การปะปนกันของหญิงชาย
  จำนวนคนเข้าชม  7455

 

การปะปนกันของหญิงชาย

 


โดย ศอและฮฺ อิบนุ เฟาซาน อัลเฟาซาน 

 

          การสรรเสริญเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ และการสดุดีตลอดจนความสันติจงมีแด่ ร่อซู้ลของอัลลลอฮฺ นบีของพวกเรา ท่านมุฮัมหมัด ตลอดจนแด่วงศ์วานและบรรดาสหายของท่านและแด่ผู้ที่รักและผู้ที่ปฏิบัติตามท่าน

 

          แน่นอนว่า อัลลอฮ์ ทรงให้เกียรติแก่สตรี และทรงวางบทบัญญัติอันเป็นกฏเกณฑ์ ซึ่งล้วนมีความเหมาะสมกับนาง และเป็นการพิทักษ์เกียรติยศไว้สำหรับนางด้วย ซึ่งส่วนหนึ่งจากบทบัญญัติดังกล่าวนี้ได้แก่ การที่พระองค์ได้ทรงกำหนดบทบัญญัติเรื่อง อัลฮิญาบที่มีความมิดชิดเอาไว้แก่นาง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการหักห้ามภยันตรายของพวกมุนาฟิกและพวกที่ภายในหัวใจของพวกเขามีโรคอยู่ ให้พ้นไปจากนางเสีย พระองค์ พระผู้ทรงสูงส่ง ได้ตรัสไว้ (ความ) ว่า 

 

" นบี เจ้าจงพูดกับบรรดาภรรยาของเจ้า บรรดาลูกสาวของเจ้า และเหล่าสตรีของบรรดาผู้ศรัทธา

พวกนางก็จะทำการดึงบรรดาชุดคลุมของพวกนางลงมาปิดคลุมพวกนาง

นั่นเป็นการใกล้เคียงกว่ากับการที่นางจะได้เป็นที่รู้จัก แล้วพวกนางจักได้ไม่ถูกทำร้าย " 

 

          หมายถึง พวกนางจะได้เป็นที่รู้จักกันถึงความมีเกียรติ และความรักนวลสงวนตัว เพื่อที่คนที่ในหัวใจของเขามีโรคแห่งอารมณ์อยู่จะได้ไม่มามีความละโมบในพวกนาง ขณะเดียวกันพระองค์ก็ได้ทรงอนุมัติให้นางได้ทำการประกอบอาชีพเพื่อหารายได้ที่ดี โดยต้องควบคู่กันกับการที่นางจะต้องมีความเคร่งครัดในเรื่องของ อัลฮิญาบ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการออกห่างจากการเข้าไปสู่การปะปนกับผู้ชาย ซึ่งจะก่อให้เกิดฟิตนะฮฺขึ้น  ซึ่งสตรีของบรรดามุสลิมก็ยังคงยึดมั่นในวิถีแห่งพระผู้เป็นเจ้าที่คอยปกป้องพวกนางให้ห่างไกลจากการสร้างความเดือดร้อน หรือการได้รับการก่อกวนและสร้างความเดือดร้อนต่อนางเอง

 

          แต่ในปัจจุบันกระแสการโต้แย้งเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ เหล่านี้กลับโหมกระพือขึ้นมา โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้สตรีปลดแอกตนเองให้หลุดพ้นจากสิ่งที่อัลลอฮฺได้ทรงกำหนดไว้สำหรับนางเพื่อที่นางจะได้ดำเนินตามวิถีแห่งสตรีตะวันตกที่พวกเธอต้องกลายมาเป็นผู้หญิงที่เหน็ดเหนื่อยและรันทด ทั้งนี้ เนื่องมาจากการที่พวกเธอละทิ้งสิ่งที่จะคอยปกป้องและพิทักษ์ไว้ซึ่งเกียรติยศของพวกเธอไปนั่นเอง 

 

          พวกกลุ่มคนที่เข้ามา(มีความคิด)ในการโต้แย้งและสร้างการหลอกลวงเกี่ยวกับประเด็นนี้ พวกเขาต้องการที่จะให้สตรีละทิ้งอัลฮิญาบและยังต้องการให้นางเข้าไปปะปนอยู่กับพวกผู้ชายในห้องเรียน ในการทำงานตามตำแหน่งหน้าที่ที่มีการปะปนกันเกิดขึ้น ในการพบปะ ในการเข้าไปสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ ให้พวกนางมายืนอยู่ในแถวเดียวกันกับผู้ชายในการให้การต้อนรับหรือในวาระอื่นๆ โดยพวกนางอยู่ในสภาพที่เปิดเผยอวดโฉม ให้พวกนางมานั่งมายืนอยู่ข้างๆ กับผู้ชาย ให้พวกนางจับมือกับผู้ชาย อยู่ปะบนกับผู้ชายตามรายการต่างๆ ที่ไร้สาระ มีการเผยแพร่ตามสื่อ โดยเหมือนกับว่าพวกนางนั้นกำลังนั่งอยู่กับคนที่เป็นมะฮฺรอมกับนาง ตามหน้าจอและตามเวทีเพื่อทำการถ่ายทอดรายการ

 

          เมื่อมีผู้รู้ออกมาทำการคัดค้านพฤติกรรมดังกล่าวและเรียกร้องให้ทำการระงับพฤติกรรมนี้เสีย สื่อบางคนก็เข้ามาจู่โจมพวกท่านเหล่านั้นด้วยวาจาที่แข็งกร้าวโดยไม่ได้มีความใยดีแต่ประการใด ต่อสิ่งที่บรรดาผู้รู้ได้นำเสนอไว้ ทั้งหลักฐานจากคัมภีร์และจากอั้ซซุนนะฮฺเพื่อเป็นการยืนยันต่อสิ่งที่พวกท่านได้กล่าวไว้ มิหนำซ้ำ คนพวกนั้นกลับไม่ยอมนำคำพูดดังกล่าวของบรรดาผู้รู้ไปเผยแพร่ ทั้งนี้ เพื่อกีดกันไม่ให้คำพูดเหล่านี้ได้เข้าถึงผู้คน และพวกเขายังได้ทำการปิดบังความจริงกัน ทั้งๆ ที่พวกเขาก็รู้กันอยู่ 

 

          พวกเขาพยายามกระจายข้อสงสัยที่พวกเขาคิดกันว่า มันสามารถสนับสนุนความคิดของพวกเขาเกี่ยวกับประเด็นการเผยโฉมอวดความงามและประเด็นการอยู่ร่วมกันอย่างปะบน เช่น คำกล่าวของพวกเขาที่ว่า มันไม่มีหลักฐานอะไรที่ยืนยันการห้ามไม่ให้มีการปะปนกัน และบรรดาผู้รู้และนักวิชาการก็ไม่ได้เคยพูดเกี่ยวกับประเด็นนี้ไว้เลย และคำพูดของพวกเขาที่ว่า การปะปนกันก็มีขึ้นในมัสยิดอั้ลฮะรอม ในการต่อว้าฟและการซะแอนี่ และคำพูดของพวกเขาที่ว่า บรรดาสตรีก็ยังคงออกมาประกอบอาชีพกันร่วมกับพวกผู้ชายตามตลาด มาซื้อ มาขายกัน และตามสวน ตามฟาร์มต่างๆ หรืออื่นๆ นอกเหนือไปจากนี้ที่เป็นประเด็นสร้างความสงสัยและข้อเคลือบแคลง ซ้ำพวกเขายังไม่ยอมเปิดโอกาสให้มีการเผยแพร่คำชี้แจงต่อประเด็นที่สร้างความเคลือบแคลงดังกล่าวอีกด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นการเปิดพื้นที่ให้พวกเขาสามารถหลบหนีจากการชี้แจงข้อเท็จจริง ที่พวกเขาไม่มีอะไรจะมาใช้ในการต่อกรกับมันได้นั่นเอง

 

คำตอบในประเด็นที่สร้างความเคลือบแคลงดังกล่าวนี้โดยสรุปและโดยภาพรวมมีด้วยกันดังนี้

 

หนึ่ง 

 

          คำพูดของพวกเขาที่ว่า มันไม่มีหลักฐานใดๆ ที่ยืนยันการห้ามมิให้มีการปะปนกันระหว่างบุรุษกับสตรีนั้น ตอบว่า จริงๆ แล้วหลักฐานที่ยืนยันเกี่ยวกับประเด็นนี้มีเยอะมาก มีอยู่เต็มคัมภีร์และในอัซซุนนะฮฺเลยทีเดียว ซึ่งบรรดานักวิชาการ ขออัลลอฮฺทรงตอบแทนความดีแก่พวกท่านด้วย ได้ทำการเผยแพร่หลักฐานดังกล่าวนี้ไว้ตามหนังสือที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวในประเด็นนี้และตามเว็ปไซต์ ดังนั้น บางทีเรื่องที่ดูเหมือนจะเป็นพิษเป็นภัยก็อาจกลับกลายมาเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มีคุณค่าก็เป็นได้ เพราะหลักฐานดังกล่าวมีปรากฏอยู่ต่างที่กันตามตำรับตำราและคำพูดของนักวิชาการซึ่งไม่ได้มีการนำมารวบรวมเอาไว้ในแหล่งเดียวกัน แต่แล้วอัลลอฮฺก็ได้ทรงอำนวยให้มีการรวมรวมหลักฐานดังกล่าวนี้ขึ้น และยังมีการจัดระเบียบเรียบเรียงและเผยแพร่ให้เป็นที่ประจักษ์กันอีกด้วย 
 

" เพื่อบุคคลที่พินาศจะได้พินาศลงจากหลักฐานอันชัดเจน และผู้ที่ยังคงมีชีวิตอยู่จะได้มีชีวิตอยู่จากหลักฐานอันชัดเจน "


 

สอง 

          ส่วนการอ้างอิงสนับสนุนของพวกเขาด้วยกับการปะปนกันที่เกิดขึ้นในมัสยิด อัลฮะรอม และในการตอว้าฟและซะแอนั้น ตอบว่า ข้อมูลดังกล่าวนั้นไม่ถูกต้อง เพราะบรรดาสตรีที่เข้ามาละหมาดในมัสยิด อั้ลฮะรอมนั้น อยู่ในพื้นที่ๆ จัดสรรไว้ให้เฉพาะสำหรับพวกนางดังที่เป็นที่ประจักษ์กัน ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นในการต่อว้าฟและซะแอนั้น ถือเป็นการปะปนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากความหนาแน่น (ของผู้คน –ผู้แปล-) ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยสุดวิสัย แต่ถึงกระนั้นก็ยังถือเป็นเรื่องจำเป็นที่คนที่เป็นผู้ชายจะต้องพยายามออกห่างไม่เข้าไปเบียดเสียดกับบรรดาสตรี เท่าที่พวกเขาสามารถ


สาม 

          ส่วนที่บอกว่า บรรดาสตรีนั้นต่างก็ยังคงออกมาประกอบอาชีพทำมาหากินกันร่วมกับพวกผู้ชาย ออกมาซื้อขายแลกเปลี่ยนกันตามตลาด และออกมาทำงานกันตามสวนตามฟาร์มนั้น ตอบว่า ที่จริงแล้วบรรดาสตรีที่ออกมาประกอบอาชีพในสาขาต่างๆ เหล่านี้นั้น ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกผู้ชายแต่ประการใด (เช่น –ผู้แปล-) ในตลาดก็มีการจัดสรรพื้นที่เฉพาะไว้ให้พวกเธอได้ซื้อได้ขายโดยไม่ต้องเกี่ยวข้องกับพวกผู้ชาย ส่วนในสวนและในฟาร์มบรรดาสตรีก็ทำงานกับสตรีด้วยกัน ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับพวกผู้ชาย ซึ่งในระหว่างพนักงานที่ทำงานด้วยกันนั้น ก็จะมีพื้นที่ๆ จัดสรรให้ทั้งสองเพศอยู่ห่างจากกัน

 

 

         สุดท้ายนี้ ผมขอให้อัลลอฮฺ ตะอาลา โปรดทรงทำให้บรรดามุสลิมได้มองเห็นศาสนาของพวกเขา และขอให้พระองค์ทรงทำให้ผู้ประพฤติผิดในหมู่พวกเขาหวนกลับสู่ความถูกต้อง และขอให้พระองค์ทรงทำให้ผู้ที่ประพฤติถูกต้องอยู่แล้วมีความมั่นคงอยู่บนความถูกต้องของเขาสืบไป และขอพระองค์โปรดทรงเพิ่มพูนความรู้และความเข้าใจให้แก่เขาด้วยเถิด วะศ็อลลัลลอฮุวะซั้ลละมะอะลานะบียินามุฮัมหมัดวะอาลิฮีวะเศาะฮฺบิฮี


 

 


แปลและเรียบเรียงโดย อาบีดีณ โยธาสมุทร
 

http://www.alfawzan.af.org.sa/node/13124