ซินา ปัญหาที่มีทางแก้(หรือไม่แก้)
โดย ... อุมมุรอชิด
การผิดประเวณี หรือ ซินา เป็นปัญหาที่ใหญ่ยิ่งสำหรับสังคมทั่วโลก โดยเฉพาะสังคมมุสลิม เพราะการผิดประเวณี คือบาปใหญ่ และการผิดประเวณี จะนำมาซึ่งสิ่งเลวร้ายอย่างมากมาย อีกทั้งความลามกและความชั่วช้า ที่มีอย่างต่อเนื่องไม่มีวันสิ้นสุด และเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาต่างๆ ในสังคมปัจจุบัน ไม่เว้นแม้แต่สังคมมุสลิม
ในแต่ละสังคมจะมีมุมมองที่แตกต่างกัน ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง
- สังคมตะวันตก
ความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง ถือเป็นเรื่องที่ปกติ และการอยู่ด้วยกันโดยที่มิได้แต่งงานกันของชายหญิงในวัฒนธรรมตะวันตก ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล และเป็นการบ่งบอกถึงความอิสระ เสรีภาพ และประชาธิปไตย ที่หญิงชาย มีสิทธิมีเสียงเท่าเทียมกัน โดยไม่มีการแบ่งแยก และไม่คำนึงถึงศาสนา ประเพณี และศีลธรรมจรรยา และไม่คำนึงถึงบุคคลรอบข้างที่จะได้รับผลกระทบจากความสัมพันธ์ที่ผิดปกติเช่นนี้
- สังคมตะวันออก
ในสังคมตะวันออกมีขนบธรรมเนียมประเพณี รวมทั้งจารีตที่เคร่งครัดของบรรพบุรุษในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง ซึ่งในแต่ละกลุ่มชน แต่ละชนชาติก็จะแตกต่างกันบ้างในบางประการ แต่เรื่องหนึ่งที่สำคัญคือการอยู่กันก่อนการแต่งงานที่ถือว่าเป็นการผิดบาปอย่างร้ายแรง ของธรรมเนียมทางตะวันออก เช่น ประเพณีชาวจีน หญิงสาวที่ดีจะต้องไม่มีสัมพันธ์ก่อนการแต่งงาน ต้องเป็นหญิงที่บริสุทธิ์ การแต่งงานจะต้องมีแม่สื่อ เพื่อที่จะเลือกหญิงสาวที่ดี หรือบุรุษที่ดี เพื่อการสืบสกุลและการสร้างครอบครัวที่ดี และต้องคำนึงถึงเชื้อสายวงค์ตระกูล ศักดิ์ศรี เกียรติยศทางสังคม ฐานะและหน้าตา ซึ่งแต่ละส่วนจะต้องเหมาะสมด้วยกัน และถึงแม้ว่าหญิงหรือชายจะเป็นคนที่ไม่ดี แต่พวกเขาก็จะบอกแม่สื่อให้เลือกคนที่ดีมาเป็นคู่ครอง เพื่อเป็นแม่ของลูกเท่านั้น
เป็นที่น่าเศร้าเสียใจ ในสังคมมุสลิมยุคปัจจุบัน ที่หลักการศาสนาและความศรัทธาที่ยังมีไม่มากพอ ทำให้ไม่สามารถสกัดกั้นวัฒนธรรมตะวันตกได้ มุสลิมส่วนหนึ่งจึงกระทำบาปโดยไม่สนใจต่อบทลงโทษที่รุนแรง ไม่แคร์ต่อสายตาของผู้คน และไม่กลัวเกรงต่อการจ้องมองจากพระผู้เป็นเจ้าที่สูงส่งเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำกลับยังเพิ่มจำนวนของผู้ที่ทำบาปมากขึ้น และบาปที่หนักหนาสาหัสที่ตามมา คือ การทำแท้ง การฆ่าเด็กที่บริสุทธิ์ เด็กที่เกิดจากการทำซินาของชายหญิงที่มิได้แต่งงานกัน การผิดประเวณีของผู้เป็นพ่อและแม่แล้วโยนความผิดบาปนั้นให้กับลูกน้อย ที่เกิดมาจากความใคร่และกิเลสตัณหา และนั่นคือจุดเริ่มต้นของปัญหาสังคมอีกมากมายที่ตามมา
บาปที่เลวร้ายเช่นนี้ เป็นของทั้งผู้ที่กระทำ และผู้ร่วมกระทำ ที่มีส่วนรู้เห็นในความผิดบาป ปล่อยปละละเลยให้เกิดขึ้น โดยไม่สนใจ ไม่ตักเตือนซึ่งกันและกัน ซึ่งคงหนีไม่พ้นในกลุ่มชนเหล่านี้
1. ครอบครัว พ่อแม่ ที่มีส่วนในการเลี้ยงดู พ่อแม่ ที่ให้กำเนิดลูก การให้ความรัก เอาใจใส่ การอบรม การสั่งสอนในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม มารยาท ซึ่งเป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิตของลูกน้อย
2. เครือญาติ พี่น้อง ที่จะต้องตักเตือน สอดส่องดูแลลูกหลานในเรื่องที่ผิดปกติ และนำไปบอกกล่าวให้กับพ่อแม่ของเด็กได้รู้ถึงความบกพร่องหรือสิ่งผิดปกติที่ไม่ดีที่อาจจะเกิดขึ้นได้ หรือเกิดขึ้นแล้ว เพื่อดำเนินการแก้ไข หรือช่วยกันปรึกษาหารือเพื่อป้องกันสิ่งที่อาจจะเกิดขึึ้นต่อไป เพราะเครือญาติ จะเป็นเกราะป้องกันอีกขั้นหนึ่ง ที่จะช่วยดูแลให้เยาวชนไม่หลงผิด
3. เพื่อนบ้านใกล้เคียง ที่จะมีส่วนในการสอดส่องดูแลนอกบ้าน ฉะนั้นการเลือกเพื่อนบ้านที่ดีจะช่วยป้องกันความเลวร้ายที่อยู่รายรอบบ้านได้ และไม่ชักชวนให้ลูกของเรา ไปสู่สิ่งที่เลวร้าย
4. ครูบา อาจารย์ ที่มีหน้าที่ในการให้ความรู้ สั่งสอนในเรื่องของหลักการศาสนา อบรมด้านความศรัทธา ความยำเกรง การรู้จักอัลลอฮ์ ผู้ที่เป็นพระเจ้าสูงสุด ผู้ที่ให้คุณและให้โทษต่อการทำความดีและการทำบาป การอบรมสั่งสอนที่บกพร่องของครู จะทำให้เยาวชนไม่เกรงกลัวต่อบทลงโทษจากอัลลอฮ์ และทำให้ผู้ที่ผิดประเวณีต้องพบกับชีวิตที่ตกต่ำ และการขาดพร่องของริสกี เนื่องจากการฝ่าฝืนในสิ่งที่เป็นบาปใหญ่
5. ผู้นำชุมชน ผู้รู้ศาสนา ที่มีส่วนในการรู้เห็นการทำบาปของเยาวชน โดยการนิกะฮ์ที่ไม่มีวะลีย์รับรู้ ไม่มีครอบครัวรับรู้ และบางพื้นที่ผู้รู้ ผู้นำกลับเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ไม่ใส่ใจในการอยู่ก่อนแต่งของเยาวชนฉันท์สามีภรรยาโดยไม่ถูกต้องตามหลักการศาสนา ไม่ว่ากล่าวตักเตือน บางคนนิกะฮ์ให้โดยที่ไม่มีความรู้เพื่อหวังเงินเพียงเล็กน้อย การกระทำเหล่านี้ผู้นำชุมชน และผู้รู้ จะต้องรับผิดชอบต่อสังคม
การแก้ปัญหาขั้นพื้นฐานของเยาวชน ที่กำลังศึกษาเล่าเรียน และยังไม่พร้อมที่จะแต่งงาน เพราะการแต่งงานเป็นเรื่องที่สมควรคิดให้รอบครอบในทุกๆด้าน มิใช่แค่มิติของความต้องการทางเพศ แค่ความต้องการทางร่างกายจึงปลดเปลื้องความต้องการนั้น แต่จิตใจและการเตรียมพร้อมที่จะรับความรับผิดชอบ และผลที่จะตามมา ซึ่งยังไม่สามารถจะรับในสิ่งเหล่านั้นได้
ลูกที่ดีเกิดมาทั้งทีก็ต้องมีเวลาส่วนหนึ่งที่จะต้องตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ ก่อนที่จะออกเรือนเพื่อเลี้ยงดูภรรยาและครอบครัว เมื่อเล่าเรียนใช้เงินทองที่พ่อแม่หามาอย่างเหน็ดเหนื่อย บางคนยังไม่ทันเรียนจบหาภรรยามาให้พ่อแม่เลี้ยงดูเพิ่มขึ้นอีก เรียนจบก็ต้องหาเงินใช้หนี้ เลี้ยงดูภรรยา เลี้ยงดูลูกที่จะเกิดตามมา แต่ไม่เคยที่จะนึกถึงบุญคุณของพ่อแม่ ไม่เคยแม้แต่จะให้เงินพ่อแม่ ไม่เคยช่วยค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว ซ้ำร้ายยังมาทวงทรัพย์สมบัติ และหวังในมรดกที่จะให้พ่อแม่ทิ้งไว้ให้อีก พ่อแม่บางคนเลี้ยงลูกไม่รู้จักโต ไม่พอยังต้องเลี้ยงหลาน แม้จะเหน็ดเหนื่อยแต่พ่อแม่ คงมิกล้าบ่นหรือด่าว่า เพราะผลจากการเลี้ยงลูกแบบตามใจ จึงทำให้เหน็ดเหนื่อยไม่รู้จักจบจักสิ้นนั่นเอง
ฉะนั้นวิธีที่จะช่วยลดการผิดประเวณี หรือการระงับอารมณ์ใครก่อนที่จะถึงวัยอันควร มีดังนี้
1. การถือศีลอด เพราะท่านนะบีมุฮัมมัด ได้กล่าวไว้ว่า "การถือศีลอด จะช่วยยับยั้งอารมณ์ใครไฝ่ต่ำได้" ซึ่งการถือศีลอดจะช่วยยับยั้งความใคร่ได้ อีกทั้งทำให้ร่างกายอ่อนแรง ช่วยระงับอารมณ์ความรู้สึก มิให้พลุ่งพล่านได้
2. การใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยการเล่นกีฬา ทำกิจกรรมอาสาสมัคร ดำรงตนให้เป็นประโยชน์ มิให้มีเวลาว่างเพื่อไปหมกมุ่นอยู่กับสิ่งไร้สาระ การมองสิ่งที่ไร้สาระ การดูหนังละครที่ไร้สาระ หรือถูกชักนำไปในหนทางที่บกพร่อง
3. ช่วยพ่อแม่ทำงาน พ่อแม่ต้องให้ลูกได้รู้จักความเหนื่อยากในการหาเงิน เพื่อไม่ใช้ลูกใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่าย ลูกทุกคนต้องรู้จักอาชีพของพ่อแม่ เช่นพ่อแม่กรีดยางลูกก็ต้องกรีดยางเป็น พ่อแม่ค้าขายลูกก็ต้องค้าขายเป็น พ่อแม่ทำอาหารขายลูกก็ต้องทำอาหารเป็น พ่อแม่เป็นนักบัญชีลูกก็ต้องคำนวนเป็น พ่อแม่เป็นนักบรรยายศาสนาลูกก็ต้องเรียนรู้ศาสนาการพูดจาจากพ่อแม่ด้วย อย่างน้อยลูกไม้ก็ต้องหล่นใต้ต้นบ้าง มิเช่นนั้นลูกจะโตมาแบบที่เรียกว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน ไม่มีประสบการณ์จากพ่อแม่ให้ได้เป็นแบบอย่างที่ดี และการช่วยพ่อแม่ทำงานหรือไปดูพ่อแม่ทำงาน จะทำให้ลูกมีความใกล้ชิดพ่อแม่มากขึ้น ปัญหาเรื่องช่องว่างระหว่างวัยก็จะน้อยลง ทำให้ลูกกล้าที่จะปรึกษาพ่อแม่ในเรื่องต่างๆ มากขึ้น
4. การวางกรอบเป้าหมายอนาคตให้กับตนเอง เพื่อกระตุ้นเตือนให้มุ่งมั่นในมุมมองที่แตกต่าง ใช้เวลามาคิดวิเคราะห์ ประดิษฐ์และทดลองในสิ่งที่ตนเองอยากทำ และมองดูว่าวิธีใดจะเป็นประโยชน์กับตนเองและสังคมมากที่สุด ร่วมมือกันในหมู่เยาวชนในการแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น โดยไม่ผลักภาระให้กับสังคม หรือชุมชน หรือรัฐบาล เพราะจุดเริ่มต้นของปัญหาอยู่ที่บุคคลมิใช่องค์กรที่ไม่มีตัวตนในการรับผิดชอบ
5. ศึกษาภาษาต่างๆ โดยเฉพาะภาษาที่สามารถนำพาเราไปสู่ความรู้ได้ หนังสือที่มีมากที่สุดในโลก คือ หนังสือภาษาอังกฤษ การเรียนภาษาอังกฤษให้แตกฉาน มิใช่แค่งูๆ ปลาๆ จะทำให้เราค้นคว้าและศึกษาหาข้อมูลต่างๆ เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ซึ่งสามารถเปิดโลกทัศน์และมุมมองของเราให้หว้างไกลมากขึ้น และ การเรียนรู้ภาษาอาหรับ การอ่านหนังสือภาษาอาหรับได้จะนำพาเราเข้าสู่ความรู้ที่ถูกต้องและแท้จริง เป็นความรู้ที่บริสุทธิ์ และเป็นภาษาที่อัลลอฮ์ ทรงมอบไว้ให้ท่องจำจวบจนวันกิยามะฮ์
6. ไม่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ระหว่างชายหญิง ไม่หมกมุ่นอยู่กับการเลือกคู่ครอง หรือกลัวว่าตนเองจะไม่มีใครเอา เพราะอัลลอฮ์ ตรัสไว้ความว่า "หญิงดีคู่กับชายที่ดี ชายที่ดีคู่กับหญิงที่ดี" คำกล่าวนี้เป็นจริงเสมอ และตลอดไป ถ้าเราเป็นหญิงที่ดี รู้คุณค่าของตนเอง มีความศรัทธาในศาสนา มีศักดิ์ศรี หรือมีเกียรติ มีวงค์ตระกูล ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีผู้ชายที่ไหนไม่มอง หรือถ้าชายผู้นั้นเป็นคนดี มีศาสนาที่ดี มีการศึกษา มีความรับผิดชอบ มีศักดิ์ศรีวงค์ตระกูลที่ดี ก็จะมีแต่สาวๆ อยากได้เป็นคู่ครอง เมื่อทุกอย่างดีพร้อม ไม่ต้องวิ่งเข้าหาใคร จะมีแต่ผู้ใหญ่ที่พร้อมจะหาคนดีๆ ให้กับลูกหลานของพวกเขาทั้งนั้น
ฉะนั้นผู้หญิงที่ต้องวิ่งไล่จับผู้ชาย ก็จงตระหนักไว้ว่าเราขาดตกบกพร่องสิ่งใด ทำไมผู้ชายถึงไม่วิ่งเข้าหาเรา แต่เรากลับต้องวิ่งเข้าหาผู้ชาย ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจที่ผู้หญิงดีๆ จะไม่ทำกัน และผู้ชายก็ต้องตรวจสอบผู้หญิงที่วิ่งเข้าหาว่า สมควรจะเป็นแม่ของลูก หรือจะเป็นภรรยาที่ดีต่อไปในอนาคตได้หรือไม่
การผิดประเวณี หรือ ซินา จะไม่เกิดขึ้นถ้าทุกคนร่วมมือกันสร้างสรรค์สังคมให้เป็นสังคมที่คิดอย่างก้าวไกล ชีวิตในโลกนี้เป็นเพียงการละเล่นเป็นที่สนุกสนานร่าเริง สำหรับผู้ที่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องเพศ จ้องอยู่กับการแต่งงานทั้งๆที่ยังไม่สามารถที่จะรับผิดชอบสิ่งที่จะตามมาหลังจากแต่งงานได้ การแต่งงานมิใช่เป็นแค่การสนุกสนานร่าเริง มิใช่แค่การระงับอารมณ์ใคร่ แต่เป็นการสร้างประชาชาติที่ดี ประชาชาติที่สมบูรณ์พร้อมทั้งกาย ทั้งใจ พร้อมทั้งความรู้ ที่จะต่อสู้ในสังคมต่อไป ประชาชาติที่ดีจึงต้องเริ่มต้นจากเมล็ดพันธุ์ที่ดีเท่านั้น
แม้การนิกะฮ์ จะสามารถแก้ปัญหาซินาได้ แต่เมื่อนิกะฮ์ที่ไม่พร้อม ไม่สมบูรณ์ จะนำมาซึ่งปัญหาสังคมอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทางออกของความคิดทางอารมณ์ มีอยู่ 2 ทางเลือก คือ ไม่ลงล่างก็ขึ้นบน
- อารมณ์ลงล่าง หมายถึง ความคิดทางอารมณ์ ลงไปอยู่ที่อวัยวะเพศ ทำให้หมกมุ่นอยู่กับเรื่องทางเพศ ความใคร่ และตัณหา หาทางที่จะระบายความใคร่ ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็จะมองแต่เรื่องการระบายออกทางอารมณ์ บางคนจึงทำซินา การผิดประเวณี หรือละเมิดทางเพศต่อผู้อื่น หรือมุ่งมั่นแต่จะแต่งงานเพื่อให้อารมณ์ทางเพศที่มีอยู่ได้ดับไป โดยไม่สนใจความพร้อมของการมีครอบครัวในมิติอื่น
- ความคิดขึ้นบน หมายถึง ความคิดทางอารมณ์ขึ้นไปอยู่ที่สมอง ทำให้เกิดปัญญา ใช้ในการสร้างสรรค์ การวิเคราะห์ และพัฒนาสังคม ตกผลึกความคิดอยู่กับการช่วยเหลือสังคม คิดในสิ่งที่จะทำให้เกิดความแตกต่าง สร้างสรรค์อุปกรณ์ เสาะแสวงหาวิธีการที่แยบยลเพื่อการพัฒนาแนวทางที่จะทำให้เกิดแรงบันดาลใจ ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น แต่น่าเสียดายที่คนกลุ่มนี้มีอยู่น้อยมากในสังคมมุสลิม จึงทำให้เรามีแต่ปริมาณ เหมือนฟองคลื่นในทะเล แต่ไม่มีคุณภาพ หรือมีก็เพียงน้อยนิดเท่านั้น
ขอให้เยาวชนทั้งหลายเลือกทางเดินของอารมณ์ให้ถูกทาง ให้เป็นประโยชน์กับตนเองและสังคมให้มากที่สุด เพื่อที่พระองค์อัลลอฮ์ จะได้ประทานความจำเริญ ประทานทางนำให้กับตัวของท่านและครอบครัว และชุมชนของท่านให้ปลอดภัยจากการทำซินา การผิดประเวณีทั้งหลาย ทั้งระหว่างชายกับหญิง ชายกับชาย และ หญิงกับหญิง
ขอต่ออัลลอฮ์ ให้สิ่งชั่วร้าย และความลามก สกปรกเหล่านี้พ้นจากครอบครัวของเรา สังคมของเรา และชุมชนของเราด้วยเถิด
อามีนญารอบบัลอาลามีน