องค์ประกอบของความสุข 5. เชื่อฟังและปฏิบัติตาม
อ.อับดุลบารีย์ นาปาเลน
องค์ประกอบที่ห้า การเชื่อฟังและปฏิบัติตามผู้นำ
สังคมจะสามัคคีได้ต้องมีผู้นำเป็นหลัก ทำให้มีความเป็นหนึ่งเดียวแถวเดียว เป็นสาเหตุที่จะนำมาซึ่งความสงบ มีการเป็นอยู่อย่างปลอดภัย ห่างไกลจากความวุ่นวาย ช่วยดูแลกิจการศาสนาและการงานดุนยา(โลกนี้) และสร้างความน่าเกรงขามให้แก่ศัตรู
“ ผู้ศรัทธาทั้งหลาย ! จงเชื่อฟังอัลลอฮฺ และเชื่อฟังร่อซูลเถิด และผู้ปกครองในหมู่พวกเจ้าด้วย แต่ถ้าพวกเจ้าขัดแย้งกันในสิ่งใด ก็จงนำสิ่งนั่นกลับไปยังอัลลอฮฺ และร่อซูล หากพวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันปรโลก นั่นแหละเป็นสิ่งที่ดีงาม และเป็นการกลับที่สวยยิ่ง”
(อันนิซาอฺ / ๕๙)
มีหลายฮาดิษที่ได้มากำชับให้ตามผู้นำและห้ามมิให้ฝ่าฝืน ตราบใดที่สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์ และไม่ขัดกับหลักการศาสนา อาทิเช่น
จากอบีฮุรอยเราะหฺ กล่าวว่า ท่านนบี ได้กล่าวว่า
"ผู้ใดที่เชื่อฟังฉัน แน่นอนถือว่าเขาได้เชื่อฟังต่ออัลลอฮฺ และใครที่ฝ่าฝืนฉัน แน่นอนถือว่าเขาได้ฝ่าฝืนอัลลอฮฺ และใครที่เชื่อฟังผู้นำ ถือว่าเขาได้เชื่อฟังฉัน และใครที่ฝ่าฝืนผู้นำ เสมือนกับเขาได้ฝ่าฝืนฉัน”
(รายงานโดยบุคอรีย์และมุสลิม)
“จำเป็นต่อมุสลิมต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตาม(ผู้นำมุสลิม) ในสิ่งที่เขารักและรังเกียจ นอกจากเขาถูกสั่งใช้ในสิ่งที่ฝ่าฝืน(อัลลอฮฺ) ดังนั้นหากเขาได้รับคำสั่งใช้ในสิ่งที่ฝ่าฝืน ก็ไม่มีการเชื่อฟังและปฏิบัติตาม”
(รายงานโดยบุคอรีย์ / ๖๗๒๕)
จากท่านอาบีซัร ได้กล่าวว่า
“ แท้จริง ที่รักของฉันได้สั่งเสียให้ฉันเชื่อฟังและปฏิบัติตาม(ผู้นำ) ถึงแม้ว่าผู้นั้นจะเป็นบ่าวที่มีสัดส่วนที่ขาดด้วน”
(รายงานโดยมุสลิม / ๓๔๒๖)
รายงานจากอุบาดะฮฺ บิน อัศศอมิต เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮู กล่าวว่า
" พวกเราได้ทำสัตยาบัน ต่อท่านรอสูลุลลอฮฺ ว่าจะเชื่อฟัง และปฏิบัติตาม ทั้งในเรื่องที่ยาก และเรื่องที่ง่าย ในสิ่งที่เรารัก และสิ่งที่เราไม่รัก และในเรื่องที่เราต้องเสียสละ และเราไม่แข่งแย่งกิจการ (ตำแหน่ง) กับผู้ที่เป็นผู้นำ ยกเว้นในกรณีที่พวกท่าน มีหลักฐานอย่างชัดแจ้ง ถึงการปฏิเสธต่ออัลลอฮฺ ของพวกเขา”
(รายงานโดย บุคอรียฺ และ มุสลิม)
นั้นก็รวมไปถึงกฏหมายในบ้านเมือง หากมันไม่ได้มาขัดกับหลักการศาสนาและเป็นประโยชน์โดยรวม เช่น กฏจราจร เป็นต้น แม้กระทั่งในการเดินทาง ท่านนบี ก็ยังสั่งให้มีระเบียบโดยการแต่งตั้งผู้นำขึ้น
“ถ้ามีจำนวนถึงสามคน ได้ทำการออกเดินทาง(ร่วมกัน) ก็จงแต่งตั้งจากพวกเขาให้เป็นผู้นำขึ้นหนึ่งคน”
(รายงานโดย อบูดาวูด / ๒๖๑๐)
ท่านนบี ให้ประชาชาติของท่านมีความอดทนต่อการที่จะไปแย่งในตำแหน่ง เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งระหว่างพวกเขา
“ จากท่านอุเซยดฺบินฮุเดรฺ เล่าว่า มีชายผู้หนึ่งจากชาวอันศอรฺ ได้กล่าวกับท่านนบีว่า โอ้รอซูลุลลอฮ ท่านจะไม่สั่งฉันให้ปฏิบัติหน้าที่ ดังที่ท่านได้สั่งให้คนนั้นทำหน้าที่หรือ(คือ มีตำแหน่งเป็นผู้รับผิดชอบในกิจการหนึ่งๆ)
ท่านนบี ได้กล่าวว่า "พวกท่านจะพบเจอหลังจากฉัน(จากไป)ซึ่งความโลภ ดังนั้นพวกท่านทั้งหลายจงอดทนจนกว่าจะมาเจอฉัน ณ สระน้ำ “
(รายงานโดย บุคอรีย์ / ๓๕๘๑)
อีกฮาดิษหนึ่งที่ว่า
"แน่นอน พวกท่านทั้งหลายจะพบเจอหลังจากฉัน(จากไป)ซึ่งความโลภ และเรื่องต่างๆ ที่พวกท่านมิชอบ “
พวกเขากล่าวว่า “ แล้วท่านจะสั่งเสียอะไรแก่เราโอ้ท่านรอซูลุลลอฮ “
ท่านกล่าวว่า “ จงให้สิทธิพวกเขาแก่พวกเขา(คือจงเชื่อฟังตามผู้นำ) และจงขอสิทธิของพวกท่านจากอัลลอฮฺ “
(รายงานโดยบุคอรีย์ / ๖๖๔๔)
ท่านฮาฟิศ อินนิรอญับ (รอฮีมาฮุลลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
“ ส่วนในเรื่องของการเชื่อฟังและปฏิบัติตามผู้นำนั้น เป็นสาเหตุให้ได้มาซึ่งความสุขในโลกนี้ และเป็นเหตุของการเป็นอยู่อาศัยที่มีระเบียบ และเป็นเหตุที่ช่วยให้ศาสนาสูงส่ง และทำการภักดีต่อพระเจ้าของพวกเขาอย่างสะดวกสบาย “
(ญามิอิลอูลูมิวัลฮิกัม )
ท่าน อิบนุลมูบาร็อก (รอฮีมาฮุลลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
“ พระองค์อัลลอฮฺได้รักษาศาสนาของพวกเราด้วยผู้นำของพวกเรา เป็นความโปรดปรานและเป็นความพึงพระทัยของพระองค์ หากไม่มีผู้นำแล้ว ถนนหนทางก็ไม่ปลอดภัย และเป็นเหตุที่จะทำให้คนจนปล้นคนรวย”
(ซียัร อะลามุนนูบาลาอฺ / ๑๔๔)
หากผู้นำทำผิด หรือปฏิบัติตนผิดจากหลักการจำเป็นสำหรับผู้รู้ต้องเข้าไปตักเตือนด้วยวิธีการที่ดี ตักเตือนแบบลับๆ และอย่าได้แฉความผิดของเขา ต้องมีความสัมพันธ์ที่ดี มีความร่วมมือกันระหว่างผู้นำและผู้ตาม
“ ผู้ใดที่ต้องการตักเตือนต่อผู้นำ(หรือผู้มีอำนาจ) ก็จงอย่าไปแฉในที่เปิดเผย แต่จงจับมือเขาไปยังที่ลับ แล้วถ้าเขารับการตักเตือนนั้นก็เป็นการดี แต่หากเขาปฏิเสธ ถือว่าเขา(ผู้เตือน)นั้นได้ทำตามหน้าที่แล้ว “
(รายงานโดยอะหมัด ฮาเก็ม ฏ็อบรอนีย์ และบัยฮากีย์)
เพราะคนธรรมดาก็ยังไม่ต้องการให้ใครมาแฉความชั่วของเขา ยิ่งถ้าคนมีอำนาจก็ยิ่งจำเป็นและถ้าห้ามจากความชั่วแล้วเขาไม่รับการเสนอแนะ ก็ไม่อนุญาติให้ออกจากการเป็นผู้นำของเขา หรือทรยศ และอย่าแตกแถวจากพวกเขา ตราบใดที่ความผิดนั้นไม่ถึงกับขั้นตกศาสนา และหากพวกเขายังดำรงอยู่ไว้ซึ่งการละหมาด
จากท่านเอาฟฺ บินมาเล็ก (อัลอัชญะอีย์) จากท่านนบี ได้กล่าวว่า
“ บรรดาผู้นำที่ดีเลิศของพวกท่าน คือ บรรดาผู้ที่พวกท่านทั้งหลายต่างรักพวกเขา และพวกเขาก็รักพวกท่าน และพวกเขาขอพรให้แก่พวกท่าน และพวกท่านก็ขอพรให้แก่พวกเขา
ส่วนบรรดาผู้นำที่ชั่วทึ่สุดคือ บรรดาผู้ที่พวกเจ้าเกลียดพวกเขาและพวกเขาก็เกลียดพวกเจ้า และพวกเจ้าต่างก็สาปแช่งพวกเขา และพวกเขาก็สาปแช่งพวกท่าน
มีผู้หนึ่งได้กล่าวขึ้นว่า โอ้รอซูลลุลลอฮฺ เราจะไม่ขับไล่พวกเขาด้วยดาบหรือ
ท่านกล่าวว่า อย่า ! ตราบใดที่พวกเขายังรักษาการละหมาดร่วมกับพวกท่าน และหากพวกท่านได้เห็นจากผู้นำของพวกท่านในสิ่งที่พวกท่านทั้งหลายมิชอบ ก็จงเกลียดการกระทำของพวกเขา และอย่าได้ออกจากการเชื่อฟัง(ภักดี)”
( รายงานโดยมุสลิม / ๑๘๕๕ )
จากอิบนิอับบาส จากท่านนบี ได้กล่าวว่า
“ ผู้ใดที่เห็นผู้นำของเขาในบางอย่างที่เขามิชอบ ก็จงอดทนต่อเขา เพราะที่จริงแล้ว ผู้ใดที่ออกจากกลุ่มเพียงคืบเดียว(หมายถึงได้ดื้อต่อผู้นำหรือประกาศรบกับเขาแม้เพียงนิดเดียว) แล้วได้ตายไป นอกจากว่าได้ตายในสภาพของญาฮีลียะหฺ”
(รายงานโดยบุคอรีย์และมุสลิม)
เพราะการออกจากผู้นำเพียงเล็กน้อย จะนำไปสู่ความวุ่นวายและการนองเลือดได้