ความสำคัญของการละหมาดตะเตาวุอฺ (ภาคสมทบ)
อาบีดีณ โยธาสมุทร แปลและเรียบเรียง
จาก ท่านอบีฮุรอยเราะฮฺ ร่อดิยั้ลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ กล่าวว่า
“สิ่งแรกที่ผู้คนจะต้องถูกสอบสวนในวันกิยามะฮฺเกี่ยวกับผลงานต่างๆของพวกเขานั้นก็คือ การละหมาด "
ท่านกล่าว่า พระเจ้าของเรา ญั้ลละวะอั้ซซะ ตรัสกับบรรดามลาอิกะฮฺ ว่า
"พวกเจ้าจงพิจารณาการละหมาดของบ่าวของข้าดูซิว่า เขาได้ประกอบมันอย่างสมบูรณ์แล้วหรือว่าเขาได้ทำให้มันมีความบกพร่องไปหรือไม่ ? "
ดังนั้น ถ้าหากมันสมบูรณ์ดี มันก็จะถูกบันทึกไว้ให้เขาอย่างสมบูรณ์ แต่ถ้าหากมันมีความบกพร่องในจุดใดจุดหนึ่ง
พระองค์ตรัสว่า พวกเจ้าจงดูซิว่า บ่าวของข้าเขามีผลงานเพิ่มเติมอีกไหม?
ดังนั้นถ้าหากเขามีผลงานเพิ่มเติม พระองค์ตรัสว่า
"พวกเจ้าจงสร้างความสมบูรณ์แก่บ่าวของข้า สำหรับเรื่องที่เป็นฟัรดูของเขา ด้วยกับผลงานเพิ่มเติมของเขาเสีย
ถัดจากนั้น ผลงานต่างๆ ก็จะได้รับการสะสางบนพื้นฐานของสิ่งที่ได้กล่าวไปนี้เอง”
(บันทึกโดย อะฮฺหมัดและเจ้าของหนังสือ ซุนัน ทั้งสี่ –ดู บุฆยะตุ้ลมุเตาวิอฺ / เชค มุฮัมหมัด บาซมู้ล/ หน้า14.)
จากมะอฺดาน อินบิ อะบีต้อลฮะฮฺ อั้ลยะอฺมุรีย์ พูดว่า ผมได้พบกับ ท่านเซาบาน ผู้เป็นทาสของท่านร่อซูลุ้ลลอฮฺ ผมจึงพูดว่า ช่วยบอกให้ผมได้ทราบถึงผลงานที่ทำแล้วอัลลอฮฺจะทรงทำให้ผมได้เข้าสวรรค์ด้วยผลงานนั้นได้ไหมครับ หรือที่ท่านนบี ได้กล่าวไว้
ผมกล่าวว่า อะไรคือผลงานที่เป็นที่รักยิ่งมากที่สุด ณ อัลลอฮฺ ? แล้วท่านก็นิ่งเงียบ
ผมจึงถามท่าน แต่แล้วท่านก็เงียบ แล้วผมก็ถามท่าน แต่แล้วท่านก็เงียบ
ผมจึงถามท่านอีกเป็นครั้งที่สาม ท่านถึงได้กล่าวขึ้นว่า ฉันเองก็ได้ถามท่านร่อซูลุ้ลลอฮฺ ในประเด็นนี้มาแล้ว แล้วท่านก็พูดมาว่า
“เธอต้องซุญูดเพื่ออัลลอฮฺให้มากๆ เพราะไม่มีการก้มซุญูดที่เธอทำขึ้นเพื่ออัลลอฮฺครั้งใด
นอกจากอัลลอฮฺจะทรงยกระดับให้เธอเนื่องจากการซะญูดนั้น
ตลอดจนพระองค์จะยังลบล้างความผิดบาปไปจากเธอด้วยการซุญูดดังกล่าวนั้นด้วย”
ท่านมะอฺดานพูดว่า แล้วผมก็ได้ไปพบกับ อบัดดัรด๊าอฺ ผมจึงไตร่ถามท่าน ท่านก็กล่าวกับผมเหมือนที่ท่านเซาบานได้กล่าวไว้กับผม
(บันทึกโดยมุสลิม 488)
จากท่านหญิงอุมมิฮะบีบะฮฺ ว่า นางได้พูดว่า ฉันได้ยิน ท่านร่อซูลุ้ลลอฮฺ กล่าวว่า
“ผู้ใดที่ทำการละหมาดสิบสองร็อกอัตในวันหนึ่งและคืนหนึ่ง บ้านหลังหนึ่งในสวรรค์จะถูกสร้างขึ้นสำหรับเข้าเนื่องจากการละหมาดดังกล่าว”
(บันทึกโดยมุสลิม 728)
ในการบันทึกของ อัตติรมิซีย์ ได้อธิบายร็อกอัตต่างๆที่ได้กล่าวถึงไว้ข้างต้นว่า คือ
“สี่ร็อกอัตก่อนซุฮฺริ สองร็อกอัตหลังจากนั้น(ซุฮฺริ) สองร็อกอัตหลังมักริบ สองร็อกอัตหลังอิชา และสองร็อกอัตก่อนฟะยัร”
(ดู ญามิ้อฺ อั้ตติรมิซีย์/415)
จากท่านอิบนุอุมัร ร่อดิยัลลอฮุอันฮุมา พูดไว้ว่า
"ผมได้จดจำการละหมาด สิบ ร็อกอัตจากท่านนบี
สองร็อกอัตก่อนซุฮฺริ สองร็อกอัตหลังจากนั้น(ซุฮฺริ)
สองร็อกอัตหลังมักริบในบ้านของท่าน
สองร็อกอัตหลังอิชาในบ้านของท่าน
และสองร็อกอัตก่อนซุบฮิ ซึ่งเป็นเวลาที่ไม่ให้ใครเข้าไปหาท่านนบี ในช่วงเวลานั้น
ฮัฟเซาะฮฺได้เล่ากับฉันไว้ว่า เมื่อมุอั้ซซินอะซานและแสงฟะยัรขึ้น ท่านก็จะละหมาดสองร็อกอัต
(บันทึกโดยอั้ลบุคอรีย์ 1180)
จากท่านอบีมูซาอัลอัชอารีย์ ร่อดิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า ท่านร่อซูลุ้ลลอฮฺ กล่าวว่า
“เมื่อผู้เป็นบ่าวล้มป่วยหรือออกเดินทาง เขาจะได้รับการบันทึกไว้ให้ เฉกเช่นที่เขาได้ปฏิบัติในช่วงที่ไม่ได้เดินทาง ในเวลาที่ยังมีสุขภาพดี”
(บันทึกโดยอั้ลบุคอรีย์ 2996)
เชค มุฮัมหมัด ซอและฮฺ อัลอุซัยมีน ได้พูดไว้ว่า
“ในประเด็นนี้ ถือเป็นการย้ำเตือนว่า เป็นการสมควรอย่างยิ่งสำหรับบุคคลที่มีปัญญา (ว่า) ตราบใดที่เขายังมีสุขภาพดีและมีเวลาว่างอยู่ เขาต้องหมั่นใส่ใจกับการประกอบการงานที่ดีเอาไว้ เมื่อถึงช่วงเวลาที่เขาหมดความสามารถ จะด้วยกับโรคภัยหรือติดพันธกิจก็ตาม เขาจะได้ ได้รับการบันทึก (ผลงาน) ให้แก่เขาไว้อย่างสมบูรณ์ จงฉกฉวยช่วงเวลาที่ยังมีสุขภาพดีอยู่เอาไว้ ! จงฉกฉวยเวลาว่างเอาไว้ ! ...”
ดู ซั้รฮฺ ริยาดุ้ซซอลิฮีน บท การชี้แจงถึงความมากมายของหนทางแห่งความดี /ฮะดี้ษที่ สิบเจ็ด หน้า331 สำนักพิมพ์ อบู้ลอิ้ซ อิ้ตตุร้อซ
وصلى الله على محمد واله وصحبه أجمعين