รักษาระดับหลังรอมาฎอน
โดย... อ. อิมรอน สาดและ
ท่านพี่น้องที่เคารพรักทุกท่าน เดือนรอมาฏอนผ่านไป วันต่างๆที่เราได้ปฏิบัติศาสนกิจอันประเสริฐผ่านไป ค่ำคืนต่างๆที่เราได้ตักตวงผลบุญที่มากมายผ่านไป สายตาของเรา หูของเรา อวัยวะทุกส่วนของเรานั้น ได้พยายามทุ่มเทในช่วงของเดือนรอมฏอน หวังว่าพระองค์อัลเลาะห์ จะทรงรับอามั้ลของเราที่ปฏิบัติในเดือนรอมาฏอน
ท่านพี่น้องที่เคารพรัก ผู้ที่มีความอิคลาศ จริงใจต่อ อัลเลาะห์ แน่นอน เขาย่อมได้รับชัยชนะในเดือนรอมาฏอนได้รับชัยชนะคือได้รับความเมตตาจากอัลเลาะห์ ได้รับการอภัยโทษ ได้รับการปกป้องให้พ้นจากไฟนรก อัลฮัมดุลิ้ลลาห์ ขอแสดงความยินดีกับพวกเราหลายๆคน แต่อาจจะมีพวกเราบางคนที่ขาดทุนที่รอมาฏอนผ่านไปเขาได้เผลอเรอ เขาไม่ได้ทำอามั้ลอิบาดะห์ให้มากมายสมกับความสำคัญของเดือนรอมฏอน ตรงกันข้ามเขาปฏิบัติตัวเหมือนไม่ใช่รอมาฏอนก็มีให้เห็น ขอให้เราท่านทั้งหลายอย่าได้เป็นเหมือนกลุ่มชนเหล่านี้เลย
หลังจากเดือนรอมาฏอนผ่านไป หน้าที่ของผู้ศรัทธาทุกคนจะต้องรักษาระดับ ศรัทธาอีหม่านให้มั่นคง พยายามอย่าให้ระดับอีหม่านของเราที่ได้รับในช่วงของเดือนรอมาฏอนนั้นลดหย่อนลงไป เพราะเป้าหมายของการถือศีลอดนั้นพวกเราทราบดีจากผู้รู้ทั้งหลาย ที่ได้นำโองการในเรื่องของการถือศีลอดมาอธิบาย " ละอั้ลละกุมตัดตะกูน لعلكم تتقون การถือศีลอดนั้นเพื่อให้ท่านทั้งหลายมีความยำเกรง " เมื่อเดือนรอมาฏอนผ่านไป ความยำเกรงนี้จะต้องไม่ลดลงจากผู้ศรัทธา
อั้ลอิสติกอมะห์ الاستقامة ถือเป็นความสำคัญสำหรับพี่น้องผู้ศรัทธา คือการยืนหยัด มั่นคง ปฏิบัติหน้าที่ผู้เป็นบ่าวต่ออัลเลาะห์ โดยไม่ท้อถอย ไม่หย่อนยาน มีคำถามว่าแล้วเรามีวิธีปฏิบัติตัวอย่างไรให้เป็นผู้ที่มี อั้ลอิสติกอมะห์ الاستقامة มีความยืนหยัดมั่นคง ในการปฏิบัติหน้าที่ผู้เป็นบ่าวต่ออัลเลาะห์ เสมือนหนึ่งเราอยู่ในเดือนรอมาฏอน หลายคนต้องเพลี่ยงพล้ำยอมแพ้ต่อชีวิต
วิธีการที่เราจะรักษาความมั่นคงยืนหยัดต่ออัลเลาะห์ นั้นมีคำตอบมานับพันปีแล้ว วิธีการที่รักษา อั้ลอิสติกอมะห์ الاستقامة นั้นเป็นวฮีย์ที่ลงมาถึงท่านรอซูล ซึ่งท่านได้ตอบให้ผู้ที่มาถามท่านว่าจะทำอย่างไรอะไรจะเป็นตัวยารักษาอั้ลอิสติกอมะห์ الاستقامة นี้ให้มั่นคงอยู่ตลอด
ท่านรอซูล ได้ตอบว่า "กุลอามันตูบิลลาห์ قل آمنت بالله จงกล่าวว่า ฉันศรัทธาต่ออัลลอฮ์ ซุมมัสตะกิม ثم استقم หลังจากนั้น เจ้าจงยืนหยัดมั่นคง ต่อพระองค์ให้เหนียวแน่น"
ท่านพี่น้องที่เคารพรัก อีหม่านศรัทธาที่เราได้กอบโกยจนมันฝังแน่นอยู่ในหัวใจของเราในช่วงของเดือนรอมาฏอนนั้น มันเป็นอีหม่านที่มาจากส่วนลึกของหัวใจของเราจริงๆ พระองค์อัลเลาะห์ ได้ทรงตรัสว่า
"แท้จริงบรรดาผู้ที่ยืนยันในคำกล่าวของเขาที่ว่าพระผู้อภิบาลของเราคือ พระองค์อัลเลาะห์ หลังจากนั้นเขาก็ยืนหยัด มั่นคง ปฏิบัติตนเป็นบ่าวที่ดีของพระองค์อัลเลาะห์ วันที่เขาจะจากโลกดุนยา มลาอิกะห์จะลงมาหาเขาจะบอกกับเขาจะปลอบขวัญเขาว่า พวกเจ้าทั้งหลายไม่ต้องกลัว ไม่ต้องโศกเศร้าเสียใจและมลาอิกะห์ได้บอกข่าวดีด้วยสวรรค์อันบรมสุขที่พวกเจ้าทั้งหลายจะได้รับตามสัญญา"
ท่านอบูบักร์ รอดิยัลลอฮุอันฮ์ ได้กล่าวในเรื่อง อั้ลอิสติกอมะห์ الاستقامة ว่า คือคนที่ปฏิบัติมั่นคงทั้งด้านการกระทำและคำพูด การกระทำที่ปฏิบัติอย่างมั่นคงในช่วงรอมาฏอนอย่างไรเขาจะปฏิบัติตัวให้ดีอย่างนั้น คำพูดที่ใช้พูดออกมา กล่าวสิ่งต่างๆที่เป็นภาคผลในเดือนรอมาฏอน เขาจะต้องรักษาให้มั่นคงอย่างนั้น
ท่านพี่น้องที่เคารพรัก สาเหตุที่จะทำให้เรามีอั้ลอิสติกอมะห์ الاستقامة ได้นั้น นักวิชาการได้วางเงื่อนไขและสาเหตุต่างๆไว้ ๓ ประการ ดังนี้
ประการที่ ๑ نة بالله: الاستعا คือการขอความช่วยเหลือจากพระองค์อัลเลาะห์
เราจะปฏิบัติตัวให้มั่นคงในอีหม่าน ในความศรัทธา มีความยำเกรงตักวาต่อพระองค์อัลเลาะห์ ได้นั้นจะต้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์อัลเลาะห์ และเราท่านทั้งหลายจะต้องมีจิตสำนึกว่า ในช่วงเดือนรอมาฏอนที่เราได้ปฏิบัติอามั้ลอิบาดะห์อย่างแข็งขันได้ตลอดทั้งเดือนนั้นไม่ใช่ความเก่งของเราไม่ใช่ความสามารถของเราแต่เป็นอำนาจของพระองค์อัลเลาะห์ ที่ได้มอบให้กับเรา พระองค์เพียงองค์เดียวที่มีอำนาจเหนือทุกสิ่ง ดังนั้นหลังจากเดือนรอมาฏอน เรานั้นจะปฏิบัติตัวคงเส้นคงวาอยู่ได้ ก็ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากพระองค์อัลเลาะห์ หมายความว่าเราจะต้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์ ขอพระองค์ได้โปรดให้ฮิดายะห์ هدايهให้เตาฟีก توفيقให้ทางนำ ให้ความถูกต้อง ในเรื่องการทำอิบาดะห์ การตออัต ภักดี และขอให้พระองค์ ตอบรับการทำอามั้ลอิบาดะห์ของเราด้วยเถิด
การยอมรับในเดชานุภาพของพระองค์อัลเลาะห์ เป็นหน้าที่ของบ่าวทุกคน มีบ่าวหลายคนคิดว่าตัวเองมีความสามารถมีความเก่งกาจสามารถปฏิบัติตัวในเดือนรอมาฏอนได้ตลอดทั้งเดือนเพราะความสามารถในตัวเขาเอง ที่จริงแล้วมันไม่ใช่ องค์อัลเลาะห์ต่างหากที่ได้ประทาน ฮิดายะห์ เตาฟีก ให้แก่เขาดังนั้น ท่านรอซูล จึงได้กล่าวไว้ในดุอาอฺของท่านบทหนึ่ง ท่านกล่าวว่า
ولاتكلني إلى نفسي طرفة عين أبدًا {رواه أبوداود}
"โอ้อัลลอฮ์ขอพระองค์ได้โปรดอย่าให้ฉันได้มอบหมายต่อตัวของฉันเอง ว่าฉันนั้นมีความสามารถแม้เพียงกระพริบตาก็ตาม"
( รายงานโดยอบูดาวุด )
ประการที่สอง ๒ : المجاهدة คือความเพียรพยายาม มุมานะ
ท่านทั้งหลายทราบดีว่า อั้ลอิสติกอมะห์ الاستقامة คือการยืนหยัดมั่นคงในการปฏิบัติศาสนาต่อพระองค์อัลเลาะห์ นั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากเรานอนอยู่แต่ในบ้าน หรือเรามัวแต่ดูทีวี หาความเพลิดเพลินจากอบายมุขต่างๆ ยกเว้นจะต้องมี อั้ลมุยาฮาดะห์ المجاهدة มีความพากเพียร ต่อสู้ จะต้องมี อั้ลมุซาบาเราะฮ์ المثابرة ความวิริยะอุตสาหะ อั้ลมุซอบาเราะห์ المصابرة ความอดทน ดังนั้นอั้ลอิสติกอมะห์ الاستقامة จึงจะเกิดขึ้นได้ มุยาฮาดะห์ลินนัฟซี่ مجاهدةللنفس เพียรพยายามต่อสู้กับ นัฟซูจิตใจที่จะดึงเราสู่ความต่ำต้อย ที่จะให้อามั้ลของเราลดลง หรือห่างใกลการภักดีต่ออัลลอฮ์ เราจะต้องต่อสู้กับนัฟซู ต่อสู้กับอารมณ์ใฝ่ต่ำ มันจะดึงเราไปสู่ความเลวร้ายตลอดเวลา และต้องต่อสู้กับชัยตอนมารร้าย ต้องต่อสู้กับ อัลม่าลัซซ้าต คือความอร่อยในโลกดุนยา หมายถึงรสชาดของดุนยา ที่มันพยายามที่จะยั่วยุให้เรามองว่ามันเป็นสิ่งที่ดีงาม อยากให้เราปฏิบัติตามกามารมณ์ในโลกดุนยา
พอหมดเดือนรอมาฏอนแล้วสายตาของเราบางคนจะจับจ้องไปสู่สิ่งเหล่านั้น เราต้องพยายามต่อสู้ด้วยหัวใจของเรา ด้วยความอดทน อดทนต่อ ชะห์วะห์ شهوة อารมณ์ที่จะทำให้เรากลับไปสู่สิ่งที่ไม่ดีนั้น อดทนต่อ อัลมันฮิญาต المنهيات ข้อห้ามต่างๆที่อัลลอห์บัญญัติห้ามไว้ จนกระทั่งเราได้ปฏิบัติตามคำบัญชาใช้จากอัลลอห์อย่างสมบูรณ์ พระองค์อัลเลาะห์ ได้ตรัสไว้ในพระคัมภีร์อัลกุรอาน ในซูเราะห์อัลอังกาบูต
:وَالَّذِيْنَ جَاهَدُوْافِيْنَالَنَهْدِيَنَّهُمْ سُبُلَنَا وَاِنَّ اللهَ لَمَعَ الْمُحْسِنِيْنَ ( العنكبوت 69 )
"และบรรดาผู้ซึ่งที่ต่อสู้ในหนทางของเรา แน่นอนเราจะเป็นผู้ที่ชี้นำพวกเขาให้อยู่ในแนวทางต่างๆของเรา
แท้จริงอัลลอห์นั้นจะอยู่พร้อมกับผู้ประพฤติดีทั้งหลาย"
คือผู้ที่ต่อสู้ในหนทางของอัลลอห์ พยายามต่อสู้กับสิ่งเลวร้ายต่างๆ ด้วยกับหัวใจและร่างกาย อัลลอห์จะให้ฮิดายะห์ชี้ทางนำให้เขาได้อยู่ในแนวทางของพระองค์อย่างถูกต้อง และพระองค์อัลเลาะห์ จะอยู่เคียงข้างเรา คืออัลลอห์จะช่วยเหลือ และจะมอบชัยชนะให้กับเราในที่สุด ซึ่งเราจะไม่เป็นผู้แพ้ ถ้าเราใช้ความพยายาม มีอีกโองการหนึ่งใน ซูเราะห์ ซาญาดะห์
وَجَعَلْنَامِنْهُمْ اَئِمَّةًيَّهْدُوْنَ بِاَمْرِنَالَمَّاصَبَرُوْا وَكَانُوْابِآياتِنَايُوْقِنُوْنَ {السجدة 24}
"และเราได้บันดาลให้พวกเขาเหล่านั้นบางคนเป็นกลุ่มผู้นำ ซึ่งเขาจะเป็นผู้ชี้นำแนวทางในกิจการงานของเรา
ตราบเท่าที่เขาเหล่านั้นมีความซอบัร อดทนและพวกเขามั่นใจในโองการต่างๆของเรา "
ดังนั้นผู้ที่จะมาชี้นำทางที่ถูกต้องต่อพระองค์อัลเลาะห์ นั้นต้องอาศัยความซอบัรมีความอดทนที่จะเผยแผ่ศาสนา และอดทนที่จะปฏิบัติตัวเป็นตัวอย่างที่ดี อดทนที่จะถูกต่อต้านจากศัตรูที่จะมาขัดขวาง
ท่านอิหม่ามอะห์มัดอิบนิฮัมบัล حنبل أحمد بن ได้กล่าวว่า
متى يجدُالعبدُطعمَ الراحة ؟ قال : إذاوضع قدمَه في الجنة
มีผู้ถามท่านอิหม่ามอะห์มัดอิบนิฮัมบัล ว่า "เมื่อใดที่บ่าวคนหนึ่ง เขาจะได้ลิ้มรสแห่งการพักผ่อน"
ท่านอิหม่ามอะห์มัดอิบนิฮัมบัล ตอบว่า "ตราบใดที่เขาได้วางเท้าของเขาในสวนสวรรค์ วันนั้นคือวันที่เขาจะได้รับการพักผ่อนอย่างแท้จริง"
ความหมายคือ ตราบใดที่เราอยู่ในโลกดุนยา เราจะต้องขวนขวายใช้ความพยายาม แม้ว่าเราจะบอกว่า ได้พักผ่อนแล้ว แต่การพักผ่อนนี้มันไม่ใช่การพักผ่อนที่แท้จริง จะต้องต่อสู้กับหัวใจและร่างกาย ให้ผ่านดุนยาไปจนกว่าเราจะได้เหยียบเท้าบนสวรรค์ วันนั้นคือวันที่เราจะได้รับการพักผ่อนอย่างแท้จริง
ท่านอิหม่ามซาฟีอีรอฮิมาฮุลลอห์ ได้กล่าวไว้ว่า
لاينبغي للرجل ذي المروءةأن يجدطعم الراحة فإنماهوفي هذه الحياةالدنيافي نَصَبٍ حتى يلقي الله
"ไม่สมควรที่คนๆหนึ่งที่มีความกล้าหาญที่จะพบกับรสชาดของการพักผ่อน แท้จริงชีวิตของเขาที่มีอยู่ในโลกของดุนยานั้นเขาจะต้องพบแต่ความเหน็ดเหนื่อยจนกระทั่งเขาได้ไปพบกับพระองค์อัลเลาะห์ วันนั้นคือวันที่เขาจะหายเหนื่อย"
ประการที่สาม ๓ : رفقةأهلها จะต้องคบค้าสมาคมกับ อะห์ลุ้ลอิสติกอมะห์
คือเราจะรักษาอั้ลอิสติกอมะห์ الاستقامة ให้คงเส้นคงวา เราจะต้องหาพรรคพวก เพื่อนฝูง ที่เป็นผู้รักษาอั้ลอิสติกอมะห์ الاستقامة ให้มากๆไว้ เราจึงจะได้เป็นเหมือนพวกเขาเหล่านั้นด้วย นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่จะมาช่วยเหลือเรา เป็นสาเหตุใหญ่ที่จะทำให้เรารักษาระดับของการศรัทธาการปฏิบัติตัวดี คือการหาพรรคพวก เพื่อนฝูง ที่เป็นผู้รักษาอั้ลอิสติกอมะห์ الاستقامة ให้มากๆไว้ ซึ่งมีหะดิษบอกไว้
وإنمايأ كل الدئب من الغنم القاصية " แท้จริง สุนัขจิ้งจอกนั้น มันจะขย้ำกินแกะตัวที่หลงฝูง "
ความหมายคือ ให้เรารวมกันเป็นกลุ่มเป็นยะมาอะห์ ชัยตอนมารร้ายและความเลวร้ายมันไม่อาจที่จะมาเข้าใกล้ มาแทรกแซงชีวิตเราได้
รอมาฏอนผ่านไป เราท่านทั้งหลายทราบหรือไม่ว่า พระองค์อัลเลาะห์ รับอามั้ลของเราหรือไม่ พระองค์ รับการถือศีลอดของเราหรือไม่ พระองค์รับกิยามุ้ลลัยล์ของเราหรือไม่ การละหมาดตะรอเวียห์ อ่านอัลกุรอาน ขอดุอาอฺ ทำซิกรุ้ลลอห์ ซอลาวาตนบี ทำซอดาเกาะห์ต่างๆ พระองค์อัลเลาะห์ ทรงรับหรือไม่ ? มีเครื่องหมายที่พระองค์จะรับหรือไม่รับ ? เราเรียกว่า อาลามาต กอบูลิตตออะห์ علامات قبول الطاعة เครื่องหมายของการรับตออัต การภักดีนั้นอยู่ที่ไหน
อัตตออาตู้บะอ์ดะฮา คือการปฏิบัติตัวภักดีหลังจากได้กระทำการภักดีไปแล้ว ในเดือนรอมาฏอนเราเป็นผู้ที่อ่านพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานเป็นประจำ ละหมาดไม่เคยขาด สุนัตต่างๆปฏิบัติทั้งกลางวันและกลางคืน หลังรอมาฏอนมีอะไรหลงเหลืออยู่บ้าง ถ้าไม่หลงเหลือเลย เครื่องหมายของการรับอามั้ลมันหายไป แต่ถ้าการตออัตภักดียังมีหลงเหลืออยู่ในชีวิตของเรา นั่นคือเครื่องหมายที่บ่งบอกว่า พระองค์อัลเลาะห์ นั้นทรงรับอามั้ลที่ผ่านมา
มีพี่น้องหลายท่าน พอจบเดือนรอมาฏอน ไม่เคยเปิดอัลกุรอานเลย พอจบเดือนรอมาฏอน ไม่เคยละหมาดสุนัตเพิ่มเติมเลย พอจบเดือนรอมาฏอน ไม่เคยเป็นคนใจบุญสุนทานเลย แบบนี้ถือว่าเราเดินทางผิด ชีวิตของมุมินนั้น จะต้องปฏิบัติอามั้ลอิบาดะห์เป็นหน้าที่หลัก ปฏิบัติอามั้ลอิบาดะห์ต่อพระองค์อัลเลาะห์ จนกระทั่งวันที่เราจะจากโลกใบนี้ไป เพราะหน้าที่ของบ่าวก็คือการปฏิบัติอามั้ลอิบาดะห์ ต่อพระองค์อัลเลาะห์ ดังนั้นจึงขอให้เรารักษาการปฏิบัติอามั้ลอิบาดะห์ ของเราให้ตลอด إن شاء الله
ขอดุอาอฺจากอัลเลาะห์ ได้โปรดประทานให้เราได้ยืนหยัด มั่นคง อยู่ใน อั้ลอิสติกอมะห์ الاستقامة จนกระทั่งเราจะได้พบกับรอมาฏอนในปีต่อไป และตลอดชีวิตของเราด้วยเถิด
คุตบะห์ วันศุกร์ ณ มัสยิดท่าอิฐ