ต้องเริ่มต้นที่หลักความเชื่อที่ถูกต้อง
เรียบเรียงโดย อิสมาอีล กอเซ็ม
มวลการสรรเสริญเป็นเอกสิทธิ์ของอัลลอฮฺ ผู้อภิบาลแห่งสากลโลก
อิสลามที่อัลลอฮฺได้ประทานมาให้มนุษยชาติ ไม่ว่าในยุคสมัยนบีหรือรอซูลคนใดล้วนแล้วมาเรียกร้องสู่การให้เอกภาพต่ออัลลอฮฺ ระยะระหว่างท่านนบี อาดัมอะลัยอิสสลาม กับท่านนบีนัวะอะลัยอิสสลาม เป็นระยะเวลาถึงหนึ่งพันปี และได้มีการตั้งภาคีเกิดขึ้นครั้งแรกในยุคของท่านนบีนัวะ อะลัยอิสสลาม อัลลอฮฺจึงได้แต่งตั้งท่านนบีนัวะ อะลัยอิสสลาม มาเรียกร้องกลุ่มชนของท่านให้กลับสู่การให้เอกภาพต่ออัลลอฮฺ คือ การยอมรับการเป็นพระเจ้าองค์เดียวของอัลลอฮฺ และมอบการอิบาดะห์ต่อพระองค์เพียงพระองค์เดียว ไม่มีการนำสิ่งอื่นต่ออัลลอฮฺหรือนำสิ่งอื่นมาเทียบเคียงต่ออัลลอฮฺ
ดังนั้นภารกิจของบรรดารอซูลของอัลลอฮทุกยุคทุกสมัยนั้น จะทำหน้าที่อันเดียวกันก็คือ การเรียกร้องผู้คนมาสู่การศรัทธาต่ออัลลอฮเพียงพระองค์เดียว และเรียกร้องผู้คนมมาสู่การเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺเพียงพระองค์เดียว และละทิ้งการนำสิ่งอื่นมาเทียบเคียงกับอัลลอฮฺในการเคารพภักดีต่อพระองค์ ท่านนบีมูฮัมหมัด คือรอซูลคนสุดท้ายที่นำหลักการอิสลามที่สมบูรณ์แบบมาเรียกร้องประชาชาตินี้และเป็นประชาติสุดท้าย และการเรียกร้องของท่านนบีมูฮัมหมัด ก็ไม่ต่างอะไรกับการเรียกร้องของบรรดารอซูลที่มาก่อนหน้าท่าน ก็คือมาขจัดการตั้งภาคี การทำการเคารพภักดีต่อสิ่งอื่นพร้อมกับการเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ ท่านนบี ได้ใช้เวลายี่สิบสามปีในการเรียกร้องผู้คนมาสู่การให้เอกภาพต่ออัลลอฮฺ จนสามารถขจัดการบูชาเจว็ดรูปปั้นจากคาบสมุทรอาหรับ นำชาวอาหรับกลับมาสู่แนวทางอันบริสุทธิ์ที่บรรพบุรุษของเขาได้ยึดถือ แนวทางหานาฟียะห์ของท่านนบีฮิบรอฮีม แนวทางแห่งการเคารพภักดีต่ออัลลอฮเพียงพระองค์เดียว
เมื่อดูประวัติการทำการเรียกร้องผู้คนมาสู่การให้เอกภาพต่ออัลลอฮ์ ท่านนบีได้ใช้ชีวิตในมักกะห์ แต่ท่านไม่ได้พูดเกี่ยวอะไร นอกจากการพูดถึงเรื่องหลักความเชื่อที่ถูกต้องที่จะต้องเข้าใจเกี่ยวกับอัลลอฮฺ ท่านได้เรียกร้องทำความเข้าใจกับผู้คนในเรื่องการให้เอกภาพต่ออัลลอฮ เรียกร้องให้ผู้คนในมักกะห์ให้ละทิ้งการยึดพระเจ้าอื่นมาเป็นพระเจ้าร่วมกับอัลลอฮ ทำความเข้าใจให้ผู้คนได้ทราบว่า อัลลอฮฺคือพระเจ้าองค์เดียวที่ต้องเคารพภักดี พระองค์คือผู้ทรงสร้างทุกสิ่งทุกอย่าง ประทานปัจจัยยังชีพให้แก่มนุษย์ ผู้ทรงให้ชีวิต ผู้ทรงให้ตาย เมื่อเป็นเช่นนั้น พระองค์เพียงพระองค์เดียวเท่านั้นที่จะต้องทำการเคารพภักดี นี่คือความสำคัญของหลักความเชื่ออิสลาม
หากคนมีหลักความเชื่อที่ถูกต้อง เขาก็พร้อมที่จะละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่ผิดเพี้ยน และจากหลักความเชื่อที่ถูกต้องจะทำให้บรรดามุสลิมมีความเป็นเอกภาพ มีความเข้มแข็ง มีความสามัคคี ต่อให้ศัตรูอิสลามจะมากสักเพียงใดก็ไม่สามารถที่ทำลายประชาชาติอิสลามที่มีหลักความที่ถูกต้องได้ เราจะเห็นได้ว่า ชนรุ่นแรกที่นั้นพวกเขามีจำนวนน้อย แต่สามารถมีชัยชนะเหนือศัตรูที่จ้องทำลายพวกเขา และด้วยจำนวนที่น้อยของพวกเขา พวกเขาสามารถนำอิสลามให้กระจายไปในทุกๆที่บนโลกใบนี้ สร้างประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ ให้เราได้เห็นมาแล้ว
สาเหตุหลักที่ทำให้ประชาติอิสลามในยุคแรกมีความเข้มแข็ง และเป็นที่น่าเกรงขามแก่บรรดาประชาชาติอื่นๆ เนื่องจากพวกเขามีหลักความเชื่อที่ถูกต้อง แต่ปัจจุบันเราจะเห็นว่าประชาติอิสลามมีจำนวนมาก แต่มากในเชิงปริมาณ จำนวนมากที่ขาดความเป็นเอกภาพ ขาดพลังที่น่าเกรงขาม เนื่องจากประชาชาติอิสลามในปัจจุบันมีหลากหลายความเชื่อ มีกลุ่มมากมายที่พยายามพาดพิง ซึงบางกลุ่มไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับหลักความเชื่อหรือหลักปฏิบัติของอิสลามเลย ดังนั้นการที่จะนำเกียรติยศอันสูงส่งของประชาติอิสลามกลับมาอีกครั้งนั้น บรรดานักวิชาการผู้มีความรู้จะต้องเริ่มต้นในการเรียกร้องเผยแผ่ศาสนา คือ เรียกร้องผู้คนมาสู่หลักความเชื่อที่ถูกต้อง ทำความเข้าใจกับผู้คนในเรื่องของหลักความเชื่ออิสลาม และแนะนำผู้คนในสิ่งที่จะทำให้หลักความเชื่อของพวกเขาต้องเสียหาย หลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าต้องสอนความเชื่อให้แก่ผู้คนเป็นลำดับแรก
ท่านนบี ได้ส่งท่านมูอาซ บิน ญะบัลรอฎิยัลลอฮูอันฮูไปยังยะมัน เพื่อเรียกร้องพวกเขาให้รับอิสลาม ท่านนบี ได้ใช้ให้ท่านมูอาซเรียกร้องพวกเขาสู่เตาฮีดการให้เอกภาพต่ออัลลอฮฺ ดังหะดีษต่อไปนี้
عن ابن عباس رضي الله عنهما ان رسول الله صلى الله عليه وسلم لما بعث معاذ الى اليمن قال له انك تأتي قوما أهل كتاب وليكن أول ما تدعوهم اليه شهادة ألا اله الا الله فان هم أطاعوك فأعلمهم ان الله افترض عليهم خمس صلوات في اليوم والليلة...الحديث، [رواه البخاري ومسلم].
มีรายงานจาก อิบนุ อับบาสรอฎิยัลลอฮูอันฮู แท้จริงท่านรอซูลุลลอฮฺศ็อลลัลลอฮูอะลัยอิวะสัลลัม
"เมื่อท่านได้ส่งท่าน มูฮาซไปยังเมืองยะมัน โดยที่ท่านได้กล่าวกับเขาว่า(มูฮาซ) แท้จริงเจ้าจะต้องไปหากลุ่มชนหนึ่งจากกลุ่มของชาวคัมภีร์(อะลุลกิตาบ) ดังนั้นเจ้าจงเรียกร้องเชิญชวนพวกเขามาสู่การกล่าวคำปฏิญาณว่า
"ไม่มีพระเจ้าที่ถูกเคารพโดยแท้จริงนอกจากอัลลอฮฺ และแท้จริงฉันคือ รอซูลของอัลลอฮ "
หากพวกเขายอมรับต่อเจ้าในเรื่องดังกล่าว ดังนั้นเจ้าก็จงสอนพวกเขาว่า แท้จริงอัลลอฮฺได้กำหนดให้แก่พวกเขา ให้ทำการละหมาดห้าเวลาในวันกับคืนหนึ่ง..."
(อัลหะดีษ บันทึกโดย บุคอรีย์ มุสลิม)
จากหะดีษข้างต้นเราจะเห็นความสำคัญของอากีดะห์หลักความเชื่อที่ถูกต้อง จำเป็นต้องเรียกร้องผู้คนมาสู่ความเข้าใจในคำปฏิญาณทั้งสอง และหากผู้คนเข้าใจไปในทิศทางเดียวกันเหมือนกับหลักความเชื่อของท่านรอซูลุลลอฮฺและเหล่าศอหาบะห์ของท่าน แน่นอนมุสลิมต้องกลับมาเข้มแข็งเหมือนกับมุสลิมในอดีต เพราะการช่วยเหลือของอัลลอฮจะเกิดขึ้นกับบ่าวของพระองค์ที่มีหลักความเชื่อที่ถูกต้องเท่านั้น ผู้ที่ร่วมรบในสงครามบะดัรพร้อมกับท่านนบี ทั้งที่พวกเขามีจำนวนน้อบนิด แต่อัลลอฮฺได้ให้ช่วยเหลือพวกเขาก็เพราะมีเป้าหมายและหลักความเชื่ออันเดียวกัน
ปัจจุบันมุสลิมเรามีจำนวนมากแต่ก็ไม่เป็นเกรงขามแก่บรรดาผู้ที่ไม่หวังดีต่ออิสลาม เนื่องจากบรรดามุสลิมมีความผิดเพี้ยนในเรื่องหลักความเชื่อมากมาย จึงเป็นหน้าที่หลักๆ ของบรรดาผู้รู้ที่ทำหน้าที่สอนสั่งให้ความรู้แก่บรรดาผู้คนตามมัสยิด นักเรียนตามโรงเรียน นักศึกษาในมหาวิทยาลัยที่จะต้องกลับมาเอาใจใส่ในการให้ความรู้ในเรื่องหลักความเชื่อให้ได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เมื่อดวงใจทุกดวงของบรรดามุสลิมถูกหลอมให้มีหลักความเชื่ออันเดียวพลังความน่าเกรงขามของมุสลิมก็จะกลับคืนมา
สุดท้ายนี้ขอดุอาจากอัลลอฮฺได้ทรงปกป้องประชาติอิสลามให้รอดพ้นจากสิ่งไม่ดีต่างๆ และขอให้พระองค์ได้ปลดเปลื้องความทุกข์ยากแก่บรรดาพี่น้องของเราที่ได้ประสบอยู่ทั่วทุกมุมโลก