วิธียืนหยัดให้ม่ันคงในศาสนาของอัลลอฮฺ
มุหัมมัด ศอลิหฺ อัล-มุนัจญิด
มวลการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ เราขอสรรเสริญต่อพระองค์ เราขอความช่วยเหลือต่อพระองค์ เราขออภัยโทษต่อพระองค์ และเราขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺ ให้รอดพ้นจากความชั่วร้ายของตนเอง และจากความผิดพลาดที่เกิดจากการงานท่ีเราได้กระทํา
ผู้ใดก็ตามท่ีพระองค์ทรงให้ทางนําแก่เขาก็ไม่มีผู้ใดท่ีทําให้เขาหลงทางได้และผู้ใดก็ตามท่ีพระองค์ทรงให้เขาหลงทางก็ไม่มีใครสามารถทําให้เขาได้รับทางนํา เราขอปฏิญาณว่าไมม่ ีพระเจ้าอ่ืนใดนอกจากอลัลอฮฺเพียงพระองค์เดียวเท่านั้นโดยท่ีไม่มีภาคีใดๆต่อพระองค์และเราขอปฏิญาณตนว่า แท้จริงมุหัมมัดนั้นเป็นบ่าวและศาสนทูตของพระองค์
อน่ึง การยืนหยัดให้มีความหนักแน่นม่ันคงอยู่ในศาสนาของอัลลอฮฺนั้นถือเป็นพื้นฐานสําคัญที่พึงมีในตัวของบรรดาผู้ศรัทธาท่ีมีความจริงใจและต้องการดํารงอยู้ในแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยความแน่วแน่และได้รับการชี้นำ
ความสำคัญของประเด็น นี้สามารถที่จะกล่าวถึงได้ดังต่อไปนี้:-
♥ - สภาพของสังคมที่มสุลิมอาศัย อยู่ในปัจจุบันนั้นต้อง เผชิญกับบททดสอบและสิ่งเย้ายวนนานัปการที่ปลุกเร้าพวกเขา (ให้หันเหออกจากแนวทางท่ีเท่ียงตรง) และเนื่องด้วยอารมณ์ ปรารถนากอปรกับส่ิงท่ีสร้างความคลุมเครือมากมายอันเป็น เหตใุห้ศาสนาได้กลายเป็นส่ิงแปลกใหม่ซึ่งส่งผลให้ผู้ที่ยึดมั่นในศาสนาอย่างหนักแน่นมั่นคงนั้นกลับกลายเป็นคนแปลกหน้า ในสายตาของสังคม ดังที่ถูกเปรียบไว้อย่างน่าฉงนว่า
“ผู้ท่ียึดม่ันในศาสนา(อย่างหนักแน่นม่ันคง) ประหน่ึงผู้ที่กำลังกำถ่านไฟอันร้อนระอุ"
ไม่มีข้อสงสัยใดสําหรับผู้ที่มีสติปัญญาใคร่ครวญทั้งหลายว่าบรรดาผู้ศรัทธาในยุคปัจจุบันนี้มีความจําเป็นอย่างยิ่งท่ีจะต้องศึกษาวิธียืนหยัดเพ่ือการยืนท่ีม่ันคง(ในดีนของอัลลอฮฺ)มากกว่าพ่ีน้องผู้ศรัทธาในช่วงยุคแรก ๆ ของอิสลามเสียอีก และการฟันฝ่าให้ได้มาซึ่ง การยืนหยัดนั้นถือเป็นงานท่ีต้องทุ่มเทมากกว่ายุคก่อน เนื่องจากสภาพอันเสื่อมโทรมของยุคสมัยในปัจจุบัน อีกทั้งสภาพความอ่อนแอและจํานวนอันน้อยนิดของบรรดาพี่น้องผู้ศรัทธาที่จะร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆรวมไปถึงผู้ที่จะคอยให้ความช่วยเหลือและค้ำจุนในเร่ืองนี้ก็แทบจะเหลือน้อยเต็มที
♥ - (ในปัจจบุัน )มีการตกศาสนา หรือการผินหลังออกห่างจากศาสนามากขึ้นกว่าแต่ก่อน รวมถึงการเกิดสภาพความอ่อนแอในการเผชิญหน้ากับสิ่งล่อลวงต่าง ๆ แม้กระทั่งในหมู้นักทํางานศาสนาด้วยกันเอง ซ่ึงเป็นส่ิงท่ีสร้างความกังวลว่า ส่ิงเลวร้ายเหล่านั้น อาจจะประสบแก่บรรดาพี่น้องมสุลิมด้วย จึงต้องแสวงหาแนวทางที่จะก่อให้เกิดการยืนหยัด เพ่ือการยืนท่ี มั่นคงทั้งนี้เพื่อให้รอดพ้นจากสภาพการณ์ดังกล่าว และก้าวสู่แนวทางท่ีปลอดภัยต่อไป
♥ - ประเด็นข้างต้นนี้มีข้อเกี่ยวพันกับหัวใจ ซ่ึงท่านนบี ได้กล่าวไว้ในเร่ืองนี้ว่า
“แท้จริง หัวใจของลูกหลานอาดัมนั้น มีการพลิกผันย่ิงกว่ากาต้มนํ้าท่ีนํ้ากําลังเดือดพล่าน”
(บันทึกโดยอะหมัด 6/4 อัล-หากิม 2/289 ดู อัส-สิลสิละฮฺ อัศ-เศาะฮีหะฮฺ 1772)
ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ยังเปรียบหัวใจด้วยตัวอย่างอื่น ๆ อีก ดังท่ีท่านได้กล่าวว่า
"แท้จริงท่ีมีการเรียกช่ือหัวใจว่า “อัล-ก็อลบฺ” เน่ืองจาก(คุณลักษณะของมัน)ที่มีการพลิกผันไปมา (และ) แท้จริง อุปมาสภาพของหัวใจนั้น อุปไมยด่ังขนนกใน สนามกว้างท่ีลอยตกไปอยู่บริเวณโคนต้นไม้ เพราะลมได้ เป่าให้มันพลิกกลับไปมา”
กวีท่านหนึ่ง ได้กล่าวไว้ว่า
"ไม่มีการเรียกช่ือมนุษย์ว่า “อัล-อินสาน” นอกจาก เพราะเหตุความหลงลืมของเขา
และไม่มีการเรียกช่ือหัวใจ ว่า “อัล-ก็อลบฺ” นอกจากเพราะเหตุท่ีมันมักพลิกผันไปมาเสมอ”
ดังนั้นการทําให้หัวใจท่ีผลิกผันไปมาให้ยืนหยัดอย่างม่ันคงท่ามกลางกระแสแห่งอารมณ์อันใฝ่ต่ํารวมไปถึงส่ิงท่ี คลุมเครือทั้งหลายท่ีโหมกระหน่ํามานั้น แน่นอนว่าย่อมเป็นเร่ืองที่สุ่มเสี่ยง และต้องอาศัย เครื่องมือที่ยิ่งใหญ่เพียงพอกับความใหญ่หลวงของหน้าที่และความซับซ้อนยุ่งยากของมัน
(บันทึก โดยอะหฺมัด 4/408ดูเศาะฮีหฺ อัล-ญามิอฺ 2361)
แปลโดย : แวมูฮัมหมัดซาบรี แวยะโก๊ะ / islamhouse