ใครนะ...คือผู้สร้าง ?
  จำนวนคนเข้าชม  7306

ใครนะ...?  คือผู้สร้าง ...?

          พี่น้องที่รัก และมีเกรียติทุกท่าน... เราทุกคนได้ทราบถึง ความงาม และ ความพิสดาร ที่แฝงเร้น ซ่อนอยู่ในธรรมชาติ ซึ่งทุกครั้งที่เราได้พินิจ พิจารณา เราจะพบสิ่งใหม่ๆ ที่ทำให้ต้องใช้สติปัญญาทั้งหมดคิด แต่แล้วทุกครั้งเราต้องประหลาดใจ ประทับใจและเป็นปริศนาให้ชวนคิดทุกครั้งไป

         ในครั้งนี้เราจะติดตามกันต่อไป เพื่อค้นหาให้ทราบถึงความพิสดารต่างๆที่เราต้องประทับใจและต้องใช้ปัญญาที่มีอยู่เพื่อครุ่นคิด พิจารณา

         1. กำเนิดมนุษย์กับอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า....  

เพื่อนมนุษย์ พี่น้องร่วมโลกทั้งหลาย... ท่านเคยถามตัวเองไหมว่า...?

ใครนะ.....! ที่สร้างมนุษย์ให้มองเห็น ด้วยกระจกเลนส์สายตา..? ให้ได้ยินด้วยใบหูที่กางผึ่งเหมือนเรดาร์...? ให้ได้พูดด้วยลิ้นที่อ่อนนุ่ม และไร้กระดูก...?

ใครนะ.....!   ที่ออกแบบรูปทรงของมนุษย์ และติดตั้งอวัยวะต่างๆ อย่างเป็นระบบในทุกๆคนเหมือนกันหมด แต่..โลกทั้งโลกกลับไม่มีมนุษย์ที่เหมือนกันเลยแม้แต่คู่ฝาแฝดที่เป็นสุดยอดของความเหมือน ก็ยังมีข้อแตกต่างที่สามารถแยกแยะออกว่าใครเป็นใครได้...?

ใครนะ.....!   ที่ทะนุถนอมดูแลทารกตอนอยู่ในท้องแม่จากสภาพที่เป็นเพียงน้ำอสุจิ จนเจริญเติบโตกลายเป็นทารกที่มีอวัยวะครบถ้วน หลับตื่น ดื่ม กิน โดดดิ้นไปมา จนกระทั่งเมื่อครบกำหนดก็อำลาจากท้องแม่ เพื่อโดดออกมาสู่โลกกว้างในที่สุด...?

ใครนะ.....!    ที่สอนทารกน้อยแรกเกิดให้รู้จักวิธีการดูดนมจากเต้าอกแม่ และเตรียมนมอันโอชะในเต้านมให้เต็มเพื่อให้ทารกน้อยได้ดื่มเพื่อมีชีวิตรอดต่อไป...?

     ครับ.....!   การที่เรามีสภาพเดียวกันหมดทั้งโลก ในสิ่งเหล่านี้มันไม่ได้บอกถึงการมีผู้สร้างองค์เดียวกันดอกหรือ.....?

         2. ฟากฟ้าและแผ่นดินร่วมกันเป็นสักขี พยาน ยืนยันบ่งบอกถึงการสรรค์สร้างอันละเอียดอ่อน วิจิตบรรจง ของพระผู้เป็นเจ้า ผู้สร้างมันขึ้นมา

พี่น้องครับ.....ในฐานะที่เราเป็นมนุษย์ผู้มีสติปัญญาสมบูรณ์และมีชีวิตอยู่เพียงครั้งเดียวในโลกนี้ สมควรอย่างยิ่งที่เราจะต้องใช้สติปัญญา ทบทวนตั้งคำถาม ถามตนเองว่า......

ใครนะ.....!  ที่ปูพื้นแผ่นดินให้ราบเรียบ จนเราสามารถตั้งถิ่นฐาน ปลูกสร้างที่อยู่อาศัย...?

ใครนะ.....!  ที่สร้างท้องฟ้าให้เป็นหลังคา โดยไม่มีเสามาค้ำยัน และไม่มีร่องรอยการตอกแม้แต่รูเดียว...?

ใครนะ.....!  ที่ประดับประดาท้องฟ้าด้วยหมู่ดวงดาวที่สวยงามระยิบระยับ แข่งกันทอแสงแพรวพราวมอบความสุข ชื่นตาชื่นใจแก่มนุษย์โลก อีกทั้งยังเป็นป้ายบอกทางเมื่อยามหลงทางท่ามกลางความมืดมิดของกลางคืน หรือเมื่อล่องลอยอยู่ในทะเลกว้าง อีกทั้งเป็นสัญญาณในการบอกวัน เดือน ปี เพื่อใช้ในการคำนวณต่างๆ...?

ใครนะ.....!  ที่วางสายน้ำ ลำคลองครอบคลุมให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่...?

ใครนะ.....!  ที่โปรยฝนชะโลมลงบนพื้นแผ่นดิน แล้วส่งพืชพันธุ์หลากสีสัน หลากกลิ่น หลากรสชาด หลากหลายคุณค่าออกจากรอยแยกของพื้นดิน...?

ใครนะ.....!  ที่ออกแบบเหล่าต้นไม้และวัชพืช ทำให้เกิดเกสรตัวผู้ตัวเมียและบัญชาแมลงทั้งหลายให้มาช่วยในการผสมพันธ์ เหล่าดอกไม้นั้น...?

ใครนะ.....!  ที่จัดแจงห่อหุ้มผลไม้หลากแบบหลากสี ห่อทุเรียนอันอ่อนนุ่มด้วยหนามหนาที่แหลมคม ห่อสะตอด้วยเปลือกยาวเป็นแคปซูล ห่อเงาะอันหวานหอมด้วยเปลือกสีสันอันสดใส ห่อองุ่นด้วยเปลือกอันบางใสและมีสีสันอันงดงาม...?

ใครนะ.....!  ที่สร้างระบบความดันไว้ในน้ำ ทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม จนเรือที่กว้างใหญ่ และน้ำหนักที่มากหลาย สามารถลอยอยู่ได้โดยไม่จม...?

ใครนะ.....!  ที่ทำให้ลมสงบได้เคลื่อนไหว และทำให้ลมที่เคลื่อนไหวสงบลง...?

ใครนะ.....!  ที่เหนี่ยวรั้งเมฆที่หนักอึ้งด้วยน้ำฝน ให้สามารถล่องลอยอยู่บนอากาศโดยไม่ตกสู่พื้นดิน...?

ใครนะ.....!  ที่เอาความชุ่มชื้นในฤดูฝนใส่เข้าสู่ความแห้งแล้งในฤดูร้อน และเปลี่ยนความหนาวเย็นในฤดูหนาวเป็นความอบอุ่นในฤดูร้อน...?

ใครนะ.....!  ที่เอาไก่ออกจากไข่ และเอาไข่ออกจากไก่...?

ใครนะ.....!  ที่แต่งตั้งมนุษย์ให้เป็นผู้บัญชามนุษย์ด้วยกันบนแผ่นดิน...? ให้ช้างลากซุง ให้ควายไว้ไถนา ให้ม้าไว้ขับขี่  ให้หมาไว้เฝ้าบ้าน  ให้ลาบรรทุกสิ่งของ ให้นกให้เป็นไปรษณีย์ ให้ลิงขึ้นต้นมะพร้าว  ให้ไส้เดือนไว้พรวนดิน  ให้แพะไว้บริการนม ให้ไก่เป็นยามขันกู่เตือนเวลา...? และ..ยิ่งไปกว่านั้น มีอีกหลายอย่างที่น่าทึ่ง สำหรับคนที่มีปัญญาต้องคิดทบทวน อย่างต้นหม่อนที่ปลูกมากในภาคเหนือเวลาตัวหนอนกินแล้วจะสร้างเป็นรังไหม...? ผึ้งกินจะออกเป็นน้ำผึง..? แพะกินจะออกมาเป็นน้ำนม.?  

ครับ..... น่าคิดไหมครับ...หากทุกสิ่งที่เกิดขึ้นโดยปราศจากผู้ควบคุมแล้ว แน่นอนมันจะต้องแปรรูปออกมาเป็นสิงที่มีสีและสภาพเดียวกันหมด...?

         3. ความมืด ความสว่าง ดวงอาทิตย์ ดวงดาว ร่วมเป็นสักขีพยาน บ่งชี้ถึงการสร้างสรรค์ของพระผู้เป็นเจ้า..

ใครนะ.....!  ที่สร้างกลางคืนให้มืดมิด และสร้างกลางวันให้โปร่งสว่าง..?

ใครนะ.....!  ที่บัญชากลางวันและกลางคืนร่วมมือกันเพื่อให้มนุษย์ได้รับผลประโยชน์จากมัน..?

ใครนะ.....!  ที่บังคับให้ดวงอาทิตย์โผล่ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตก หากดวงอาทิตย์ไม่โผล่ขึ้นมาแน่นนอนกิจการทุกอย่างของมนุษย์จะต้องหยุดลงและล่มสลายไปหมดสิ้น และเช่นกันหากดวงอาทิตย์คงอยู่โดยไม่ยอมลับขอบฟ้า ค้างสว่างจ้าตลอดเวลา มนุษย์ทั้งโลกก็ไม่สามารถพักผ่อนนอนหลับได้ และต้องพินาศล้มตายไปในที่สุด...แต่พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงกรุณาปรานีไม่ทรงปราถนาเช่นนั้น

พี่น้องครับ.....เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว เราก็จะตอบได้แล้วใช่ไหมว่า..

มันเป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาดที่โลกนี้จะเกิดขึ้นเองโดยไม่มีผู้สร้าง

เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน... เพราะอะไรนะหรือ..? เพราะถ้าหากโลกใบนี้สร้างตัวมันเองขึ้นมา การสร้างของมันจะต้องอยู่บนสองสมมุติฐานดังต่อไปนี้เท่านั้น

     สมมุติฐานที่หนึ่ง... มันไม่ได้เกิดขึ้นมาโดยตัวของมันเอง

     สมมุติฐานที่สอง... มันเกิดขึ้นมาโดยตัวของมันเอง

ครับ..พี่น้องที่รัก.. ตามสมมุติฐานที่หนึ่ง การที่โลกจะสร้างตัวมันเองขึ้นมาโดยที่มันยังไม่ได้เกิดขึ้นนั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะสิงที่ไม่มีจะสร้างสิ่งที่มีให้เกิดขึ้นได้อย่างไร และสิ่งที่มีนั้นจะต้องถูกสร้างโดยผู้ที่มีอำนาจ ผู้ทรงรอบรู้ในการสร้างสรรค์เท่านั้น หรือ สมมุติฐานต่ออีกว่า หากสิ่งที่ไม่มีความสามารถสร้างสิ่งต่างๆขึ้นมาได้ แน่นอนเช่นอยู่ๆก็มีบ้านหลังหนึ่งเกิดขึ้นมาโดยไม่มีใครสร้าง เกิดถนนลาดยางชั่วพริบตา โดยไม่มีผู้วางโครงการ เกิดเด็กทารกโดยไม่มีแม่คลอด ร้องคลานเต็มไปทั่วหมู่บ้าน..มันจะเป็นไปได้กระนั้นหรือ...?

ตามสมมุติฐานที่สอง คือมันมีอยู่แล้วตอนที่มันสร้างตัวมันเอง ก็เป็นไปไม่ได้อีกเช่นกัน เพราะเมื่อมันมีอยู่แล้วเหตุผลอะไรที่มันจะสร้างสิ่งต่างๆเพิ่มขึ้นมาอีก...? และนักวิทยาศาสตร์ก็ย้ำว่า โลกนี้แต่ก่อนมันไม่มี แต่มันเพิ่งมี แน่นอนพระผู้เป็นเจ้า(อัลลอฮ์) เท่านั้นที่ยิ่งใหญ่

          พี่น้องร่วมสายเลือดมนุษย์ ที่รัก... สิ่งต่างๆ ที่กล่าวมานี้ต่างได้บ่งบอกถึงการสร้างของพระผู้เป็นเจ้า ทรงรอบรู้ ทรงมีอำนาจ ทรงความเกรียงไกร และที่เป็นพยานสำคัญในการยืนยัน พระองค์นั้นคือผู้สร้าง เพราะอะไรนะหรือ..?

        เพราะว่าไม่มีสิ่งใดหรือมนุษย์หน้าไหนทั่วโลกที่อ้างตนว่าคือผู้สร้างโลกขึ้นมา ทั้งๆที่เราก็ได้ทราบมาแล้วว่ามันเกิดขึ้นเองไม่ได้ มาซิ...มาดูว่าพระเจ้าได้กล่าวเป็นหลักฐานไว้อย่างไรใน คัมภีร์อัลกุรอาน ถึงการสร้างมนุษย์..

" และขอสาบานว่า แน่นอนข้าได้สร้างมนุษย์(คนแรก) มาจากธาตุแท้ของดิน แล้วข้าทำให้เขาเป็นเชื้ออสุจิ อยู่ในที่พักอันมั่นคง คือมดลูก และข้าได้ทำให้เชื้ออสุจิกลายเป็นก้อนเลือด แล้วข้าได้ทำให้ก้อนเลือด เป็นก้อนนื้อ แล้วข้าได้ทำให้ก้อนเนื้อกลายเป็นกระดูก แล้วข้าหุ้มกระดูกนั้นด้วยเนื้อ แล้วข้าได้เป่าวิญญาณให้เขากลายเป็นอีกรูปร่างหนึ่ง ดังนั้นอัลลอฮ์ ทรงจำเริญยิ่ง ผู้ทรงเลิศแห่งปวงผู้สร้าง "

ซูเราะฮ์ อัลมุมินูน : 12-14

" และข้าได้ให้น้ำฝนลงมาจากฟากฟ้า แล้วด้วยน้ำนั้นเราได้ให้งอกเงยออกมาเป็นสวนอันหลากหลาย และเมล็ดพืช สำหรับเก็บเกี่ยว "

ซูเราะฮ์ ก็อฟ : 9

" และพระองค์ทรงให้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เป็นประโยชน์แก่พวกเจ้า โดยโคจรเป็นปกติ และทรงให้กลางคืนและกลางวันเป็นประโยชน์แก่พวกเจ้า "

ซูเราะฮ์ อิบรอฮิม : 33

" อัลลอฮ์ คือผู้ทรงสร้างทุกสิ่ง และพระองค์เป็นผู้ทรงดูแลและคุ้มครองทุกสิ่ง "

ซูเราะฮ์ ซุมัร : 62

     ครับพี่น้องที่รัก...หลังจากที่ท่านได้รู้อย่างนี้แล้ว ยังจะมีข้อเคลือบแคลงใดๆอีกหรือ ...ว่าพระองค์คือผู้สร้างโลกนี้จริง..

     ครับ...พระองค์นั้นคือผู้สร้าง และทุกอย่างจะต้องกลับคืนสู่พระองค์

     ดังนั้น...ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากเราต้องศรัทธา และยึดมั่นต่อ "ผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง" พร้อมทั้งต้องดำเนินชีวิตตามแนวทางของพระองค์ และแน่นอนเราจะพบกับความสุขที่แท้จริงทั้งในโลกนี้ และโลกหน้าอย่างแน่นอน

ขอให้ท่านมีแต่ความสันติสุข และโชคดี โดยได้พบทางนำที่ถูกต้อง