การเลือกตั้งคอลีฟะห์นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ?

 

แปลโดย อิสมาอีล กอเซ็ม


 

คำถาม

 

ประเทศอิสลามนั้นได้มีระบบอย่างไร ? และการปกครองในยุคแรกๆเป็นอย่างไร ?

 

มวลการสรรเสริญเป็นเอกสิทธิ์ของอัลลอฮ ผู้อภิบาลแห่งสากลโลก

 

คำตอบ

 

           สำหรับผู้ปกครองมุสลิม ที่ได้รับตำแหน่งและถูกคัดสรรขึ้นมานั้น ถือว่าเขาต้องแบกภาระที่ใหญ่หลวงของประเทศ เช่นเดียวกันจะต้องมีสภาที่ปรึกษาจากบรรดาผู้รู้ และผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ และไม่สมควรเลือกคนธรรมดาทั่วไปที่เป็นส่วนใหญ่ และเลือกแต่คนที่ใกล้ชิดของตัวเอง หรือบุคคลภายในพรรคของตัวเอง หรือเลือกบุคคลที่ได้รับเสียงสนับสนุนจากคนส่วนมาก

 
ท่านเชค ซอแหละห์ อิบนู เฟาซาน อัลเฟาซานขออัลลอฮฺได้ทรงปกป้องท่านได้กล่าวว่า
 

          "สำหรับอำนาจการปกครองนั้น ที่ไม่ได้เป็นอำนาจการปกครองทั่วไป จะต้องอาศัยการเลือกเฟ้นของกลุ่มคนที่เป็นระดับปัญญาชนที่มีความซื่อสัตย์ เป็นที่ไว้วางใจที่จะเลือกสรรผู้นำ เพราะว่าการคัดสรรในเรื่องการปกครองนั้นจะต้องมาจากผู้ปกครองที่ดี"
 

  อัลลอฮฺ ได้ตรัสไว้ว่า
 

: ( إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُكُمْ أَنْ تُؤَدُّوا الْأَمَانَاتِ إِلَى أَهْلِهَا وَإِذَا حَكَمْتُمْ بَيْنَ النَّاسِ أَنْ تَحْكُمُوا بِالْعَدْلِ )
 

"แท้จริงอัลลอฮฺทรงใช้พวกเจ้าให้มอบคืนบรรดาของฝากแก่เจ้าของของมัน

และเมื่อพวกเจ้าตัดสินระหว่างผู้คน พวกเจ้าก็จะต้องตัดสินด้วยความยุติธรรม"

          นี่เป็นการเรียกร้องแก่บรรดาผู้นำ คำว่า อามานะฮ์ ก็คือ อำนาจการปกครอง และตำแหน่งต่างๆในประเทศ อัลลอฮฺ ได้ทำให้ความรับผิดชอบเป็นสิทธิของผู้นำ และการมอบความรับผิดชอบนั้น ผู้ที่ทำการมอบก็คือ กลุ่มคนที่เป็นระดับปัญญาชนที่มีความซื่อสัตย์เป็นที่ไว้วางใจ เหมือนที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮูอะลัยอิวะสัลลัม และบรรดาคอลีฟะห์ของท่าน และบรรดาผู้นำมุสลิมที่มาหลังจากพวกเขา โดยที่พวกเขาได้เลือกตำแหน่งต่างๆ แก่บุคคลที่มีความเหมาะสม และเกิดขึ้นตามรูปแบบของบทบัญญัติ

          สำหรับการเลือกตั้งที่เป็นที่รู้จักกัน ในปัจจุบันนี้ในหลายๆประเทศ ไม่ถือว่าเป็นระบบอิสลาม และการเลือกตั้งระบบนี้จะนำไปสู่ความวุ่นวาย และเป็นการเข้ามาหาผลประโยชน์ของกลุ่มคนที่มีความละโมบ จนนำไปสู่ความวุ่นวายนานัปการ หรือนำไปสู่การนองเลือด และไม่ไปตามจุดประสงค์ที่วางไว้ การมุ่งกอบโกยผลประโยชน์ การซื้อขายตำแหน่ง และคำกล่าวอ้างที่ไม่เป็นความจริง

จากหนังสือพิมพ์ อัลญาซีเราะห์ ฉบับที่ ๑๑๓๕๘

การดำรงตำแหน่งของผู้นำ หรือ คอลีฟะห์ ในการเข้ามาปกครองประเทศอิสลามนั้นเกิดมาจากสามแนวทางด้วยกัน

♥ แนวทางที่หนึ่ง การเลือกสรรจากลุ่มผู้มีความรู้

 
           การเลือกสรร จากบรรดากลุ่มคนปัญญาชนที่เป็นที่ยอมรับที่มีความน่าเชื่อถือ ตัวอย่างเช่น การดำรงตำแหน่งของท่านอาบูบักรฺอัซซิดดีก โดยที่การเป็นคอลีฟะห์ของท่านเกิดมาจากการเลือกสรรของบรรดากลุ่มปัญญาชนที่เป็นแกนนำ หลักจากนั้นเหล่าศอหาบะห์ก็มีมติตรงกันและพวกเขาทั้งหมดได้ให้สัตยบันต่อท่านอาบูบักรฺ และต่างก็มีความพอใจต่อการเป็นคอลีฟะห์ของท่าน

          เช่นเดียวกัน การยืนยันในการเป็นคอลีฟะห์ของท่านอุสมาน บิน อัฟฟาน รอฎิยัลลอฮู อันฮู ท่านฮุมัร อิบนุล คอตตอบ รอฎิยัลลอฮูอันฮู ได้มีคำสั่งในการแต่งตั้งให้ท่านอุสมานเป็นคอลีฟะห์ หลังจากท่านเสียชีวิต โดยการแต่งตั้งท่านอุสมานนั้นได้ผ่านการประชุมโดยของศอหาบะห์อวุโสทั้งหกท่าน หลังจากนั้นท่านอับดุรเราะห์หมาน บิน เอาฟ์ ได้นำเรื่องที่ปรึกษาหารือมาปรึกษากับบรรดาชาวอันซอร และ มูฮาญีรีน เมื่อผู้คนทั้งหมดเห็นด้วยกับการเป็นคอลีฟะห์ของท่านอุสมาน อับดุรเราะหมาน ก็ได้ให้สัตยบันต่อท่านอุสมานเป็นคนแรก หลักจากนั้นศอหาบะห์ทั้งหกคนได้ให้สัตยบัน และชาวมูฮาญีรีน และชาวอันซอรทั้งหมดก็ได้ให้สัตยบันต่อท่านอุสมาน ดังนั้นการเป็นคอลีฟะห์ต้องได้รับการรับรองด้วยกับการเลือกจากบรรดากลุ่มคนที่เป็นแกนนำระดับปัญญาชนที่มีความซื่อสัตย์

        และเช่นเดียวกัน ท่านอาลี บิน อาบีตอลิบ รอฎิยัลลอฮูอันฮู ได้การรับรองเป็นคอลีฟะห์ขด้วยกับเลือกจากบรรดาแกนนำที่เป็นปัญญาชนที่ซื่อสัตย์

♥ แนวทางที่สอง การสั่งเสียจากผู้นำคนก่อน

          การเลือกผู้นำนั้น ด้วยกับการสั่งเสียแต่งตั้งจากผู้ดำรงตำแหน่งคอลีฟะห์คนก่อน โดยที่คอลีฟะห์คนก่อนนั้นได้มีการแต่งตั้งด้วยตัวเอง ให้ดำรงตำแหน่งหลังจากเขา ตัวอย่างในเรื่องนี้เช่น การเป็นคอลีฟะห์ของท่านอุมัร บิน ค็อตตอบรอฎิยัลลอฮูอันอู โดยมีคำสั่งการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งมาจากท่านอาบูบักรฺ อัซซิดดีก รอฎิยัลลอฮูอันฮู

♥ แนวทางที่สาม การใช้กำลังในการแย่งชิง

          การเป็นผู้นำที่ได้มาจากการใช้กำลัง หากว่าคอลีฟะห์ขึ้นมาเป็นผู้นำโดยใช้กำลังเหนือผู้คน และอำนาจได้ตกเป็นของเขา ก็จำเป็นต้องให้การเชื่อฟังและเขาก็กลายเป็นผู้นำมุสลิม ตัวอย่าง คอลีฟะห์บางคนที่ขึ้นมาโดยการใช้กองกำลังมาสู่อำนาจ ไม่ว่าจะเป็นคอลีฟะห์ในราชวงค์อูมาวียะห์ หรือ ราชวงค์อับบาซียะห์ และคอลีฟะห์อีกหลายท่านหลังจากนั้น ซึ่งมันเป็นแนวทางที่ค้านกับบทบัญญัติ เนื่องจากการได้อำนาจมาด้วยกับการใช้กำลังและการแย่งชิง 

          แต่การที่มีผู้ปกครองดูแลประชาติอิสลามจะทำให้เกิดประโยชน์มากมาย ดีกว่าการที่บ้านเมืองขาดผู้ปกครองซึ่งจะทำให้ขาดความสงบซึ่งมันจะก่อให้เกิดความเสียหายมากมาย ดังนั้นหากผู้นำคนใดขึ้นมาสู่ตำแหน่งโดยได้มาด้วยกับการใช้กำลัง ก็จำเป็นต้องให้การเชื่อฟังและปฏิบัติตาม หากผู้นำคนนั้นนำกฎหมายของอัลลอฮฺมาใช้ในการปกครอง

ท่านเชคมูฮัมหมัด บิน ซอแหละห์ อัลอุซัยมีน รอฮิมาอุลลอฮฺได้กล่าวว่า

          "หากชายคนหนึ่งออกมาแล้วได้ขึ้นสู่อำนาจการปกครอง จำเป็นที่ผู้คนต้องเชื่อฟังต่อเขา ถึงแม้การได้มาซึ่งอำนาจของเขาจะได้มาด้วยกับการใช้กำลัง โดยที่ผู้คนไม่ได้พอใจในการได้อำนาจแต่เขาได้ขึ้นสู่อำนาจการปกครองแล้ว"

         และหากมีการต่อต้านในการขึ้นสู่อำนาจ แน่นอนมันจะทำให้เกิดวุ่นวาย ซึ่งจะก่อให้เกิดความเลวร้ายมากกว่า ซึ่งการขึ้นสู่อำนาจในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นในยุคของราชวงศ์อุมาวียะห์ โดยที่เขาได้อำนาจมาโดยการใช้กำลัง แล้วก็กลายเป็นคอลีฟะห์ และได้รับการเชื่อฟัง เพื่อเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลลา 

อธิบายหนังสือ อัลอากีดะห์ หน้าที่ ๖๘๘

          หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องนี้ เพื่อให้รู้ถึงวิธีการปกครองประเทศ และการแบ่งงานในการบริหาร ให้ไปดูหนังสือ อัลอะกาม อัซซุลตอนียะห์ ของท่านอัลมาวัรดีย์ อัชชาฟีอีย์ อัลอะกามอัซซุลตอนียะห์ ของท่าน อาบีญะลา อัลฟิราฮ อัลหัมบาลีย์ และหนังสือ อัตตัรตีบ อัลอิดารียะห์ ของท่าน กิตานีย์ ซึ่งในหนังสือนั้นมีข้อมูลเพิ่มเติม

วัลลอฮูอะอลัม

ที่มา : อิสลามคำถามและคำตอบ