ความยุติธรรมของอัลลอฮ์
อ. อับดุลเราะมัน เจะอารง
บทบัญญัติของพระองค์อัลลอฮ์ ทุกประการมีเหตุเพื่อสนองผลประโยชน์ของมนุษย์บนโลกนี้ บทบัญญัติอิสลามตั้งอยู่บนพื้นฐานของความสมดุล ความสมดุลนี้หมายถึง
1. การเคารพภักดีต่อพระองค์อัลลอฮ์ องค์เดียวอย่างเคร่งครัดและสม่ำเสมอด้วยจิตใจที่เปี่ยมด้วยความรัก
2. ยับยั้งจากการกระทำความชั่วจากข้อห้ามของศาสนา ที่สร้างความเสียหายแก่ตนเองและสังคม ทั้งในที่เปิดเผยและในที่ลับ
3. หลีกเลี่ยงการกระทำอธรรมต่อตนเองและผู้อื่น โดยเจตนากระทำ หรือเข้าใจผิด เหตุผลก็เพราะว่า การเคารพภักดีและการนอบน้อมของมนุษย์ต่อพระองค์อัลลอฮ์ จะไม่เพิ่มพูนความยิ่งใหญ่ของพระองค์และการฝ่าฝืนของมนุษย์ต่อคำสั่งของพระองค์จะไม่ทำให้ฐานะของพระองค์อัลลฮ์ ลดน้อยลง พระองค์ยิ่งใหญ่อยู่ตลอดเวลา
มนุษย์ทุกคนจะได้พบกับความยุติธรรมและความเที่ยงตรงของพระองค์ในการตอบแทนคุณงามความดีและการกำหนดบทลงโทษ พระองค์ทรงได้สัญญากับบ่าวของพระองค์ในหลาย ๆอายะฮ์อัล-กุรอาน เช่นในอายะฮ์
وَنَضَعُ الْمَوَازِينَ الْقِسْطَ لِيَوْمِ الْقِيَامَةِ فَلَا تُظْلَمُ نَفْسٌ شَيْئًا وَإِن كَانَ مِثْقَالَ حَبَّةٍ مِّنْ خَرْدَلٍ أَتَيْنَا بِهَا وَكَفَى بِنَا حَاسِبِينَ (الأنبياء/47)
“และเราตั้งตราชูที่เที่ยงธรรมสำหรับวันกิยามะฮ์(เพื่อตรวจสอบการงานของแต่ละคน)
ดังนั้นจะไม่มีชีวิตใดถูกอธรรมแต่อย่างใดเลย(คือ ความดีจะไม่ถูกลด และความชั่วจะไม่ถูกเพิ่ม)
และแม้ว่ามันเป็นเพียงน้ำหนักเท่าเมล็ดพืชเล็ก เราก็จะนำมันมาแสดง และเป็นการพอเพียงแล้วสำหรับเราที่เป็นผู้ชำระสอบสวน”
และในอีกอายะฮ์หนึ่งพระองค์ได้ตรัสไว้ว่า
وَوُضِعَ الْكِتَابُ فَتَرَى الْمُجْرِمِينَ مُشْفِقِينَ مِمَّا فِيهِ وَيَقُولُونَ يَا وَيْلَتَنَا مَالِ هَذَا الْكِتَابِ لَا يُغَادِرُ صَغِيرَةً وَلَا كَبِيرَةً إِلَّا أَحْصَاهَا وَوَجَدُوا مَا عَمِلُوا حَاضِرًا وَلَا يَظْلِمُ رَبُّكَ أَحَدًا (الكهف/49)
“และบันทึกจะถูกวางไว้ ดังนั้น เจ้าจะเห็นผู้กระทำผิดทั้งหลายหวั่นกลัวสิ่งที่มีอยู่ในบันทึก
และพวกเขาจะกล่าวว่า โอ้ความวิบัติของเราเอ๋ย! บันทึกอะไรกันนี่ มันมิได้ละเว้นสิ่งเล็กน้อยและสิ่งใหญ่โตเลย เว้นแต่ได้บันทึกไว้ครบถ้วน
และพวกเขาได้พบสิ่งที่พวกเขาได้ปฏิบัติไว้ปรากฏอยู่ต่อหน้าและพระผู้เป็นเจ้าของเจ้ามิทรงอธรรมต่อผู้ใดเลย”
สิ่งที่มนุษย์จะได้เจอหลังจากเสียชีวิตแล้ว คือ ผลงานความดีที่ได้สะสมไว้ตั้งแต่วัยหนุ่มจนเสียชีวิตทั้งด้านการศรัทธาและการปฏิบัติซึ่งสอดคล้องกับความจริงที่ท่านเราะสูล ได้เตือนมนุษย์มาหลายพันปีมาแล้ว
يتْبَعُ الميِّتَ ثلاثٌ : أهلُه ومالُه وعملُه ، فيرجِعُ اثْنانِ ويبقَى واحدٌ ، يرجِعُ أهلُه ومالُه ويبْقَى عملُه (رواه البخاري (6514) ومسلم (2960)
“จะติดตามผู้เสียชีวิตไป 3 ประการ คือสมาชิกในครอบครัว ทรัพย์สินและการงานของเขา
โดยที่ 2 ประการจะกลับหลัง คือสมาชิกในครอบครัวและทรัพย์สินของเขา
และสิ่งที่จะติดตามเขาไป คือ การงานของเขา”
มีหะดีษกุดสีย์อีกหะดีษหนึ่งที่อธิบายสภาพของมนุษย์ในวันโลกหน้าได้ดี คือหะดีษที่รายงานว่า
عنْ أَبِيْ ذَرٍّ الغِفَارِيِّ رَضِيَ اللهُ عَنْهُ عَنِ النَّبِيِّ فِيْمَا يَرْوِيْهِ عَنْ رَبِّهِ عَزَّ وَجَلَّ أّنَّهُ قَالَ :
"يَا عِبَادِي إِنِّيْ حَرَّمْتُ الظُّلْمَ عَلَى نَفْسِيْ وَجَعَلْتُهُ بَيْنَكُمْ مُحَرَّماً فَلَا تَظَالَمُوْا .
يَا عِبَادِي كُلُّكُمْ ضَالٌّ إِلاَّ مَنْ هَدَيْتُهُ فَاسْتَهْدُوْنِيْ أَهْدِكُمْ .
يَا عِبَادِي كُلُّكُمْ جَائِعٌ إِلاَّ مَنْ أَطْعَمْتُهُ فَاسْتَطْعِمُوْنِيْ اُطْعِمْكُمْ .
يَا عِبَادِي كُلُّكُمْ عَارٍ إِلاَّ مَنْ كَسَوْتُهُ فَاسْتَكْسُوْنِيْ أَكْسِكُمْ .
يَا عِبَادِي إِنَّكُمْ تُخْطِئُوْنَ بِالْلَّيْلِ وَالنَّهَارِ وَأَنَا أَغْفِرُ الذُّنُوْبَ جَمِيْعاً فَاسْتَغْفِرُوْنِيْ أَغْفِرْ لَكُمْ .
يَا عِبَادِي إِنَّكُمْ لَنْ تَبْلُغُوْا ضَرِّي فَتَضُرُّوْنِيْ وَلَنْ تَبْلُغُوْا نَفْعِيْ فَتَنْفَعُوْنِيْ .
يَا عِبَادِي لَوْ أَنَّ أَوَّلَكُمْ وَآخِرَكُمْ وَإِنْسَكُمْ وَجِنَّكُمْ كَانُوْاعَلَى أَتْقَى قَلْبِ رَجُلٍ وَاحِدٍ مِنْكُمْ مَا زَادَ ذَلِكَ فِيْ مُلْكِيْ شَيْئاً . يَا عِبَادِي لَوْ أَنَّ أَوَّلَكُمْ وَآخِرَكُمْ وَإِنْسَكُمْ وَجِنَّكُمْ كَانُوْاعَلَى أَفْجَرِ قَلْبِ رَجُلٍ وَاحِدٍ مِنْكُمْ مَا نَقَصَ ذَلِكَ مِنْ مُلْكِيْ شَيْئاً .
يَا عِبَادِي لَوْ أَنَّ أَوَّلَكُمْ وَآخِرَكُمْ وَإِنْسَكُمْ وَجِنَّكُمْ قَامُوْا فِيْ صَعِيْدٍ وَاحِدٍ فَسَأَلُوْنِيْ فَأَعْطَيْتُ كُلَّ وَاحِدٍ مَسْأَلَتَهُ مَا نَقَصَ ذَلِكَ مِمَّا عِنْدِيْ إِلاَّ كَمَا يَنْقُصُ المَخِيْطُ إِذَا اُدْخِلَ البَحْرَ .
يَا عِبَادِي إِنَّمَا هِيَ أَعْمَالُكُمْ اُحْصِيْهَا لَكُمْ ثُمَّ اُوَفِّيْكُمْ إِيَّاهَا فَمَنْ وَجَدَ خَيْراً فَلْيَحْمَدِ اللهَ وَمَنْ وَجَدَ غَيْرَ ذَلِكَ فَلَا يَلُوْمَنَّ إِلَّا نَفْسَهُ " (رَوَاهُ مُسْلِمٌ/2577)
จากท่านอบี ซัรฺ อัล-ฆิฟารีย์ เราะฎิยัลลอฮฺอันฮุ จากท่านนบี ดังที่ท่านได้รายงานมาจากพระผู้อภิบาล อัลลอฮฺ อัซซะวะญัล พระองค์ได้ตรัสว่า:
♦ โอ้ปวงบ่าวของข้า! แท้จริงข้าห้ามการอยุติธรรมแก่ตัวข้าเอง และข้าก็ทำให้มันเป็นที่ต้องห้ามแต่พวกเจ้าด้วย ดังนั้นสูเจ้าจงอย่าได้อยุติธรรมต่อกัน
♦ โอ้ปวงบ่าวของข้า! พวกเจ้าทั้งหมดเป็นผู้หลงผิด นอกจากผู้ที่ข้าได้นำทางให้แก่เขา ดังนั้นพวกเจ้าจงขอทางนำจากข้า แน่นอนข้าย่อมชี้นำทางแก่พวกเจ้า
♦ โอ้ปวงบ่าวของข้า! พวกเจ้าทั้งหมดเป็นผู้หิวโหย นอกจากผู้ที่ข้าได้ประทานอาหารให้แก่เขา ดังนั้นพวกเจ้าจงขอเครื่องบริโภคจากข้า แน่นอนข้าย่อมประทานเครื่องบริโภคให้แก่พวกเจ้า
♦ โอ้ปวงบ่าวของข้า! พวกเจ้านั้นเปลือยเปล่า นอกจากผู้ที่ข้าประทานอาภรณ์แก่เขา ดังนั้นพวกเจ้าจงขอเครื่องอาภรณ์จากข้า แน่นอนข้าย่อมประทานเครื่องนุ่งห่มแก่พวกเจ้า
♦ โอ้ปวงบ่าวของข้า! แท้จริงพวกเจ้าทุกคนกระทำผิดทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน และข้าให้อภัยโทษต่อบาปทั้งหลาย ดังนั้นพวกเจ้าจงขออภัยโทษจากข้า ข้าย่อมประทานการอภัยโทษแก่พวกเจ้า
♦ โอ้ปวงบ่าวของข้า! แท้จริงพวกเจ้ามิอาจนำภัยมาถึงข้าจนเป็นภัยต่อข้าได้ และพวกเจ้ามิอาจนำคุณประโยชน์มาถึงข้าจนเป็นคุณประโยชน์ต่อข้าได้เช่นกัน
♦ โอ้ปวงบ่าวของข้า! หากแม้นตั้งแต่คนแรกของพวกเจ้าจนถึงคนสุดท้าย ทั้งเหล่ามนุษย์และญิน ต่างมีความยำเกรงเหมือนกับชายคนหนึ่งที่มีหัวใจยำเกรงมากที่สุดแล้วไซร้ มันก็มิได้ช่วยให้เพิ่มอำนาจแก่ข้าประการใด
♦ โอ้ปวงบ่าวของข้า! หากแม้นตั้งแต่คนแรกของพวกเจ้าจนถึงคนสุดท้าย ทั้งเหล่ามนุษย์และญิน ต่างมีความเลวทรามเหมือนกับชายคนหนึ่งที่มีหัวใจเลวทรามมากที่สุดแล้วไซร้ มันก็มิได้บั่นทอนอำนาจของข้าแต่ประการใด
♦ โอ้ปวงบ่าวของข้า! หากแม้นตั้งแต่คนแรกของพวกเจ้าจนถึงคนสุดท้าย ทั้งเหล่ามนุษย์และญิน ต่างได้วิงวอนขอต่อข้าในคราวเดียวกันหมดทุกคน และข้าก็ได้ประทานให้ทุกอย่างตามที่พวกเขาขอแล้วไซร้ มันก็มิได้ทำให้สิ่งที่ข้ามีอยู่ลดลงแต่ประการใด นอกจากเสมือนการที่เข็มทำให้น้ำทะเลลดลงเมื่อเอามันจุ่มลงไป
♦ โอ้ปวงบ่าวของข้า! แท้จริง นั่นคือกิจการงานของพวกเจ้าที่ข้าได้คิดคำนวณแก่พวกเจ้า หลังจากนั้นข้าจะตอบแทนมันอย่างสมบูรณ์
ดังนั้นใครก็ตามที่ได้พบกับสิ่งดีๆ(ผลบุญและความโปรดปราน) เขาก็จงขอบคุณอัลลอฮฺ และหากใครก็ตามที่พบอื่นนอกจากนี้เขาก็อย่าตำหนิใครอื่นนอกจากตัวเขาเอง”