ภัยพิบัติและเคราะห์กรรม
โดย… อาจารย์ อัชร็อฟ ทับทิม
ท่านพี่น้องที่เคารพ ช่วงเวลาอันมีค่ายิ่งนี้ ในขณะที่เราต่างนั่งฟังคุตบะห์ ในขณะที่เราต่างนั่งคอยที่จะละหมาดญุมอัตร่วมกัน มาเถิดพี่น้อง เรามาร่วมกันมอบกายมอบใจของเราถวายต่ออัลลอฮฺ เรามาร่วมระลึกถึงอัลลอฮฺกันให้มากๆ เรามาร่วมสารภาพความผิดพลาด และความไม่จริงจังของเราที่ผ่านมา ในการแสดงความจงรักภักดีต่ออัลลอฮฺ เนื่องจากการรำลึกถึงอัลลอฮฺมากๆนั้นจะทำให้จิตใจเราสงบ และทำให้สมองของเราคิดแต่ในสิ่งที่ดีๆ ซึ่งผลที่ตามมาก็คือ จะทำให้เราสามารถเข้าใจเจตนาต่างๆของอัลลอฮฺ จะทำให้เราสำนึกถึงเป้าหมายของการมีชีวิตของเราบนพื้นแผ่นดินนี้
พี่น้องครับ ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่อัลลอฮฺสร้างและพระองค์เป็นเจ้าของ ที่แท้จริง พระองค์เป็นผู้สร้าง ทรงดูแลเป็นอย่างดี มีระบบ ดังที่อัลลอฮฺกล่าวว่า
الذي خلق سبع سماوات طباقا ما ترى في خلق الرحمن من تفاوت فارجع البصر هل ترى من فطور {الملك:3}
“ผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งเจ็ดเป็นชั้นๆ ซึ่งเจ้าจะไม่มีวันพบเห็นความไม่สมดุลแต่อย่างใดในการสร้างของพระองค์ผู้ทรงกรุณาปราณี
ดังนั้นเจ้าจงหันกลับมองดูซิ เจ้าเห็นรอยร้าวหรือช่องโหว่บ้างไหม”
(67:3)
บนโลกที่สวยงามและกว้างใหญ่ไพศาลนี้ มนุษย์เราคือสิ่งถูกสร้างชนิดหนึ่งซึ่งมีเกียรติ พูดได้ และคิดเป็น ร่วมใช้ชีวิตกับสิ่งถูกสร้างอื่นๆ ที่ อัลลอฮฺ ทรงสร้างขึ้น อาทิเช่น มะลาอีกะฮ์ ญิน สัตว์ และ พืช อัลลอฮฺ ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมาเพื่อให้ใช้ชีวิตอย่างมีศรัทธาต่อพระองค์ ทำอิบาดะห์ต่อพระองค์ ทำดีต่อมนุษย์ด้วยกัน และสร้างสรรค์โลกนี้ให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น มิใช่เพื่อตั้งภาคีต่อพระองค์ มิใช่เพื่อทรยศต่อต้านพระองค์ มิใช่เพื่อเข่นฆ่ามนุษย์ด้วยกัน และมิใช่เพื่อมาสร้างความเสียหายทำลายโลกนี้ แต่ทว่ามนุษย์บนโลกนี้มีมนุษย์มากมายหลายประเภท
* มีบางกลุ่มที่คิดได้ รู้สึกอยู่ตลอดเวลา พวกเขาจึงมีความศรัทธาต่อ อัลลอฮฺ และมุ่งทำแต่ความดี
* มีบางกลุ่มที่ไม่เคยคิดไม่เคยรู้สึก พวกเขาจึงไม่รู้จัก อัลลอฮฺ ไม่ศรัทธาต่อ อัลลอฮฺ และมุ่งทำแต่ความชั่ว
* มีบางกลุ่ม ที่รำลึกถึง อัลลอฮฺ อยู่เสมอ และมุ่งทำแต่ อิบาดะห์ เพื่อแสดงความจงรักภัคดี
* มีบางกลุ่มที่ลืม อัลลอฮฺ ชั่วขณะ แต่สักพักหนึ่งก็หวนกลับมาระลึกถึง อัลลอฮฺได้เช่นเดิม
* มีบางกลุ่มที่ลืม อัลลอฮฺ ลืมเลย และยังคงลืมตลอด หลงลืมอยู่กับชีวิตที่สุขสบาย หลงลืมอยู่กับความเก่งกล้าสามารถของตน หรือหลงลืมอยู่กับอำนาจ
นอกจาก อัลลอฮฺ จะประทาน เนี๊ยะมัต และ เราะห์มัต ต่อคนเราอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแล้ว บางครั้ง อัลลอฮฺ อาจให้ภัยพิบัติหรือความทุกข์ต่อคนเราได้เช่นกัน ทั้งนี้เพื่อให้สำนึกได้ว่า อย่าหยิ่งทะนง อย่าทระนง อย่าลืมในทุกสิ่งที่ อัลลอฮฺ ประทานให้แก่เรา ความจริงแล้ว เราะห์มัต ของ อัลลอฮฺ นั้นมีมากมาย มีตลอดเวลา ครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง ในขณะที่ภัยพิบัตินั้น เกิดขึ้นเพียงบางคราวเท่านั้น ดังที่ อัลกุรอ่าน กล่าวว่า
قال عذابي أصيب به من أشاء و رحمتي وسعت كل شيء فساكتبها للذين يتقون ويؤتون الزكاة والذين هم بآياتنا يؤمنون {الأعراف:156}
“การลงโทษของเรานั้นมักจะประสบกับผู้ที่เราประสงค์ แต่ทว่าความเมตตาปรานีของเรานั้นกว้างขวางทั่วทุกสิ่ง
ซึ่งเราจะกำหนดให้แก่บรรดาผู้ที่ยำเกรงต่อเรา และผู้ที่ชำระซะกาต และแก่บรรดาผู้ศรัทธาต่อโองการทั้งหมดของเรา”
ท่านพี่น้องครับ ภัยพิบัติต่างๆที่มนุษย์บนโลกนี้ประสบเจอนับจากมนุษย์คนแรกจนถึงมนุษย์ในปัจจุบัน ล้วนแล้วเป็นสิ่งที่ อัลลอฮฺ กำหนดให้มันเกิดขึ้น และมันต้องเกิดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อัลลอฮฺ ตรัสว่า
ما أصاب من مصيبة في الارض ولا في أنفسكم إلا في كتاب من قبل أن نبرأها إن ذلك يسير لكيلا تأسوا علي ما فاتكم ولا تفرحوا بما آتاكم والله لا يحب كل مختال فخور {الحديد:22،23}
“ไม่มีเคราะห์กรรมใดที่เกิดขึ้นบนโลกนี้และไม่มีแม้แต่ที่เกิดขึ้นกับตัวเจ้าเอง เว้นแต่ได้มีบันทึกกำหนดไว้ ก่อนที่เราจะบังเกิดมันขึ้นมา ทั้งๆที่แท้จริงแล้ว มันเป็นสิ่งง่ายสำหรับ อัลลอฮฺ ที่จะบังเกิดมันขึ้นมา
ที่เราอธิบายมานี้ก็เพื่อที่จะให้เจ้าอย่าได้รู้สึกเสียใจที่ได้สูญเสียไปจากพวกเจ้า และอย่าได้รู้สึกดีใจต่อสิ่งที่พระองค์ประทานให้พวกเจ้าและอัลลอฮฺ มิทรงชอบผู้ที่หยิ่งจองหองและผู้ที่คุยโอ้อวด”
(57 : 22-23)
ภัยพิบัติและเคราะห์กรรมที่ อัลลอฮฺ ให้ประสบกับมนุษย์ที่ทรยศ และละเมิดคำสั่งของพระองค์ในยุคก่อนๆ ซึ่งภัยพิบัติและเคราะห์กรรมที่ อัลลอฮฺ ส่งลงมานั้นมีหลายรูปแบบด้วยกัน อาจมาในรูปของลมพายุ น้ำท่วม อากาศหนาวจัด แผ่นดินไหว แผ่นดินแยก ต่างๆนานา หรืออาจเป็นดินถล่มฝังผู้คน เหมือนอย่างที่ได้ลงโทษชนชาว นบีลูฏ มาแล้ว หรือเคราะห์กรรมที่ อัลลอฮฺ ลงโทษชาว กุเรช ที่ต่อต้านการเผยแผ่ศาสนาของพระองค์ จนในที่สุดพวกเขาก็ถูกฆ่าและพ่ายแพ้ในสงครามตลอดมา
เคราะห์กรรมหรือภัยพิบัติเช่นนี้ ปกติแล้วจะประสบกับมนุษย์ที่ละเมิดคำสั่งสอนของ ร่อซู้ล ของพวกเขา หยิ่งผยอง ถือตัว โอหัง อย่างสุดๆ สำหรับภัยพิบัติหรือเคราะห์กรรมที่ อัลลอฮฺ ได้ส่งมาตราบจนถึงวันนี้ก็เช่นเดียวกัน ซึ่งจุดประสงค์หลักของภัยพิบัตินั้นคือ การลงโทษผู้ที่ก่อการชั่วและเพื่อเป็นบทเรียนต่อชนรุ่นหลังต่อไป
ท่านพี่น้องครับ เคราะห์กรรมและภัยพิบัติที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นนั้น อาจมีบางคนคิดว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำหรือรอยบาปที่มนุษย์ก่อขึ้น ที่พวกเขากล่าวเช่นนี้ก็เพื่อแก้ต่างในความผิด หรือเป็นความพยายามที่จะยืนยันถึงความบริสุทธิ์ของมนุษย์ ภายใต้สโลแกนที่ว่า “มนุษย์มีอิสระ มนุษย์สามารถทำอะไรก็ได้ที่เขาต้องการทำ ที่เขาพอใจจะทำ ภัยพิบัติหรือเคราะห์กรรมต่างๆนั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำของมนุษย์เลย” แต่สำหรับพวกเราผู้มีความศรัทธาต่อ อัลลอฮฺ มีความเชื่อว่าภัยพิบัติหรือการทดสอบที่เกิดขึ้นกับมนุษย์นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับความผิดและรอยบาปที่มนุษย์ได้กระทำลงไป ดังที่ อัลลอฮฺ อธิบายเกี่ยวกับการกระทำของมนุษย์ว่า
ظهر الفساد في البر و البحر بما كسبت أيدي الناس ليذيقهم بعض الذي عملوا لعلهم يرحعون {الروم : 41}
“ความเสียหายได้เกิดขึ้นทั้งบนบก และในน้ำเป็นผลจากน้ำมือของมนุษย์
เพื่อที่พระองค์จะให้พวกเขาได้ลิ้มรสในบางส่วนที่พวกเขาได้ก่อไว้ โดยหวังที่จะให้พวกเขากลับเนื้อกลับตัว”
(30:41)
ท่านพี่น้องครับ จงยำเกรงต่อ อัลลอฮฺ และจงรู้เถิดว่าภัยพิบัติหรือเคราะห์กรรมต่างๆที่มนุษย์ประสบนั้นมีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับการกระทำของมนุษย์เอง เนื่องจากการกระทำใดที่แสดงถึงความภักดีต่อ อัลลอฮฺ นั้นก็จะได้รับการตอบแทนที่ดี
พวกเราชาวมุสลิมมีความเชื่อว่า การตอบแทนของ อัลลอฮฺ สำหรับมนุษย์ในโลกนี้นั้นเป็นความผิดหรือรอยบาปที่มนุษย์เป็นคนก่อขึ้นเอง ที่เราเชื่ออย่างนี้ก็เพราะว่า เราศรัทธามั่นในอายะห์ ต่างๆที่ อัลลอฮฺ กล่าวไว้เช่นกัน
1.อัลลอฮฺ ตรัสว่า
وما كان ربك مهلك القري حتي يبعث في أمها رسولا يتلو عليهم آياتنا وما كنا مهلكى القرى إلا وأهلها ظالمون {القصص : 59}
“และพระเจ้าของท่านมิได้เป็นผู้ทำลายเมืองต่างๆจนกว่าพระองค์จะแต่งตั้ง ร่อซู้ล ส่งไปยังเมืองเหล่านั้น
โดยอธิบายโองการทั้งหลายของเราแก่พวกเขา และเรามิได้เป็นผู้ทำลายเมืองต่างๆ เว้นแต่ชาวเมืองนั้นเป็นพวกอธรรม”
(28:59)
2.อัลลอฮฺ ตรัสว่า
وماكان الله ليعذبهم و انت فيهم وما كان الله معذبهم وهم يتتغفرون {الانفال :33}
“และ อัลลอฮฺ จะไม่ลงโทษพวกเขาในขณะที่เจ้า (โอ้ มูฮัมมัด) อยู่ในกลุ่มพวกเขา และ อัลลอฮฺ จะไม่ลงโทษพวกเขาในขณะที่พวกเขาจะขออภัยโทษกัน”
(8:33)
ซึ่งก็หมายความว่า อัลลอฮฺ จะไม่ลงโทษหรือลงภัยพิบัติต่อพวกเขา ตราบใดที่พวกเขายังยกมือขอดุอาอฺ และขออภัยโทษต่อ อัลลอฮฺ หรืออีกข้อความหนึ่งที่ว่า เมืองใดก็ตามที่ชาวเมืองมุสลิมที่ดี ย่อมจะปลอดภัยจากภัยพิบัติและเคราะห์กรรมต่างๆ ดังที่ อัลลอฮฺ ตรัสว่า
و ماكان ربك ليهلك القري بظلم و أهلها مصلحون
“และพระเจ้าของเจ้าจะไม่ทำลายหมู่บ้านหนึ่งหมู่บ้านใดโดยอยุติธรรม โดยที่ชาวบ้านนั้นเป็นผู้ทำดี”
ส่วนหนึ่งจากภัยพิบัติและเคราะห์กรรมที่ อัลลอฮฺ ส่งลงมาให้ประชาชาติอิสลามในสมัยนี้ คือการรบราฆ่าฟันกันเอง จนต้องมีคนล้มตายกันจำนวนไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นคนดีหรือคนชั่ว
คุตบะห์วันศุกร์ ณ มัสยิดท่าอิฐ