จุดยืนของเด็กมุสลิม
โดย...ชูโกร ดาณีสมาน
ในสงครามอุฮุดที่เกิดขึ้นปีที่ 3 หลังจากที่ท่านนบี ได้อพยพมามะดีนะฮ์ สาเหตุมาจากที่การพวกกุเรชได้พ่ายแพ้ในสงครามบาดัร และต้องการแก้แค้น จึงได้จัดทัพออกมาด้วยกองทัพทหาร 3,000 นาย พร้อมด้วยทหารม้า 200 คน โดยการนำทัพของคอลิด บินวะลีด และ อิกริมะห์ บินอบูญะฮั้ล ส่วนกองทัพทหารมุสลิมมีจำนวนเพียง 700 กว่าคน หากเทียบดูแล้วกำลังศัตรูมีจำนวนมากกว่าถึง 3 เท่า แต่กระนั้นก็ตามไม่ได้ทำให้บรรอาศอฮาบะฮ์ และเด็กๆมุสลิมกลัวเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็น ด.ช.อุซามะห์ บินเซด, ด.ช.อับดุลลอฮฺ บินอุมัรบินคอตตอบ, ด.ช.เซต บินซาบิต, ด.ช.บารออฺ บินอาซิบ, ด.ช.อัมรฺ บินฮัสมฺ, ด.ช.อุเซด บินซุเฮร, ด.ช.ซามุเราะห์ บินยุนดุบ, และ ด.ช.รอเฟี๊ยะ บินคุเดจ พวกเขาทั้งหลายได้เข้าร่วมกับกองกำลังทหารมุสลิมทั้งๆที่อายุยังไม่ถึง 15 ปี
เด็กกลุ่มนี้รู้ทั้งรู้ว่ามุสลิมมีจำนวนน้อยกว่าถึง 3 เท่าตัว แต่นั่นไม่ได้ทำให้พวกเขากลัวเลยแม้แต่น้อย พวกเขาอยากที่จะเข้าร่วมกองทัพด้วยความห้าวหาญ และด้วยความรักที่จะเชิดชูอิสลาม ซึ่งเหตุการณ์นี้บ่งบอกให้รู้ว่าเด็กๆ พวกนี้ได้รับการปลูกฝังอีหม่านที่เข้มแข็ง และพร้อมจะปกป้องอิสลามทุกเมื่อ
แต่ด้วยความเมตตาของศาสนาอิสลาม ท่านนบี จึงไม่อนุญาตให้เด็กกลุ่มนี้เข้าร่วมกับกองทัพ เพราะว่ายังเด็กเกินไป อายุยังไม่ถึง 15 ปี แต่เมื่อมีคนบอกกับท่านนบี ว่า ด.ช.รอเฟี๊ยะ เป็นเด็กที่แม่นธนู ท่านนบี จึงอนุญาติให้เข้าร่วมกองทัพได้ ส่วนอีกคนบอกกับท่านนบี ว่า ด.ช.ซามูเราะห์ สามารถคว่ำ ด.ช.รอเฟี๊ยะได้ ท่านนบี จึงได้อนุมัติให้เด็กทั้งสองเข้าร่วมกองทัพอิสลามด้วยความสามารถของทั้งสอง และด้วยการเสนอแนะของผู้ใหญ่ที่เห็นความสามารถของเด็กๆ
เหตุการณ์นี้สอนให้เรารู้ว่า
1- เด็กกับผู้ใหญ่ต้องไม่แยกจากกัน จากที่ท่านนบี ได้ให้เด็กบางคนเข้าร่วมกับกองทัพทำให้เรารู้ว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันและต่อสู้เคียงข้างท่านนบี ตลอดไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่
2- ท่านนบี ได้สอนให้เด็กๆ มีอีหม่านที่เข้มแข็ง เหมือนดังที่ท่านได้สอนผู้ใหญ่ เพราะฉะนั้นเราต้องไม่มองข้ามการปลูกฝังอีหม่านให้กับเด็กๆ
3- สมัยท่านนบี การปกป้องอิสลามเป็นไปด้วยคมดาบ เด็กๆก็ร่วมปกป้องกับท่านด้วย สมัยนี้การปกป้องอิสลามด้วยความรู้ เพราะฉะนั้นเด็กๆต้องมีความรู้เพื่อปกป้องอิสลามเช่นกัน
4- สมัยท่านนบี การเผยแพร่อิสลามต้องใช้กำลังอาวุธ เด็กๆก็ได้เข้าร่วมปกป้อง สมัยนี้อาวุธของการเผยแพร่อิสลามคือความรู้ เด็กๆก็ต้องได้รับอาวุธนั้นด้วยเช่นกัน
5- ผู้ใหญ่ต้องเป็นคนที่อยู่เคียงข้างเด็กๆ และดูว่าเด็กคนไหนมีแววด้านไหน และพร้อมที่จะส่งเสริมเด็กให้เดินไปในทางที่ตัวเองสนใจ ดังที่ซอฮาบะห์ได้บอกท่านนบี ว่า ด.ช.รอเฟี๊ยะ เป็นผู้ที่ยิงธนูแม่น
6- การที่ท่านนบี ไม่ให้เด็กร่วมรบ บ่งบอกถึงความง่ายดายของอิสลาม ไม่บังคับมุสลิมเกินความสามารถตัวเอง
7- เด็กวันนี้ คือกำลังสำคัญในวันหน้า
♣ * ด.ช.อุซามะห์ บินเซด คือเด็กในสงครามอุฮุด แต่กลายเป็นแม่ทัพใหญ่ที่ท่านนบี ได้ส่งไปรบที่กรุงโรมในบั้นปลายชีวิตของท่านนบี และอุซามะห์ก็นำชัยมาให้กับอิสลาม
♣ * ด.ช.อับดุลลอฮฺ บินอุมัร บินคอตตอบ คือเด็กในสงครามอุฮุด แต่กลายเป็นนักวิชาการอิสลามที่ได้รับการยกย่องและกล่าวขานจนถึงทุกวันนี้ และเป็นคนที่ชาวมะดีนะห์นับหน้าถือตาตลอดชีวิตของท่าน
♣ * ด.ช.เซด บินซาบิต คือเด็กในสงครามอุฮุด แต่กลายเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบงานใหญ่ที่ท่านอบูบักร มอบหมายให้ คือการรวบรวมอัลกุรอาน