หน้าที่ของนักเผยแผ่ศาสนา
เรียบเรียงโดย... อิสมาอีล กอเซ็ม
มวลการสรรเสริญเป็นเอกสิทธิ์ของอัลลอฮฺผู้อภิบาลแห่งสากลโลก
อัลลอฮฺอัซซะวะญัลลา ได้ส่งบรรดารอซูลของพระองค์มาเพื่อเรียกร้องผู้คนมาสู่แนวทางของอัลอิสลาม ก็คือเรียกร้องมาสู่ระบบอิสลาม ไม่ว่าจะเป็นในด้านความเชื่อ การปฏิบัติ การอยู่ร่วมกันของสังคมของมนุษย์
รอยต่อของบรรดารอซูลกับบรรดาประชาติในแต่ละยุคที่ทำหน้าที่นำคำสอนของอัลลอฮฺ ซุบหานาฮูวาตาอาลา ก็คือ บรรดาผู้ที่มีความรู้ บรรดานบีและรอซูลไม่มีมรดกใดๆ ทิ้งไว้นอกจากวิชาความรู้ ผู้รู้คือทายาทของบรรดานบี ในการสืบทอดความรู้และหลักการของอัลลอฮฺ ซึ่งเราจะพบอายะห์อัลกุรอานมากมายที่กล่าวยกย่องเกียรติของบรรดาผู้ที่มีความรู้
11 ]
"เพราะอัลลอฮฺจะทรงยกย่องเทอดเกียรติแก่บรรดาผู้ศรัทธาในหมู่พวกเจ้า และบรรดาผู้ได้รับความรู้หลายชั้น"
ดังนั้นบทบาทของนักเผยแผ่ศาสนามีความสำคัญมากในการเปลี่ยนแปลงสังคม หากคนที่มีความรู้ในหลักคำสอนของศาสนาไม่ทำหน้าที่ ก็เท่ากับว่าเขาได้ละเลยหน้าที่ของตัวเอง อัลลอฮ ได้ประทานความรู้ความเข้าใจในศาสนาของอัลลอฮฺก็เพื่อให้เขาทำหน้าที่เผยแผ่คำสอนของอัลลอฮฺ คนที่มีความรู้ถือว่าเป็นบุคคลที่ได้รับเกียรติการสืบทอดมรดกของบรรดานบีบรรดารอซูล ศ็อลลัลลอฮู อะลัยอิวะซัลลัม และการรับภาระในการเผยแผ่ศาสนาของอัลลอฮฺนั้นถือว่า เป็นงานที่มีความประเสริฐ
การทำหน้าที่ในการเรียกผู้คนมาสู่การศรัทธาและปฏิบัติตามหลักการของอัลลอฮฺนั้น มันไม่ใช่เป็นสิ่งที่ง่ายดาย จะต้องอาศัยความอดทน และการยืนหยัด ทั้งการยืนหยัดในการปฏิบัติตามหลักการของศาสนา และยืนหยัดในการทำการสอนสั่งคำสอนของศาสนาให้แก่ผู้คน ดังนั้นการมีจิตสำนึกในการรับใช้ศาสนาของอัลลอฮฺนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ การรับใช้ศาสนาของอัลลอฮฺ ต้องดำเนินต่อไปจนกว่าคนผู้นั้นจะจากโลกนี้
ผู้ใดที่อัลลอฮฺ ได้ประทานความรู้ ความเข้าใจในศาสนาของพระองค์เขาจะต้องทำหน้าที่ ของเขาให้สมบูรณ์แบบที่สุด ดังนั้นบรรดาผู้รู้คือผู้สืบทอดมรดกของท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลอฮูอะลัยอิวะสัลลัม แต่มรดกที่ว่านั้นไม่ใช้เงินทอง แต่เป็นมรดกทางความรู้
ท่านนบีศ็อลลัลลอฮูอะลัยอิวะสัลลัม กล่าวว่า
قول النبي صلى الله عليه وسلم : إن العلماء ورثة الأنبياء، إن الأنبياء لم يورثوا ديناراً ولا درهماً إنما ورثوا العلم فمن أخذه أخذ بحظ وافر. رواه الترمذي وغيره وصححه الألباني.
"แท้จริงบรรดาผู้รู้นั้น คือมรดกของบรรดานบี แท้จริงบรรดานบีไม่ได้ทิ้งมรดก ที่เป็นค่าเงินดีนาร หรือ ค่าเงินดิรฮัม
และพวกเขาได้ทิ้งมรดกความรู้ไว้ ดังนั้นใครได้เอาความรู้นั้น เขาก็ได้ส่วนแบ่งที่สมบูรณ์ "
บันทึกโดย อัตติรมีซีย์ และคนอื่นๆ และเชคอัลบานีย์ได้รับรองความถูกต้องของหะดีษนี้
นี่คือความประเสริฐและหน้าที่ของผู้รู้ ผู้รู้คือมรดกของบรรดานบีที่ถูกทิ้งไว้ ใครที่เข้าหาผู้ที่มีความรู้และเขาหาความรู้ เขาก็ได้รับส่วนแบ่งจากมรดกของท่านรอซูล ด้วยความสมบูรณ์แบบ และเช่นเดียวกันผู้รู้ที่ได้รับความรู้มานั้น เขาก็ต้องเดินตามแนวทางของบรรดานบี ในการเผยแผ่ความรู้ และนำความรู้มาใช้ในชีวิตประจำวัน และเป้าหมายของความรู้ของบรรดานบีก็คือ การเรียกร้องผู้คนมาสู่การเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ
หากจะแบ่งสภาพของผู้ที่ทำงานศาสนานั้นแบ่งออกได้ดังต่อไปนี้
1. นักเผยแผ่บางท่านเมื่อทำงานศาสนา ก็เกิดขัดแย้งกับนักเผยแผ่ท่านอื่น ในประเด็นหนึ่งประเด็นใดในเรื่องศาสนา เขาก็มาหมกหมุ่นอยู่กับการตอบโต้นักเผยแผ่คู่กรณีที่ขัดแย้งกัน และพยายามหาข้อไม่ดีของนักเผยแผ่คนนั้นมาตอบโต้เพื่อลดความน่าเชื่อถือ การเผยแผ่แบบนี้ไม่ได้เป็นการสร้างสรรค์อะไร
2. นักเผยแผ่บางท่านทำหน้าเผยแผ่สอนสั่งศาสนา แต่พอดุนยาเข้ามาหา เช่น มีหน้าที่การงานอื่น ที่ทำให้เขามีรายได้มีเงินทองมากมากกว่าการทำหน้าที่เผยแผ่ในเรื่องศาสนา เขาก็ละทิ้งงานเผยแผ่ศาสนา ไปหมกหมุ่นอยู่กับงานดุนยาเพียงอย่างเดียว ลักษณะนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ขาดทุน
3. นักเผยแผ่บางท่าน ทำหน้าที่เผยแผ่ศาสนาก็เพราะเป็นอิบาดะห์ที่เป็นคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ และเขาทำหน้าที่นี้เพราะปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ เขาก็ถือว่าทำหน้าที่ของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ
ดังนั้นภาระกิจผู้มีความรู้ต่อศาสนาเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เขาคือผู้สืบทอดหน้าที่ของบรรดานบี ที่ทำหน้าที่เรียกร้องผู้คนมาสู่ศาสนาของอัลลอฮฺ และความรู้ที่เขามีนั้นเป็นอามานะห์หน้าที่เขาต้องรับผิดชอบในความรู้ของเขา และเขาจะถูกสอบสวนจากความรู้และหน้าที่ที่เขาได้ถูกมอบหมาย หากผู้รู้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสมบูรณ์คำสอนของอิสลามคงจะกระจายไปยังผู้คนอย่างทั่วถึง
ขออัลลอฮไปโปรดประทานความสำเร็จให้แก่บรรดาผู้รู้ที่ทำหน้าที่รับใช้ศาสนาของอัลลอฮฺ และประทานความรู้ความเข้าใจให้แก่บรรดามุสลิม
อามีนญารอบบัลอาลามีน