บิดอะฮ์ บาปที่ถูกตำหนิ
  จำนวนคนเข้าชม  4825

 

บิดอะฮ์ บาปที่ถูกตำหนิ

 

เรียบเรียงโดย  อ.อับดุลบารีย์  นาปาเลน

 

       ท่านนบี  ได้ตำหนิผู้ทำบิดอะหฺมากกว่าผู้ทำบาปทั่วไป เช่นในฮาดิษที่มีสามคนจากบรรดาศอฮาบะหฺ ที่พวกเขาจะเริ่มออกจากซุนนะหฺของท่านนบี  โดยพวกตั้งใจจะไม่หลับนอนในเวลากลางคืน อีกคนจะไม่แสวงหาภรรยา และอีกคนไม่ยอมรับประทานอาหารโดยจะถือศิลอดตลอด เมื่อท่านนบี  ทราบเรื่องดังกล่าว ท่านจึงกล่าวว่า


لَكِنِّي أُصَلِّي وَأَنَامُ وَأَصُومُ وَأُفْطِرُ وَأَتَزَوَّجُ النِّسَاءَ، فَمَنْ رَغِبَ عَنْ سُنَّتِي فَلَيْسَ مِنِّي»
 

"แต่ทว่าฉันละหมาดและฉันก็นอน ฉันถือศีลอดแล้วก็ฉันก็ละศีลอด และฉันก็แต่งงานกับสตรี

ดังนั้น ผู้ใดที่ปราถนาอื่นจากแนวทางของฉัน เขาก็ไม่ใช่พวกของฉัน” 
 

(รายงานโดยบุคอรีย์ / 2487)
 

       คือ ท่านนบี  ปฏิเสธการเป็นพวกด้วย หรือในบิดอะหฺของพวกคอวาริจ ที่ท่านนบี  ตั้งใจที่จะฆ่าพวกเขา หากว่าท่านได้พบเจอพวกเขา ซึ่งมีหลายสายรายงานด้วยกัน ในฮาดิษซอเฮียะห์บุคอรีย์ ที่รายงานว่า



فَقَالَ: اتَّقِ اللَّهَ يَا مُحَمَّدُ، فَقَالَ: «مَنْ يُطِعِ اللَّهَ إِذَا عَصَيْتُ؟ أَيَأْمَنُنِي اللَّهُ عَلَى أَهْلِ الأَرْضِ فَلاَ تَأْمَنُونِي» فَسَأَلَهُ رَجُلٌ قَتْلَهُ، - أَحْسِبُهُ خَالِدَ بْنَ الوَلِيدِ - فَمَنَعَهُ، فَلَمَّا وَلَّى قَالَ: " إِنَّ مِنْ ضِئْضِئِ هَذَا، أَوْ: فِي عَقِبِ هَذَا قَوْمًا يَقْرَءُونَ القُرْآنَ لاَ يُجَاوِزُ حَنَاجِرَهُمْ، يَمْرُقُونَ مِنَ الدِّينِ مُرُوقَ السَّهْمِ مِنَ الرَّمِيَّةِ، يَقْتُلُونَ أَهْلَ الإِسْلاَمِ وَيَدَعُونَ أَهْلَ الأَوْثَانِ، لَئِنْ أَنَا أَدْرَكْتُهُمْ لَأَقْتُلَنَّهُمْ قَتْلَ عَادٍ "

 

     ในขณะที่ท่านนบี  กำลังแจกทรัพย์เชลยอยู่ ได้มีผู้ชายคนหนึ่งกลับไม่พอใจ จึงกล่าวขึ้นว่า “จงยำเกรงอัลลอฮฺ โอ้มูฮัมมัด" 
 

     ท่านนบี  ได้กล่าวว่า “จะมีใครเชื่อฟังต่ออัลลอฮฺ อีก หากฉันได้ฝ่าฝืนพระองค์ พระองค์ได้ให้ความไว้วางใจต่อฉันในแผ่นดินนี้ แล้วพวกท่านไม่ไว้วางใจต่อฉันหรือ“ 
 

และมีคนได้ขออนุญาตสังหารผู้ชายนั้น และฉัน(นักรายงาน)คิดว่า ผู้ที่ขออนุญาตคือ ท่านคอลิด บินวลีด แล้วท่านนบี  ก็ห้ามเขาไว้ เมื่อเขาผู้นั้นกลับไป 

ท่านนบี  กล่าวว่า

       "จะออกมาจากไขสันหลังผู้นี้ หรือ เป็นผู้สืบทอดของผู้นี้ ซึ่งกลุ่มชนหนึ่ง พวกเขาจะอ่านอัลกุรอาน แต่การอ่านนั้นไม่ได้ผ่านลูกกระเดือกของพวกเขา (คืออ่านแต่ไม่เข้าใจ) พวกเขาจะพุ่งออกจากศาสนา เสมือนกับลูกศรที่ได้พุ่งออกจากคันธนู (มีผู้รู้บางท่านเห็นว่า พวกคอวาริจได้ตกเป็นกาเฟร) พวกเขาจะมาเข่นฆ่าชาวมุสลิม และละทิ้งผู้ตั้งภาคี (คือละทิ้งการสู้รบกับพวกมุชริก) หากฉันมีโอกาสอยู่ทันพวกเขา ฉันจะสังหารพวกเขาเหมือนการสังหารอ้าด(โดยเปรียบพวกเขาเหมือนพวกอ้าด)” 

(รายงานโดยบุคอรีย์ / ๓๓๔๔)

มีอีกฮาดิษที่ท่านนบี  ได้ส่งเสริมให้ผู้ศรัทธาสังหารพวกเขา(คอวาริจ)


«سَيَخْرُجُ قَوْمٌ فِي آخِرِ الزَّمَانِ، أَحْدَاثُ الأَسْنَانِ، سُفَهَاءُ الأَحْلاَمِ، يَقُولُونَ مِنْ خَيْرِ قَوْلِ البَرِيَّةِ، لاَ يُجَاوِزُ إِيمَانُهُمْ حَنَاجِرَهُمْ، يَمْرُقُونَ مِنَ الدِّينِ، كَمَا يَمْرُقُ السَّهْمُ مِنَ الرَّمِيَّةِ، فَأَيْنَمَا لَقِيتُمُوهُمْ فَاقْتُلُوهُمْ، فَإِنَّ فِي قَتْلِهِمْ أَجْرًا لِمَنْ قَتَلَهُمْ يَوْمَ القِيَامَةِ»

      “ ในยุคสุดท้าย จะมีกลุ่มหนึ่งปรากฏออกมา เป็นบรรดาผู้อายุน้อย เป็นกลุ่มที่มีความเพ้อฝัน จะกล่าวจากคำพูดของอัลลอฮฺ แต่อีหม่านพวกเขาไม่ได้เข้าไปในหัวใจ พวกเขาจะพุ่งออกจากศาสนา เสมือนกับลูกศรที่ได้พุ่งออกจากคันธนู ดั้งนั้น หากพวกเจ้าทั้งหลายได้พบเห็นพวกเขา ก็จงสังหารพวกเขาเสีย เพราะการสังหารพวกเขาจะได้รับผลบุญมหาศาลในวันกียามะหฺ “ 

(รายงานโดยบุคอรีย์ /๖๙๓๐)

       ทั้งหมดนี้ ถือเป็นสำนวนจากตัวบทหลักฐานที่ได้ตำหนิแรงต่อพวกบิดอะหฺ ส่วนผู้ทำบาป(มะอฺซียะหฺ)ทั่วไป ท่านนบี  ไม่ได้กล่าวตำหนิแรงแบบนี้ ดั่งเช่น ผู้ดื่มสุรา ที่ท่านนบีสั่งให้ลงโทษเขา จนมีศอฮาบะหฺผู้หนึ่งได้สาปแช่งเขา จากการที่เขาผู้นั้นชอบดื่มสุรา ท่านนบี  จึงห้ามศอฮาบะหฺผู้นั้น ท่านได้กล่าวว่า


«لاَ تَلْعَنُوهُ، فَوَاللَّهِ مَا عَلِمْتُ إِنَّهُ يُحِبُّ اللَّهَ وَرَسُولَهُ»

“พวกท่านจงอย่าสาปแช่งเขา และฉันขอสาบานต่ออัลลอฮฺ ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาผู้นี้ นอกเสียจาก ฉันรู้ว่าเขานั้นมีความรักต่ออัลลอฮฺ และรอซูลของพระองค์ “ 

(รายงานโดย บุคอรีย์ / ๖๗๘๐)

       และอีกเหตุการณ์ ที่ท่านนบี  ได้ลงโทษต่อสตรี ที่ได้มาสารภาพผิดต่อท่านนบี  และขอให้ท่านนบี  ได้ลงโทษหรือทำการลบบาปให้แก่นาง จนสุดท้ายท่านนบี  ได้กล่าวเกียวกับนางว่า


«لَقَدْ تَابَتْ تَوْبَةً لَوْ قُسِمَتْ بَيْنَ سَبْعِينَ مِنْ أَهْلِ الْمَدِينَةِ لَوَسِعَتْهُمْ " 

       “ นางคนนี้ได้ทำการสารภาพผิด โดยที่การสารภาพผิดนี้ แน่นอน หากได้เอามันไปแจกจ่ายให้แก่ชาวมาดีนะหฺราวหกสิบคนก็คงพอให้แก่พวกเขา(คือเป็นการสารภาพผิดที่ จะได้รับความเมตตาเป็นอย่างมาก) “

 

 (รายงานโดยมุสลิม อบูดาวูด และติรมีซีย์ และอื่นๆ)

ดังกล่าวนี้ บ่งบอกว่า การกระทำบิดอะหฺ อันตรายมากยิ่งกว่าการกระทำบาปอื่นๆ