จริยธรรมอันดีงามของมุสลิม 23-37
อับดุลลอฮฺ บิน อับดุลหะมีด อัล-อะษะรีย์
ยี่สิบสาม...
ชาวสะละฟุศศอลิหฺ จะปิดกั้นช่องทางต่างๆ ที่นำไปสู่การนินทาในวงสนทนาการพูดคุยของพวกเขา และพวกเขาจะรักษาลิ้นจากการนินทาว่าร้ายต่อผู้อื่น ทั้งนี้ ก็เพื่อไม่ให้การพูดคุยของพวกเขานั้นเป็นการพูดคุยที่เป็นบาป อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ดำรัสในเรื่องนี้ว่า
“โอ้ศรัทธาชนทั้งหลาย ! พวกเจ้าจงปลีกตัวให้พ้นจากส่วนใหญ่ของการสงสัย แท้จริงการสงสัยบางอย่างนั้นเป็นบาป และพวกเจ้าอย่าสอดแนม และบางคนในหมู่พวกเจ้าอย่านินทาซึ่งกันและกัน คนหนึ่งในหมู่พวกเจ้านั้นชอบที่จะกินเนื้อพี่น้องของเขาที่ตายไปแล้วกระนั้นหรือ? พวกเจ้าย่อมเกลียดมัน และจงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด แท้จริงอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ”
(สูเราะฮฺ อัล-หุญุรอต : 12)
ยี่สิบสี่...
ชาวสะละฟุศศอลิหฺ จะมีความละอาย มีมารยาท ความรักใคร่ ความสงบ และความนอบน้อมเป็นอย่างมาก ใช่แต่เท่านั้นพวกเขาจะพูดและหัวเราะเพียงน้อยนิด และสงบเงียบให้มากขึ้น พวกเขาจะพูดด้วยถ้อยคำที่เปี่ยมด้วยหิกมะฮฺซึ่งง่ายต่อการเข้าใจของผู้ฟัง พวกเขาจะไม่ดีใจอย่างลิงโลดต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ได้รับจากดุนยา นั่นเป็นเพราะด้วยปัญญาที่สมบูรณ์ของพวกเขา ดังที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า
« مَنْ كَانَ يُؤْمِنُ بِاللَّهِ وَالْيَوْمِ الآخِرِ فَلْيَقُلْ خَيْرًا أَوْ لِيَصْمُتْ ». [رواه البخاري رقم 6475 ومسلم رقم 47 ].
“ผู้ใดที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันปรโลก เขาก็จงพูดสิ่งดี หรือไม่ก็จงเงียบเสีย”
(บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ หมายเลข 6475 และมุสลิม หมายเลข 47)
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวอีกว่า
«مَنْ صَمَتَ نَجَا». [صحيح رواه الترمذي رقم 2501]. “ใครที่เงียบก็ย่อมปลอดภัย”
(เศาะฮีหฺ บันทึกโดยอัต-ติรมิซีย์ หมายเลข 2501)
ยี่สิบห้า...
ชาวสะละฟุศศอลิหฺ จะหมั่นให้อภัยและยกโทษซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะมาจากการก่อความเดือดร้อนด้วยการไปทำร้ายร่างกาย หรือยึดเอาทรัพย์สิน หรือย่ำยีเกียรติของผู้อื่น หรืออื่นจากนี้ อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ดำรัสในเรื่องนี้ว่า
“คือบรรดาผู้ที่บริจาคทั้งในยามสุขสบาย และในยามเดือดร้อน และบรรดาผู้ข่มโทษและบรรดาผู้ให้อภัยแก่เพื่อนมนุษย์ และอัลลอฮฺนั้นทรงรักผู้กระทำดีทั้งหลาย”
(สูเราะฮฺอาลิ อิมรอน : 134)
ยี่สิบหก...
ชาวสะละฟุศศอลิหฺ จะตระหนักถึงความเจ้าเล่ห์ของชัยฏอนอยู่เสมอ และจะพยายามเรียนรู้เล่ห์เหลี่ยมและกลลวงของมัน และไม่ยอมให้การกระซิบกระซาบ(วิสวาส)ของพวกมันมีผลต่อพวกเขาในการอาบน้ำวุฎูอ์ การละหมาด และอิบาดะฮฺต่างๆ อื่นจากนี้ เพราะพวกเขาตระหนักดีว่าสิ่งเหล่านั้นมาจากชัยฏอน
ยี่สิบเจ็ด...
ชาวสะละฟุศศอลิหฺ จะบริจาคทานอย่างมากมาย พวกเขาจะบริจาคด้วยกับทุกสิ่งที่เกินความจำเป็นทั้งกลางวันและกลางคืน ทั้งที่เปิดเผยและซ่อนเร้น และพวกเขาจะหมั่นถามไถ่สารทุกข์สุขดิบมิตรสหายของพวกเขา เพื่อที่พวกเขาจะได้มอบความช่วยเหลือตามความต้องการของมิตรสหายเหล่านั้นในเรื่องอาหาร เสื้อผ้าและทรัพย์สินเงินทอง และพวกเขาจะไม่ฟุ่มเฟือยในทรัพย์สินเงินทองแม้จะใช้ไปในสิ่งที่หะลาลก็ตาม
ยี่สิบแปด...
ชาวสะละฟุศศอลิหฺ จะตำหนิความตระหนี่ถี่เหนี่ยว ในทางกลับกันพวกเขาจะมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และใจบุญกุศลทาน รวมถึงการทุ่มทรัพย์สินเงินทอง และแบ่งเบาภาระของพี่น้องของเขา ทั้งในช่วงเวลาของการเดินทางและช่วงที่อยู่ที่บ้าน เพราะการกระทำเช่นนั้นจะทำให้เกิดความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการช่วยเหลือศาสนา ซึ่งนี่คือเป้าหมายของพวกเขา และพวกเขาจะมีความรู้สึกชอบเป็นอย่างยิ่งที่จะทำความดีแก่พี่น้อง และสร้างความปลื้มปีติให้แก่กันและกัน และพวกเขาจะยื่นมอบให้แก่พี่น้องก่อนตัวของพวกเขาเสมอ
ยี่สิบเก้า...
ชาวสะละฟุศศอลิหฺ จะต้อนรับเลี้ยงแขกเป็นอย่างดี พวกเขาจะดูแลแขกด้วยตัวของพวกเขาเอง เว้นแต่จะมีเหตุสุดวิสัยจริงๆ ซึ่งพวกเขาจะไม่ทำตัวเสมอระดับเดียวกับแขก (คือจะดูแลแขกให้ดีกว่าที่เป็นอยู่) พวกเขาจะต้อนรับแขกอย่างดีทั้งการเลี้ยงอาหารแขก การดูแลแขก และการมองแขกในแง่ดี และพวกเขาจะตอบรับการเชื้อเชิญร่วมงานเลี้ยงของพี่น้องของพวกเขาทุกคน เว้นแต่อาหารที่เลี้ยงนั้นจะเป็นสิ่งที่หะรอม หรือเป็นการเชื้อเชิญเฉพาะคนมีหน้ามีตาและคนร่ำรวย โดยที่ไม่เชื้อเชิญคนยากจนระดับรากหญ้าทั่วไป หรือสถานที่เลี้ยงนั้นมีสิ่งที่เป็นการฝ่าฝืนอัลลอฮฺอยู่
สามสิบ...
ชาวสะละฟุศศอลิหฺ จะมีมารยาทที่ดีงามต่อเด็กๆ นับประสาอะไรกับบรรดาผู้ใหญ่ ต่อคนไกลและนับประสาอะไรกับคนใกล้ ต่อคนโง่เขลาและนับประสาอะไรกับคนที่มีความรู้
สามสิบเอ็ด...
ชาวสะละฟุศศอลิหฺ จะคอยทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยระหว่างคู่พิพาท เพราะถือเป็นแขนงแห่งความดีที่เลิศที่สุด และเป็นคุณงามความดีที่มีค่ายิ่ง เพราะการช่วยไกล่เกลี่ยคู่พิพาทนั้นจะเป็นการทำลายแผนการณ์และเจตนารมณ์ของชัยฏอนที่จะก่อความบาดหมาง ความเป็นศัตรูระหว่างมุสลิม และเจตนาที่จะทำลายความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพวกเขากันเอง
สามสิบสอง...
ชาวสะละฟุศศอลิหฺ ห้ามไม่ให้อิจฉาริษยาซึ่งกันและกัน เพราะความอิจฉาริษยานั้นเป็นบ่อเกิดของการเป็นศัตรู ความบาดหมาง ทำให้อีหม่านอ่อน และทำให้ยึดติดอยู่กับดุนยาและสิ่งเพริศแพร้วของมัน โดยไม่มีเป้าหมายที่สอดคล้องกับหลักการศาสนา
สามสิบสาม...
ชาวสะละฟุศศอลิหฺ จะสั่งใช้ให้ทำดีต่อบิดามารดาและดูแลท่านทั้งสองให้เป็นอย่างดี อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ดำรัสในเรื่องนี้ว่า
“และเราได้สั่งเสียมนุษย์ให้ทำดีต่อบิดามารดาของเขา และถ้าทั้งสองบังคับเจ้าเพื่อให้ตั้งภาคีในสิ่งที่เจ้าไม่มีความรู้ เจ้าก็อย่าปฏิบัติตามเขาทั้งสอง ยังข้าคือการกลับของพวกเจ้า ดังนั้น ข้าจะแจ้งแก่พวกเข้าในสิ่งที่พวกเจ้าได้กระทำไว้”
(สูเราะฮฺ อัล-อันกะบูต : 8)
สามสิบสี่...
ชาวสะละฟุศศอลิหฺ สั่งใช้ให้ทำดีต่อเพื่อนบ้าน มีความอ่อนโยนต่อเพื่อนมนุษย์ มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติ แพร่สลาม ให้การดูแลทั้งผู้ที่ยากจน ผู้ที่ขัดสน เด็กกำพร้า และนักเดินทางต่างถิ่นที่ขาดแคลนปัจจัยจะกลับภูมิลำเนา
สามสิบห้า...
ชาวสะละฟุศศอลิหฺ ห้ามไม่ให้มีความหยิ่งยโส จองหอง อวดอ้างตน การกดขี่ข่มเหงและละเมิดผู้คนและพวกเขาจะสั่งใช้ให้ผดุงความยุติธรรมในทุกเรื่อง
สามสิบหก...
ชาวสะละฟุศศอลิหฺ จะไม่มองข้ามความดีใดๆ ที่ศาสนาส่งเสริมให้ปฏิบัติมัน ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวในเรื่องนี้ว่า
«لَا تَحْقِرَنَّ مِنْ الْمَعْرُوفِ شَيْئًا وَلَوْ أَنْ تَلْقَى أَخَاكَ بِوَجْهٍ طَلْقٍ». [رواه مسلم رقم 2626 ].
“ท่านจงอย่ามองข้ามความดีใดๆ แม้กระทั่งการที่ท่านพบพี่น้องของท่านด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม”
(บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 2626)
สามสิบเจ็ด...
ชาวสะละฟุศศอลิหฺ ห้ามไม่ให้มีทัศนคติที่ไม่ดี การสอดแนม และการคอยจ้องจับผิดต่อพี่น้องมุสลิมด้วยกัน เพราะการกระทำเช่นนั้นจะเป็นการทำลายความสัมพันธ์ทางสังคม และจะเป็นการสร้างความแตกแยกระหว่างพี่น้อง ทั้งยังเป็นบ่อเกิดของความเสียหาย และพวกเขาจะไม่โกรธเคืองผู้ใดที่เป็นไปเพื่อตัวเอง แต่พวกเขาตระหนักอยู่เสมอว่าการโกรธเคืองนั้นต้องเป็นไปเพื่ออัลลอฮฺเท่านั้น อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ดำรัสในเรื่องนี้ว่า
“คือบรรดาผู้ที่บริจาคทั้งในยามสุขสบาย และในยามเดือดร้อน และบรรดาผู้ข่มโทษและบรรดาผู้ให้อภัยแก่เพื่อนมนุษย์และอัลลอฮฺนั้นทรงรักผู้กระทำดีทั้งหลาย”
(สูเราะฮฺอาลิ อิมรอน : 134)
และจริยธรรมอันดีงามอื่นจากนี้ ซึ่งเป็นจริยธรรมของท่านนบี ที่อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ให้มันเป็นเหตุให้เกิดความสนิทสนมกันระหว่างศัตรู แล้วพวกเขาก็กลายเป็นพี่น้องกันด้วยความเมตตาของอัลลอฮฺ
โอ้อัลลอฮฺ ได้โปรดให้อภัยแก่เราและพี่น้องของเราผู้ซึ่งได้ศรัทธา ได้เรียนรู้ และได้ปฏิบัติอะมัลที่ศอลิหฺก่อนหน้าเรา และอย่าได้ให้มีความเคียดแค้นเกิดขึ้นในหัวใจของเราต่อบรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย
โอ้อัลลอฮฺ เราขอต่อพระองค์ซึ่งความดีงามจากสิ่งที่ศาสนทูตของพระองค์ มุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้วอนขอต่อพระองค์จากสิ่งนั้น และเราขอความคุ้มครองต่อพระองค์ซึ่งความชั่วร้ายจากสิ่งที่ศาสนทูตของพระองค์ มุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ขอความคุ้มครองต่อพระองค์จากสิ่งนั้น
โอ้อัลลอฮฺ เราขอความคุ้มครองต่อพระองค์ จากความชั่วร้ายของอุปนิสัย การงาน อารมณ์ความใคร่ และโรคภัยต่างๆ
โอ้อัลลอฮฺ ได้โปรดตอบรับในสิ่งที่เราวอนขอด้วยเถิด อามีน
แปลโดย : แวมูฮัมหมัดซาบรี แวยะโก๊ะ / Islamhouse