดว่า การสร้างและคำสั่งบัญชาทั้งหลายเป็นสิทธิของพระองค์เท่านั้น มหาบริสุทธิ์ยิ่งองค์อัลลอฮฺผู้เป็นเจ้าแห่งสากลโลก”
(อัล-อะอฺรอฟ 45)
ในโองการนี้ อัลลอฮฺได้จำแนกระหว่างสิ่งที่ถูกสร้างของพระองค์ คือชั้นฟ้าทั้งหลาย แผ่นดิน ดวงอาทิตย์ ดวงดาวต่างๆ และระหว่างคำสั่งของพระองค์ นั่นคือ พระดำรัสของพระองค์ผู้มหาบริสุทธิ์ยิ่ง ซึ่งพระองค์ได้ให้สรรพสิ่งต่างๆ มีขึ้นด้วยคำสั่งนั้น “โดยถูกกำหนดให้ทำหน้าที่บริการตามพระบัญชาของพระองค์”
อัลลอฮฺได้สร้างเสียงของบรรดานักอ่าน ด้วยการสร้างริมฝีปากทั้งสอง ลิ้น ลำคอ ลม เพดานลิ้น และการเคลื่อนไหวของอวัยวะเหล่านี้ แต่มิอาจจะปฏิเสธได้ว่าสิ่งที่ได้ยินคือคำพูดของอัลลอฮฺ พระองค์ตรัสว่า
“ทั้งๆ ที่คนกลุ่มหนึ่งจากพวกเขา เคยสดับรับฟังพระดำรัสของอัลลอฮฺ”
(อัล-บะเกาะเราะฮ 75)
สิ่งที่ได้ยินคือคำพูดของอัลลอฮฺ ถึงแม้คนที่ออกสำเนียงมาคือผู้ที่อ่าน เหมือนที่นักวิชาการบางท่านได้กล่าวไว้ว่า “เสียงนั้นคือเสียงกอรี ผู้ที่อ่าน แต่คำพูดคือ คำพูดของอัลลอฮฺ ผู้มีนามว่า อัล-บารีย์”
แปลโดย : ทีมงานภาษาไทยเว็บอิสลามเฮ้าส์ / Islamhouse