การเข้าหาอัลกุรอาน
  จำนวนคนเข้าชม  7938

การเข้าหาอัลกุรอาน 
 

วิธียืนหยัดให้ม่ันคงในศาสนาของอัลลอฮฺ


 

มุหัมมัด ศอลิหฺ อัล-มุนัจญิด


 

วิธียืนหยัดเพื่อการยืนที่มั่นคง(ในดีนของอลัลอฮ์)
 

 

          ส่วนหน่ึงจากความเมตตาของอัลลอฮฺ ตะอาลา ท่ีประทานให้แก่เราทั้งหลายนั่น คือ พระองค์ทรงชี้แจงแก่เราใน คัมภีร์อันมีเกียรติของพระองค์และผ่านคำสั่งสอนของท่านเราะสูลลุลอฮฺ  ที่ให้ข้อชี้นำในวิธีการสู่การยืนหยัดเพ่ือการยืนท่ีมั่นคง ซ่ึงข้าพเจ้าขอนําเสนอแก่ผู้อ่านที่มีเกียรติทุกท่านเพียงบางส่วนเท่านั้นดังมีเนื้อหาต่อไปนี้

 

 

หน่ึง การเข้าหาอัลกุรอาน

 

          อัลกรุอาน ถือเป็นแนวทางท่ีสําคัญระดับต้นๆท่ีจะช่วย ในการยืนหยัดอย่างมั่นคง เปรียบเสมือนสายเชือกของอัลลอฮฺ ท่ีเกลียวแน่น เป็นรัศมีเจิดจรัส ซึ่งใครที่ยึดมั่นด้วยสิ่งนี้แล้ว อัลลอฮฺก็จะทรงคุ้มครองเขาอย่างแน่นอน ในทํานองเดียวกัน ใครที่ปฏิบัติตามสิ่งนี้ อัลลอฮฺก็จะให้เขาประสบกับความปลอดภัย และหากใครท่ีเรียกร้องไปสู่ส่ิงนี้อัลลอฮฺก็จะทรงชี้นำเขาไปสู่แนวทางท่ีเท่ียงตรง

 

          อัลลอฮฺทรงชี้แจงเหตุผลท่ีพระองค์ทรงประทานอัลกุรอานโดยการทยอยประทานลงมาตามสภาพการณ์และความเหมาะสม ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดความหนักแน่นม่ันคงแก่หัวใจ ดังที่อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงตอบโต้บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาท่ีสร้างความคลุมเครือในเร่ืองนี้ว่า

 “และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธากล่าวว่า ทำไมอัลกุรอานจึงไม่ถูกประทานลงมาแก่เขาครั้งดียวกันทั้งหมด ?

เช่นนั้นแหละ เพ่ือเราจะทำให้หัวใจของเจ้าหนักแน่น ม่ันคง และเราได้จัดการอ่านมันให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

และพวกเขาจะไม่นําข้อเปรียบเทียบ (ข้อสงสัย)ใดๆ มายังเจ้า เว้นแต่เราจะได้นําความจริง และการอธิบายท่ีดีย่ิงมาทดแทนให้เจ้า   (ได้ตอบโต้พวกเขา) ” 

(สูเราะฮฺ อัล-ฟุรฺกอน : 32-33)

ด้วยเหตุอันใด อัลกุรอานจึงเป็นบ่อเกิดท่ีทําให้มีสภาพของการยืนหยัดอย่างม่ันคงได้ ?

          ♣ เนื่องจากอัลกุรอานสามารถเพิ่มพูนความศรัทธาและขดัเกลาจิตใจให้มีความสัมพันธ์กับอัลลอฮฺได้

          ♣ เนื่องจากโองการอัลกุรอานท่ีถูกประทานลงมานั้นสามารถนําความช่มุฉ่ําและและสร้างความปลอดภัยให้แก่หัวใจของผู้ศรัทธา รวมไปถึงกระแสแห่งความชั่วร้ายต่าง ๆ ก็ไม่สามารถท่ีจะทําลายมันได้ อีกทั้งส่งผลให้หัวใจเกิดความสงบสุข

          ♣ เนื่องจากอัลกุรอานทําให้มุสลิมมีต้นทุนด้านวิสัยทัศน์และหลักเกณฑ์ที่ถูกต้องในการใช้ประเมินสภาพการณ์ที่จะเกิดขึ้น  รวมถึงทําให้มีมาตรวัดสําหรับใช้ในการตัดสินเรื่องราวต่าง ๆ ไม่ให้สับสนและเกิดข้อผิดพลาด อีกทั้งจะไม่ทําให้คําพูดของเขาขัดแย้งกันเอง ไม่ว่าสถานการณ์และตัวบุคคลท่ีต้องเจอจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตามที

          ♣ เนื่องจากอัลกุรอานสามารถตอบโต้ข้อสงสัยต่างๆ ท่ีถูกกุขึ้นโดยเหล่าศัตรูของอิสลามจากบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา และผู้กลับกลอก ดังตัวอย่างท่ีเคยเกิดขึ้นมาแล้วในยุคสมัยของชนรุ่นแรกของอิสลาม(ยุคสมัยของบรรดาเศาะหาบะฮฺ เราะฎยิลัลอฮุอันฮุม ) ดังเช่น


1. อะไรคือผลสะท้อนจากคําตรัสของอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลล์ ที่ว่า

“พระเจ้าของเจ้ามิได้ทรงทอดทิ้งเจ้า และมิได้ทรงโกรธเคืองเจ้า”
 

(สเูราะฮฺอัฎ -ฎุหา:3)

        ท่ีได้เกิดขึ้นต่อจิตใจของท่านเราะสลูลุลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม  ครั้งเม่ือหมู่ชนผู้ตั้งภาคีได้กล่าวแก่ท่านว่า “มุหัมมัด ถูกทอดทิ้งไปแล้ว”

 (ดูในหนังสือเศาะฮีหฺ มุสลิม พร้อมบทอธิบายโดยท่านอิมาม อัน-นะวะวีย์ 12/156)


 

2. อะไรคือผลสะท้อนจากคําตรัสของอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลล์ ที่ว่า

“ภาษาท่ีพวกเขากล่าวหาพาดพิงไปถึงนั้นเป็น ภาษาต่างถ่ิน แต่น่ี(อัลกุรอาน)เป็นภาษาอาหรับท่ีชัดเจนยิ่ง ” 
 

(สูเราะฮฺ อัน-นะหฺลุ : 103)

          ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อครั้งท่ีหมู่ชนผู้ปฏิเสธศรัทธาเผ่ากุร็อยชฺกล่าวหาว่า ท่านเราะสูลลุลอฮฺ นั้นได้รับการอบรมสั่งสอนจากมนุษย์ด้วยกันเอง และท่านได้รับอัลกุรอานจากชายซึ่งเป็นช่างไม้ชาวโรมันที่มักกะฮฺ


 

3. อะไรคือผลสะท้อนจากคําตรัสของอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลลา ที่ว่า

“พึงทราบเถิดว่า พวกเขา(พวกมุนาฟิก)ได้ตกอยู่ในความช่ัวแต่เดิมแล้ว”

(สูเราะฮฺอัต-เตาบะฮฺ:49)

     ซ่ึงมันเกิดขึ้นในจิตใจของผู้ศรัทธา ในครั้งท่ีหมู่ชนผู้กลับกลอกได้กล่าวว่า

 “จงอนุมัติแก่ฉันเถิด(พํานักอยู่ในเมืองโดยไม่ ต้องออกไปร่วมสงคราม) และอย่าให้ฉันต้องตกอยู่ใน ความช่ัวเลย”

(สเูราะฮฺอัต-เตาบะฮฺ:49)

          โองการอัลกุรอานเหล่านี้มิได้ทําให้เกิดสภาพของการ ยืนหยัดอย่างมั่นคงดอกหรือ ? มิได้ร้อยเรียงดวงใจของผู้ศรัทธา ให้รวมเป็นหนึ่ง และมิได้เป็นข้อหักล้างที่ดีย่ิงต่อส่ิงท่ีคลุมเครือทั้งหลาย อีกทั้งยังมิได้เป็นส่ิงท่ีสามารถสยบบรรดาหมู่ชนผู้บิดเบือนต่าง ๆ กระนั้นหรือ ? ทว่ามันย่อมสร้างความหนักแน่น มั่นคงได้อย่างแน่นอน ขอสาบานด้วยพระผู้อภิบาลของข้าพระองค์

         มีเร่ืองที่น่าแปลกประหลาดอีกเร่ืองหน่ึงก็คือ เหตกุารณ์ ที่อัลลอฮฺทรงให้สัญญาแก่บรรดาผู้ศรัทธา ภายหลังจากที่พวกเขาได้กลับมาจาก อัล-หุดัยบิยะฮฺ ว่าจะมอบทรัพย์เชลยอันมากมายในการทําสงคราม(คือทรัพย์เชลยในสงครามคอยบัร) โดยท่ีพระองค์จะทรงรีบมอบให้กับผู้ศรัทธา และผู้ที่ร่วมสงคราม โดยท่ีจะมีเฉพาะผู้ศรัทธาเท่านั้นซึ่งบรรดามุนาฟิกผู้กลับกลอก ทั้งหลายก็จะขอเข้าร่วมในการทําสงครามกับพวกเขาด้วย 

     แต่บรรดาผู้ศรัทธาได้กล่าวแก่พวกมุนาฟิกว่า “พวกเจ้าไม่อาจที่จะตามพวกเราออกไปทําสงครามได้โดยเด็ดขาด”

     แต่พวกมุนาฟิกก็พยายามขอออกไปให้ได้ เพื่อที่จะเปล่ียนแปลงคําตรัสของอัลลอฮ์ ไม่ให้เกิดจริงตามที่พระองค์ทรงสัญญาไว้แก่บรรดาผู้ศรัทธา

     พวกเขาจึงกล่าวแก่บรรดาผู้ศรัทธาว่า “แท้จริง (ที่พวกเจ้าไม่ยอมให้เราออกไป)เพราะพวกเจ้าอิจฉาต่อพวกเราต่างหากล่ะ ” 

     อัลลอฮฺทรงตอบโต้พวกเขาว่า “แต่พวกเขาไม่ได้เข้าใจ นอกจากเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ” 

     ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวที่อัลลอฮฺตรัสไว้ล่วงหน้า นั้นได้เกิดขึ้น จริงต่อหน้าผู้ศรัทธาทุกคนแบบทีละขั้น ทีละตอน ก้าวต่อก้าว คําต่อคํา โดยปราศจากความผิดเพี้ยนแม้แต่ประการเดียว

 

         ณ ท่ีนี้เอง เราสามารถเห็นได้ชัดถึงความแตกต่าง ระหว่างสภาพของผู้ที่ชีวิตของเขามีความผูกพันธ์อยู่กับอัลกรุอาน อย่างหนักแน่นไม่ว่า จะด้วยการอ่าน การท่องจํา การศึกษาและ ใคร่ครวญกับสภาพของผู้ที่เอาคําพูดของมนษุย์เป็นที่ตั้ง และจดจ่ออยู่กับอัลกุรอานเพียงอย่างเดียว

         เป็นส่ิงที่สมควรอย่างย่ิง สําหรับผู้ท่ีแสวงหาความรู้ ทั้งหลาย ท่ีจักต้องแบ่งส่วนในการศึกษาอัลกุรอานและ ความหมายให้มีส่วนที่มากเพียงพอในวิถีการแสวงหาความรู้ของพวกเขา


 

 

แปลโดย : แวมูฮัมหมัดซาบรี แวยะโก๊ะ / islamhouse