ชนิดต่าง ๆ ของความรัก และกฎเกณฑ์ต่าง ๆ
  จำนวนคนเข้าชม  8762

 

ชนิดต่าง ๆ ของความรัก และกฎเกณฑ์ต่าง ๆ

 

แปลโดย  อบูชีส

 

 

        พวกเราเป็นกลุ่มหนึ่งจากมุสลิมที่ได้ถกกัน และพยายามจะเข้าถึงคำนิยามของคำว่า "ความรักในอิสลาม” แม้ว่าเราทั้งหมดจะรู้ดีถึงความจำเป็นต่อการรักอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา และความมุ่งมั่นของเราด้วยกับความรักในพระองค์ และบรรดานบีของพระองค์ และศาสนทูตของพระองค์ทั้งหมด ดังนั้นเราจึงได้ซักถามกันถึงสิ่งที่เป็นกรอบที่ชัดเจนของความรักที่มีต่อมนุษย์ด้วยกัน (เช่น ความรักในความเป็นพี่น้อง ) 
 

 

         บางคนบอกว่า ความรักนั้น จะต้องรักอยู่ในกรอบของครอบครัว อื่นจากนั้นไม่ใช่ความรัก แต่เป็นการให้เกรียติและความเชื่อใจเท่านั้น บางคนก็จะถามขึ้นมาอีกว่า ความรักนั้นจำกัดเฉพาะสามีกับลูกๆเท่านั้นหรือ? บางคนก็ถามว่า ความรักนั้นจะต้องมีเงือนไขด้วยหรือ? บางคนก็กล่าวว่า แท้จริง ความรักนั้น(ที่ให้คำนิยามที่แพร่หลาย) คือสิ่งที่เป็นการอุตริกรรม และเขาก็ได้เล่านิยายปรัมปราและคำนิยามของชาวคริสเตียนให้ฟัง และจากพวกเราก็ไม่มีใครที่จะให้คำตอบที่ชัดเจนได้ และเราก็ยังไม่สามารถค้นหาคำตอบนั้นได้ หวังว่าท่านจะช่วยเหลือเรา


 

คำตอบ

 

        แท้จริงแล้วความรักเป็นเรื่องที่น่ายินดีเหลือเกินในสิ่งที่เธอได้ให้กับพี่น้องของเธอ นั้นคือการศึกษาในเรื่องราวของอีหม่าน และอิสลาม และในเรื่องที่กำลังถกกันถึงเรื่องราวแห่งความรัก แน่นอนว่าพวกท่านกำลังได้พูดถึงเรื่องที่สำคัญที่นักวิชาการก็ได้มีการพูดถึงกัน และเป็นความสำคัญมากในการที่เราจะต้องกลับไปหานักวิชาการเหล่านั้นในความเข้าใจศาสนา และเราจะถ่ายทอดบางประการจากทัศนะต่างๆ ของพวกเขาในประเภทต่างๆ ของความรัก และชนิดต่างๆ จนกว่าประเด็นนี้จะเป็นที่กระจ่าง ด้วยพระประสงค์ของอัลลอฮ์

ประเภทต่างของความรักและกฎเกฎฑ์ต่างๆ

        ความรักแบ่งได้เป็น ความรักที่เป็นการเฉพาะ และความรักทั่วไป และความรักที่เจาะจงนั้น แบ่งออกเป็น ความรักตามบทบัญญัติ และความรักต้องห้าม


ประการแรก ความรักต่ออัลลอฮ์ 

        คือ เป็นความรักที่จำเป็นจะต้องรัก เพราะความรักต่ออัลลอฮ์นั้น คือรากฐานของศาสนาอิสลาม ดังนั้น ด้วยกับความสมบูรณ์ของความรัก ความศรัทธาก็จะสมบูรณ์ด้วย และด้วยกับความบกพร่องในความรักต่ออัลลอฮ์ การให้เอกภาพก็บกพร่องด้วย หลักฐานที่ว่า


(وَالَّذِينَ آمَنُوا أَشَدُّ حُبًّا لِلَّهِ )البقرة 165
 

"แต่บรรดาผู้ศรัทธานั้นเป็นผู้ที่รักอัลลอฮ์มากยิ่งกว่า"

พระองค์ทรงตรัสไว้อีกว่า

        “จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า หากบรรดาบิดาของพวกเจ้า และบรรดาลูก ๆ ของพวกเจ้า และบรรดาพี่น้องของพวกเจ้า และบรรดาคู่ครองของพวกเจ้า และบรรดาญาติของพวกเจ้า และบรรดาทรัพย์สมบัติที่พวกเจ้าแสวงหาไว้ และสินค้าที่พวกเจ้ากลัวว่าจะจำหน่ายมันไม่ออก และบรรดาที่อยู่อาศัยที่พวกเจ้าพึงพอใจมันนั้น เป็นที่รักใคร่แก่พวกเจ้ายิ่งกว่าอัลลอฮฺ และร่อซูลของพระองค์ และการต่อสู้ในทางของพระองค์แล้วไซร้ ก็จงรอคอยกันเถิดจนกว่าอัลลอฮฺจะทรงนำมาซึ่งกำลัง ของพระองค์ และอัลลอฮฺนั้นจะไม่ทรงนำทางแก่กลุ่มชนที่ละเมิด"

(อัตเตาบะฮ์ 24)


ประการที่สอง ความรักต่อร่อซูล 

        เช่นเดียวกัน ความรักประเภทนี้เป็นความจำเป็นจากศาสนา ทว่าความสมบูรณ์ของอีหม่านจะไม่เกิดขึ้นจนกระทั่งคนๆหนึ่งจะรักร่อซูล มากกว่าตัวของเขาเอง ดังที่ ท่านนบี กล่าวว่า


: لا يُؤْمِنُ أَحَدُكُمْ حَتَّى أَكُونَ أَحَبَّ إِلَيْهِ مِنْ وَلَدِهِ وَوَالِدِهِ وَالنَّاسِ أَجْمَعِينَ . " رواه مسلم رقم 44

"คนใดในหมู่พวกท่านอีหม่านของเขายังจะไม่สมบูรณ์ จนกว่า ฉันจะเป็นที่รักยิ่งสำหรับเขา มากกว่า ลูกของเขา บิดาของเขา และมากกว่ามนุษย์ทั้งหมด"


وحديث عبد الله بن هشام قَالَ : كُنَّا مَعَ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهم عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَهُوَ آخِذٌ بِيَدِ عُمَرَ بْنِ الْخَطَّابِ فَقَالَ لَهُ عُمَرُ يَا رَسُولَ اللَّهِ لأَنْتَ أَحَبُّ إِلَيَّ مِنْ كُلِّ شَيْءٍ إِلاّ مِنْ نَفْسِي فَقَالَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهم عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لا وَالَّذِي نَفْسِي بِيَدِهِ حَتَّى أَكُونَ أَحَبَّ إِلَيْكَ مِنْ نَفْسِكَ فَقَالَ لَهُ عُمَرُ فَإِنَّهُ الآنَ وَاللَّهِ لأَنْتَ أَحَبُّ إِلَيَّ مِنْ نَفْسِي فَقَالَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهم عَلَيْهِ وَسَلَّمَ الآنَ يَا عُمَرُ . " رواه البخاري فتح رقم 6632

        ฮะดิษของอับดุลลอฮ์ บุตรของ ฮิชาม กล่าวว่า เราอยู่กับท่านร่อซูล และท่านได้จับมือกับท่านอุมัร บุตร ของ ค็อตต็อบ 

 

     ท่านอุมัร จึงกล่าวขึ้นมาว่า "โอ้ร่อซูลของอัลลอฮ์ ท่านเป็นผู้ที่ฉันรักมากกว่าทุกสิ่ง นอกจากตัวฉัน"

     ท่านนบี จึงกล่าวว่า "ไม่ใช่เช่นนั้น ขอสาบานต่อผู้ซึ่งชีวิตของฉันอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ จนกว่าฉันจะเป็นที่รักมากกว่าตัวของท่าน"

     ท่านอุมัรจึงกล่าวว่า "แน่นอนบัดนี้ ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า ท่านจะเป็นที่รักยิ่งสำหรับฉันมากกว่าตัวของฉันเอง"

     ท่านนบี "ตั้งแต่บัดนี้ โอ้อุมัรเอ๋ย"

        ความรักประเภทนี้จะตามหลังความรักต่ออัลลอฮ์ และการแสดงออกจากความรักนี้คือ ปฏิบัติตามท่านนบี  และคำพูดของท่านนบี  จะต้องอยู่เหนือคำพูดคนอื่นทั้งหมด


ประการที่สาม ความรักต่อบรรดานบีทั้งหลาย และเหล่าผู้ศรัทธา 

        กฎข้อนี้คือ นับว่าเป็นความจำเป็น(วาญิบ) เพราะว่าความรักต่ออัลลอฮ์ จำเป็นที่จะต้องรักผู้ที่เชื่อฟังพระองค์เช่นกัน และพวกเขาก็คือ บรรดานบี และบรรดาคนดีทั้งหลาย หลักฐานจากคำพูดของท่านนบี  ที่ว่า


    " من أحب في الله "      "ผู้ที่รักกันเพื่ออัลลอฮ์"
 

        หมายถึงรักผู้ที่มีอีหม่านต่ออัลลอฮ์และเชื่อฟังพระองค์ และด้วยกับดังกล่าวนั้น อีหม่านจะไม่สมบูรณ์หากปราศจากความรักนั้น ถึงแม้ว่าคนๆ หนึ่งจะทำการละหมาดและการถือศีลอดอย่างมากมาย


كما قال عمر بن الخطاب رضي الله عنه : لقد رأيتنا في عهد رسول الله وما منا أحد يرى أنه أحق بديناره ودرهمه من أخيه المسلم

ดังเช่นที่ท่านอุมัร บุตรของ ค็อตตอบ ได้กล่าวว่า 

"ฉันได้เห็นว่าพวกเราในสมัยของท่านร่อซูล ไม่มีใครคนใดจากพวกเราจะเห็นว่า ผู้คนร่ำรวยจะมีสิทธิมากกว่าพี่น้องมุสลิมด้วยกันเอง"


ความรักที่ต้องห้าม

 

        ส่วนหนึ่งของ ความรักที่เป็นการตั้งภาคี คือ การที่ท่านรักอื่นจากอัลลอฮ์ เท่าเทียมกับความรักที่มีต่ออัลลอฮ์ และการที่เขายึดสิ่งเหล่านั้นเป็นหุ้นส่วนกับอัลลอฮ์  คือการตั้งภาคีในด้านความรัก และส่วนใหญ่จากมนุษย์ พวกเขาจะยึดเอาสิ่งอื่นมาเป็นหุ้นส่วนในเรื่องของความรักและเทิดทูน(เท่าเทียมกับอัลลอฮ์)

        ความรักต้องห้ามที่ยังไม่ถึงระดับการตั้งภาคี คือ การที่เขานั้นรัก ครอบครัวของเขา ทรัพย์สิน เครือญาติ การค้า บ้านเรือนของเขา และนำเอามันหรือบางส่วนจากมัน มีผลเหนือกว่าการปฏิบัติจากสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงสั่งใช้จากการงานต่างๆ เช่น การอพยพ หรือ การออกสงครามเพื่ออัลลอฮ์ และอื่นๆ ด้วยกับหลักฐานที่ว่า


قُلْ إِن كَانَ آبَاؤُكُمْ وَأَبْنَآؤُكُمْ وَإِخْوَانُكُمْ وَأَزْوَاجُكُمْ وَعَشِيرَتُكُمْ وَأَمْوَالٌ اقْتَرَفْتُمُوهَا وَتِجَارَةٌ تَخْشَوْنَ كَسَادَهَا وَمَسَاكِنُ تَرْضَوْنَهَا أَحَبَّ إِلَيْكُم مِّنَ اللّهِ وَرَسُولِهِ وَجِهَادٍ فِي سَبِيلِهِ فَتَرَبَّصُواْ حَتَّى يَأْتِيَ اللّهُ بِأَمْرِهِ وَاللّهُ لاَ يَهْدِي الْقَوْمَ الْفَاسِقِينَ


       “จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า หากบรรดาบิดาของพวกเจ้า และบรรดาลูก ๆ ของพวกเจ้า และบรรดาพี่น้องของพวกเจ้า และบรรดาคู่ครองของพวกเจ้า และบรรดาญาติของพวกเจ้า และบรรดาทรัพย์สมบัติที่พวกเจ้าแสวงหาไว้ และสินค้าที่พวกเจ้ากลัวว่าจะจำหน่ายมันไม่ออก และบรรดาที่อยู่อาศัยที่พวกเจ้าพึงพอใจมันนั้น เป็นที่รักใคร่แก่พวกเจ้ายิ่งกว่าอัลลอฮฺ และร่อซูลของพระองค์ และการต่อสู้ในทางของพระองค์แล้วไซร้ ก็จงรอคอยกันเถิดจนกว่าอัลลอฮฺจะทรงนำมาซึ่งกำลังของพระองค์ และอัลลอฮฺนั้นจะไม่ทรงนำทางแก่กลุ่มชนที่ละเมิด"

ที่กล่าวผ่านมาทั้งหมดนั้น คือ ความรักที่เป็นการเฉพาะ


ส่วนความรักทั่วไป แบ่งออกเป็น สามประเภท

     ประเภทที่หนึ่ง ♥ ความรักที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ เช่น ความรักของคนหิวต่ออาหาร คนกระหายน้ำต่อน้ำดื่ม ประเภทนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเทิดทูน เพราะมันคือ เรื่องที่อนุญาติ

     ประเภทที่สอง ♥ ความรัก ความเมตตา ความอ่อนโยน เหมือนพ่อรักลูกน้อย และเช่นเดียวกัน ประเภทนี้ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะรักจนถึงขั้นเทิดทูน จึงไม่มีปัญหาใดๆในประเภทนี้

     ประเภทที่สาม ♥ ความรักด้านความสัมพันธ์ มิตรไมตรีต่อที่ดีต่อกัน ไม่ว่าจะให้แก่เพื่อนร่วมงาน หรือร่วมร่วมห้อง หรือเพื่อนร่วมเดินทาง ชนิดต่างๆนี้เป็นผลดีแก่มนุษย์ และความรักของพี่น้องที่มีต่อกัน การมีความรักนี้ในพวกเขาไม่ใช่การตั้งภาคีในความรักต่ออัลลอฮ์ (ความรักและความเป็นมิตรนี้ จะเกิดขึ้นเฉพาะพี่น้องมุสลิมด้วยกันเท่านั้น แต่สำหรับต่างศาสนิกนั้น เราให้ความยุติธรรมและความช่วยเหลือเขาได้ ในบางประเด็น -ผู้แปล)


        หวังว่า การแบ่งประเภทและการอธิบายนี้จะทำให้ประเด็นนี้เกิดความชัดเจนขึ้นสำหรับพวกท่าน ขอดุอาจากอัลลอฮ์ ให้เราและพวกท่านได้รับความดีงาม  และสามารถทบทวนหัวข้อนี้ได้จาก หนังสือ ตัยซีรอะซีซิลฮะมีด บทที่ว่าด้วยกับ จากมนุษย์ผู้ที่ยึดเอาอื่นจากอัลลอฮ์ เป็นหุ้นส่วนกับอัลลอฮ์



الإسلام سؤال وجواب