ความประทับใจ ในศาสนาอิสลาม
โดย... อาจารย์ มุนีร มูหะหมัด
ศาสนาอิสลามยังคงเป็นพลังที่ท้าทายบรรดานักบูรพาคดีเฉพาะอย่างยิ่งบรรดานักวิชาการที่พยายามวิเคราะห์ศาสนาอิสลามในแง่มุมทางประวัติศาสตร์ ทั้งนี้เนื่องจากพวกเขาประสบความล้มเหลวในการที่จะค้นหาจุดบกพร่องทางด้านหลักการศรัทธาเพื่อที่จะนำมาวิพากษ์วิจารณ์ เพื่อที่จะสร้างความเสียหายให้แก่ศาสนานี้ ดังนั้น บรรดานักพูรพาคดีจึงมุ่งเน้นไปในการค้นหาสาเหตุที่ทำให้ศาสนาอิสลามเเพร่หลายไปอย่างรวดเร็ว
โดยที่มีผู้เข้านับถือศาสนาอิสลามอย่างมากมาย ซึ่งเริ่มตั้งเเต่คาบสมุทรอาหรับ แล้วเเพร่กระจายออกไปในโลกภายนอก ซึ่งอยู่ภายใต้อิทธิพลของอาณาจักรเปอร์เซีย (ผู้บูชาไฟ) ทางภาคตะวันออก ส่วนดินแดนทางตอนเหนือ และทางภาคตะวันตกของคาบสมุทรอาหรับนั้นตกอยู่ในอำนาจของอาณาจักรโรมัน คริสเตียน สิ่งที่นักบูรพาคดี มุ่งเน้นในการศึกษาของพวกเขาคือ สาเหตุทางสังคม และทางเศรษฐกิจ อะไร ? คือ ปัจจัยดึงดูดผู้ที่นับถือศาสนาต่างๆ หันเข้ามานับถือศาสนาอิสลาม
ถ้าหากว่าเราหันมาพิจารณาดูปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจที่ล่อใจให้หลายๆคนเข้านับถือศาสนาอิสลามแล้ว คงเป็นไปได้ยากเพราะว่าเศรษฐกิจในคาบสมุทรอาหรับในสมัยนั้น ไม่มีความเจริญรุ่งเรือง และมีความมั่งคั่งน้อย ถ้านำไปเปรียบเทียบกับเศรษฐกิจในอาณาจักรเปอร์เซีย และอาณาจักรโรมัน เพราะมีบุคคลจำนวนน้อยที่มีฐานมั่งคั่งระดับมหาเศรษฐี ทั้งนี้เนื่องจากการประกอบอาชีพทางการค้าขายยังอยู่ในบางกลุ่มชน ส่วนอาชีพทางเกษตรกรรม และอุตสาหกรรมนั้น เกือบจะไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะคาบสมุทรอาหรับเป็นดินเเดนที่แห้งแล้วเต็มไปด้วยท้องทุ่งทะเลทราย ปริมาณฝนตกมีน้อยมากในหนึ่งปี การเพราะปลูกจึงทำได้ยาก นอกจากในบริเวณเเหล่งน้ำบางเเห่งในท้องทุ่งทะเลทรายที่เรียกว่า โอเอซิส (oasis) เกษตรกรในคาบสทุทรอาหรับจึงเป็นไปในรูป ผู้เลี้ยงสัตว์ ซึ่งเร่ร่อนไปในสถานที่ต่างๆ เพื่อหาเเหล่งน้ำและทุ่งหญ้าเล็กๆ
ดังนั้น การที่ศาสนาอิสลามสามารถดึงดูดจิตใจของประชาชนให้มานับถือศาสนานี้ คือ การยกเลิกการจ่ายดอกเบี้ย ซึ่งเเพร่หลายอยู่ในสังคมสมัยนั้น กับการกระจายรายได้ การเเบ่งสรรปันส่วนทรัพย์ การช่วยเหลือเกื้อกูลแก่ผู้ด้อยฐานะ ในรูปของการจ่ายซะกาต การบริจาคทาน การร่วมลงทุนในการประกอบธุรกิจ
สำหรับปัจจัยทางด้านสังคมที่อิสลามนำเสนอ มีส่วนค่อนข้างชัดเจนที่ดึงดูดจิตใจของประชาชนทั้งหลายให้เข้านับถือศาสนาอิสลาม เพราะว่าสังคมในคาบสมุทรอาหรับ และของโลกสมัยนั้น ตั้งอยู่บนระบบอำนาจนิยม ปราศจากความยุติธรรม ผู้ที่มีอำนาจก็กดขี่ผู้ด้อยอำนาจ บรรดาสตรีไม่มีฐานะเช่นใดนอกจากจะเป็นสิ่งบำเรอความใคร่ และความสนุกสนานของผู้ชาย ความถูกต้องนั้นขึ้นอยู่กับอำนาจอิทธิพลทั้งสิ้น เช่นกับคำพูดที่ว่า Might is right (อำนาจ คือ ความถูกต้อง)
เมื่ออิสลามปรากฏแก่ชาวโลกก็ได้ลบล้างความอธรรม การใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกต้อง พร้อมกับดำรงความเป็นธรรม โดยถือว่า ทุกคนมีฐานะเท่าเทียมกัน ในการเป็นมนุษย์ ไม่ว่าเขาจะเป็นเศรษฐี หรือยาจก เป็นกษัตริย์หรือสามัญชน ผู้ที่เป็นนายหรือ ผู้ที่เป็นบ่าวรับใช้ อิสลามได้ยกย่องสตรีในฐานะที่เป็นเพศเเม่ เกียรติสูงสุดของบุคคลขึ้นอยู่กับการมีความตั๊กวา (ยำเกรง) อัลลอฮฺ เท่านั้น
ด้วยความดีงามที่มีอยู่ในศาสนาอิสลาม ซึ่งมีความเพรียบพร้อมสมบูรณ์ จึงทำให้ผู้ที่มีความอิจฉาริษยา และมีใจอคติต่อศาสนาอิสลาม และมุสลิมไม่อาจจะหาเหตุมาโจมตีใส่ไคล้ต่ออิสลามได้ จึงหันมาใช้วิธีการที่สกปรกโสมมโดยการกล่าวหา และใส่ร้ายว่า อิสลามเผยเเพร่ไปด้วยการทำสงคราม จึงทำให้ศาสนานี้เเพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว เเต่ในที่สุด ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ก็ได้ถูกนำมาเปิดเผยว่า ไม่มีหลักฐานใดๆ บ่งชี้ว่า มุสลิมใช้สงครามเป็นเครื่องมือในการเผยเเพร่ศาสนาอิสลาม
เเต่ตรงกันข้ามกลับพบว่า บรรดาจักรวรรดินิยม และพวกล่าอาณานิคมตะวันตก นั่นเองเป็นผู่้ที่ทำสงคราม เพื่อเผยเเพร่ศาสนา
สิ่งที่ปรากฏชัดเจนในปัจจุบันคือ การฉกฉวยโอกาสของจักรวรรดินิยมอเมริกา และอังกฤษที่บุกเข้ายึดครองอิรัก ได้ฉกฉวยโอกาสในการเผยเเพร่ศาสนาท่ามกลางหมู่ชนมุสลิมอิรักที่ประสบกับความอดอยาก
และความพยายามในการเผยเเพร่ศาสนาเข้าไปในพื้นที่บนเกาะสุมาตรา ท่ามกลางความอเนจอนาถใจของบรรดามุสลิมที่ได้ประสบกับความทุกข์ยาก เนื่องจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ....
วารสาร สันติสุขสาร มูลนิธิชี้นำสู่สันติสุข