ความประเสริฐของความรู้ในเรื่องศาสนา
  จำนวนคนเข้าชม  5759

 

ความประเสริฐของความรู้ในเรื่องศาสนา

 

เรียบเรียงโดย อิสมาอีล กอเซ็ม

 

มวลการสรรเสริญเป็นเอกสิทธิ์ของอัลลอฮฺผู้อภิบาลแห่งสากลโลก
 

         อัลลอฮ์ สร้างมนุษย์มีเป้าหมายอย่างชัดเจน พระองค์สร้างมนุษย์มาเป็นตัวแทนของพระองค์ให้มาดำเนินชีวิตตามรูปแบบและหลักการที่พระองค์ได้ส่งมา โดยหลักการเหล่านั้นได้ผ่านการนำมาของบรรดารอซูล เพื่อมาเรียกร้องมวลมนุษยชาติให้รู้จักพระองค์ ยอมรับในการเป็นพระเจ้าของพระองค์เพียงผู้เดียว และให้ทำการเคารพภักดีต่อพระองค์โดยไม่นำสิ่งอื่นมาเทียบเคียงกับพระองค์

 

อัลลอฮ์  ได้ตรัส ความว่า 
 

"และข้ามิได้สร้างญินและมนุษย์มาเพื่ออื่นใดเว้นแต่ให้พวกเขาเคารพภักดีต่อข้า"

 

         ดังนั้นการที่จะสนองตอบจุดประสงค์ที่พระองค์ต้องการให้มนุษย์ที่ถูกส่งมาอยู่ในโลกใบนี้ ก็เพื่อต้องการให้พวกเขาเคารพภักดีต่อพระองค์เพียงพระองค์เดียว จึงต้องอาศัยความรู้ และแน่นอนความรู้ที่มีความประเสริฐที่สุด ก็คือความรู้ในหลักการของอัลลอฮฺ ซุบหานาฮูวาตาอาลา


عَزِيزُ قَائِمًا بِالْقِسْطِ لَا إِلَٰهَ إِلَّا هُوَ الْشَهِدَ اللَّهُ أَنَّهُ لَا إِلَٰهَ إِلَّا هُوَ وَالْمَلَائِكَةُ وَأُولُو الْعِلْمِقال الله تعالى : الْحَكِيمُ (18 )

 

"อัลลอฮ์ทรงยืนยันว่า แท้จริงไม่มีผู้ที่ควรได้รับการเคารพสักการะใด ๆ นอกจากพระองค์เท่านั้น

และมะลาอิกะฮ์ และผู้มีความรู้ในฐานะดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรมนั้น ก็ยืนยันด้วยว่า

ไม่มีผู้ที่ควรได้รับการเคารพสักการะใด ๆ นอกจากพระองค์ผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงปรีชาญาณเท่านั้น"
 

(สูเราะฮฺ อาล อิมรอน อายะห์ที่ 18)

 

         จากอายะห์นี้อัลลอฮ์ ได้ให้เกียรติแก่บรรดาผู้รู้ และได้ยกฐานะของผู้รู้ หลังจากการยืนยันของอัลลอฮฺ ด้วยตัวของพระองค์เองในการเป็นพระเจ้าองค์เดียวที่สมควรถูกคารพภักดี และพระองค์ได้กล่าวถึงมาลาฮิกะห์และบรรดาผู้รู้ว่า เขาคือผู้ที่มายืนยันถึงการเป็นพระเจ้าองค์เดียวที่ถูกเคารพภักดีโดยเที่ยงแท้ ดังนั้นการที่เราจะรู้จักอัลลอฮฺและศรัทธาต่อพระองค์จึงต้องอาศัยความรู้ ในคำสอนของพระองค์ และด้วยกับความรู้จะทำให้เราเป็นบ่าวที่มีความยำเกรง และมีความเกรงกลัวต่ออัลลอฮฺ  และการกล่าวถึงผู้รู้ในอายะห์นี้เป็นการให้เกียรติของผู้ที่มีความรู้

 

"แท้จริง บรรดาผู้ที่มีความรู้จากปวงบ่าวของพระองค์เท่านั้นที่เกรงกลัวอัลลอฮฺ"

(สูเราะฮฺ ฟาฏิร อายะห์ ที่ 28)

          จากอายะห์นี้เป็นการยืนยันว่า ผู้ที่จะมีความเกรงกลัวต่ออัลลอฮฺ์  คือบรรดาผู้ที่มีความรู้ ดังนั้นหากเราขาดความรู้ความเข้าใจในศาสนาแน่นอนจะไม่สามารถเป็นผู้ที่มีความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ  ได้ นี่คือความประเสริฐของการศึกษาหาวิชาความรู้ในด้านศาสนาของอัลลอฮฺ  มันเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เป็นผู้ที่มีความยำเกรงต่อพระองค์ หากเราตั้งใจในการศึกษาศาสนาของพระองค์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็จะได้รับความดีงามมากมายจากการศึกษาหาวิชาความรู้ในด้านศาสนาของอัลลอฮฺ 

ท่านรอซูลุลลอฮ ศ็อลลัลลอฮูอะลัยอิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า 

" บุคคลใดที่อัลลอฮฺต้องการให้เขาได้รับความดี พระองค์จะให้เขาเข้าใจศาสนา "

(บันทึกโดย บุคอรีย์และมุสลิม)


         จากหะดีษข้างต้น เป็นสิ่งที่มายืนยันอีกประการหนึ่งถึงความประเสริฐของการเรียนรู้ศาสนาของอัลลอฮฺ และบุคคลใดที่เข้าใจศาสนาของพระองค์ก็จะได้รับแต่สิ่งที่ดีๆ และที่ตรงกันข้าม คือบุคคลที่ไม่ได้รับความเข้าใจในศาสนานั้น เขาก็ไม่ได้รับความดีใดๆ



عَنْ أَبِي مُوسَى عَنْ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ إِنَّ مَثَلَ مَا بَعَثَنِيَ اللَّهُ بِهِ عَزَّ وَجَلَّ مِنْ الْهُدَى وَالْعِلْمِ كَمَثَلِ غَيْثٍ أَصَابَ أَرْضًا فَكَانَتْ مِنْهَا طَائِفَةٌ طَيِّبَةٌ قَبِلَتْ الْمَاءَ فَأَنْبَتَتْ الْكَلَأَ وَالْعُشْبَ الْكَثِيرَ وَكَانَ مِنْهَا أَجَادِبُ أَمْسَكَتْ الْمَاءَ [ ص: 1788 ] فَنَفَعَ اللَّهُ بِهَا النَّاسَ فَشَرِبُوا مِنْهَا وَسَقَوْا وَرَعَوْا وَأَصَابَ طَائِفَةً مِنْهَا أُخْرَى إِنَّمَا هِيَ قِيعَانٌ لَا تُمْسِكُ مَاءً وَلَا تُنْبِتُ كَلَأً فَذَلِكَ مَثَلُ مَنْ فَقُهَ فِي دِينِ اللَّهِ وَنَفَعَهُ بِمَا بَعَثَنِيَ اللَّهُ بِهِ فَعَلِمَ وَعَلَّمَ وَمَثَلُ مَنْ لَمْ يَرْفَعْ بِذَلِكَ رَأْسًا وَلَمْ يَقْبَلْ هُدَى اللَّهِ الَّذِي أُرْسِلْتُ بِهِ
رواه البخاري ومسلم

มีรายงานจากอาบี มูซาอัลอัชอารีย์ จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮูอะลัยอิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า 


         "แท้จริงอุปมาสิ่งที่อัลลอฮฺ ได้ส่งฉันมาด้วยกับสิ่งนั้น จากทางนำและความรู้ เปรียบเสมือนน้ำฝนที่ได้หลั่งลงมายังพื้นดิน โดยที่จากผืนดินนั้น มีประเภทที่ดี ที่มันเก็บน้ำไว้ แล้วมันได้ทำให้พืชผักนาๆชนิด ได้งอกเงยขึ้นมา 

และจากผืนดินนั้น ประเภทที่เก็บน้ำ และอัลลอฮฺได้ให้ผู้คนได้รับประโยชน์ด้วยกับผืนดินประเภทนั้น โดยที่พวกเขาได้ดื่มน้ำจากผืนดินนั้น และนำไปรดพืชผัก 

และน้ำฝนนั้นได้หลั่งลงไปยังดินอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งเป็นดินที่ไม่สามารถเก็บน้ำได้ และไม่สามารถให้พืชผักงอกเงยขึ้นมาได้ 

ดังกล่าวนั้น คือการเปรียบเปรย บุคคลที่เขาได้เข้าใจในศาสนาของอัลลอฮฺ และเขาได้ประโยชน์จากมัน ต่อสิ่งที่อัลลอฮฺได้ส่งฉันด้วยกับมัน แล้วเขาได้รู้ และได้นำมันไปสอน(ผู้อื่น) และเปรียบเปรยผู้ที่ไม่ได้เงยศรีษะมาสนใจในเรื่องดังกล่าว(ความรู้) และไม่รับทางนำของอัลลอฮฺ ซึงฉันได้ถูกส่งด้วยกับการนำมันมา "

(บันทึกโดย อัลบุคอรีย์และมุสลิม)


          หะดีษข้างต้นได้เปรียบผู้ที่รับความรู้และทางนำของอัลลอฮฺ  ที่ได้ถูกส่งมายังท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮู อะลัยอิวะซัลลัม มีสามประเภท 

         ♥ ผู้รู้ประเภทแรกก็เสมือนผืนดินที่สามารเก็บน้ำได้ และยังสามารถให้พืชผักงอกเงยมาจากผืนดินนั้น ผู้คนและปศุสัตว์ต่างๆได้ประโยชน์จากมัน และสามารถนำน้ำไปทำการเพาะปลูก ก็เปรียบดั่งผู้รู้ที่ได้รับความรู้แล้วนำมาปฏิบัติให้เกิดประโยชน์กับตัวเอง และนำความรู้ไปเผยแผ่สั่งสอนผู้อื่น และยังสามารถนำฮุกุมต่างๆ จากความรู้ที่เขามี มาให้ความเข้าใจกับผู้คน เพื่อผู้คนจะได้ปฏิบัติศาสนาที่ถูกต้อง

          ♥ ประเภทที่สอง ก็คือ ดินที่สามารถเก็บน้ำได้ แต่พืชผักไม่ได้งอกเงยมาจากพื้นดินนั้น แต่ผู้คนก็สามารถเอาน้ำจากพื้นดินนั้นขึ้นมาดื่มกิน มาทำการเพาะปลูกได้ ก็เหมือนคนที่มีความรู้ เขาได้ร่ำเรียน และจดจำรักษาความรู้ และนำความรู้ที่ตัวเองไปเผยแผ่เท่าที่รู้ และนำความรู้นั้นไปปฏิบัติเฉพาะตนแอง คนกลุ่มนี้ก็มีความดี แต่ความดีของพวกน้อยกว่าคนกลุ่มแรก 

          ♥ ส่วนดินประเภทที่สาม คือดินที่ไม่เก็บน้ำ และพืชผักก็ไม่สามารถงอกเงยขึ้นมาได้ ก็เปรียบดั่งคนที่ความรู้และทางนำของอัลลอฮ์  ได้ถูกนำเสนอแก่เขา แต่เขาหันหลังให้ไม่สนใจที่จะเรียนรู้และทำความเข้าใจ และไม่นำความรู้ไปเผยแผ่ยังผู้อื่น คนกลุ่มนี้ถือว่าเป็นกลุ่มคนที่ไม่ดีและเป็นกลุ่มคนที่ขาดทุน

         ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮูอะลัยอิวะสัลลัม เปรียบเทียบความรู้ในศาสนานั้นเหมือนน้ำฝน ความเหมือนของมันทั้งสองก็คือ ฝนได้ให้ชีวิตชีวาแก่ผู้คน ปศุสัตว์พืชผัก เช่นเดียวกัน ความรู้ได้ให้ชีวิตชีวาแก่หัวใจ และนำไปสู่การรู้จักอัลลอฮฺ และการเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ และด้วยกับความรู้นั้นจะนำไปสู่หนทางที่สำเร็จของการมีชีวิตทั้งโลกนี้และโลกหน้า 

          ฉะนั้นรากฐานของความรู้ทุกอย่างต้องเริ่มต้นที่การเรียนรู้และทำความเข้าใจศาสนาเสียก่อน แล้วจึงเริ่มต้นเรียนรู้วิชาการด้านอื่นๆ เพื่อสามารถนำไปใช้ในชีวิตได้อย่างไม่หลงผิด เพราะหากเรามีความรู้เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับโลกนี้เพียงอย่างเดียว ก็คงได้ใช้และเอาประโยชน์เฉพาะการมีชีวิตในโลกนี้เท่านั้น  แต่หากเรามีความรู้ด้านศาสนาแน่นอนมันสามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งการมีชีวิตในโลกนี้และโลกหน้า

 


ขออัลลอฮฺ ได้ประทานความรู้ความเข้าใจในศาสนาและการยืนหยัดในศาสนาอันนี้ไปจนกระทั่งเราจะจากโลกใบนี้ไป....อามีน