อันตรายของชีอะฮฺรอฟิเฎาะฮฺ (2)
  จำนวนคนเข้าชม  3699

 

อันตรายของชีอะฮฺรอฟิเฎาะฮฺ  (2)

 

ดร.อะมีน บิน อับดุลลอฮฺ อัช-ชะกอวีย์



ประการที่สาม: หลักความเชื่อที่พวกเขามีต่อบรรดาเศาะหาบะฮฺและภริยาของท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะสัลลัม


          แนวทางของกลุ่มรอฟิเฎาะฮฺวางอยู่บนพื้นฐานของการด่าทอสาปแช่ง และกล่าวหาว่าบรรดาเศาะหาบะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุม ล้วนเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธา โดยพวกเขาเชื่อว่าเศาะหาบะฮฺทั้งหมดได้กลายเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธา ยกเว้นสามท่านเท่านั้น ดังที่ อัล-กุลัยนีย์ ระบุไว้ในหนังสือ อัล-กาฟีย์ ที่พวกเขาให้การยอมรับ โดยเขากล่าวว่า

           “หลังจากที่ท่านนบี ศ็ฮลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จากไป ผู้คนทั้งหมดต่างก็สิ้นสภาพความเป็นมุสลิม (ริดดะฮฺ) ยกเว้นบุคคลสามคน คือ อัล-มิกดาด บิน อัล-อัสวัด, อบูซัรฺ อัล-ฆิฟารีย์ และสัลมาน อัล-ฟาริสีย์” (อัล-กาฟีย์ เล่ม 12 หน้า 312-322)


          และในหนังสือ มะฟาตีหฺ อัล-ญินาน (مفاتيح الجنان) ของ อับบาส อัล-กุมมีย์ ได้ระบุถึงดุอาอ์บทหนึ่งที่มีรายงานมาจากอุละมาอ์ชีอะฮฺที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นคำวิงวอนขอให้อัลลอฮฺทรงสาปแช่งท่านอบูบักรฺ, อุมัรฺ และบุตรสาวของท่านทั้งสองคือ ท่านหญิงอาอิชะฮฺ และท่านหญิงหัฟเศาะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุม โดยถือเป็นบทอัซการฺที่ควรกล่าวทุกเช้าเย็น ซึ่งมีบทขอขึ้นต้นว่า

          “โอ้อัลลอฮฺ ขอพระองค์ทรงเศาะลาวาตต่อมุหัมมัด และวงศ์วานของมุหัมมัด และขอพระองค์ทรงสาปแช่งเจว็ดทั้งสองรูปแห่งกุร็อยชฺ (หมายถึงท่านอบูบักรฺและท่านอุมัร - ผู้แปล) ผู้เป็นรูปเคารพสักการะ เป็นชัยฏอนมารร้าย และความมดเท็จบิดเบือนของชาวกุร็อยชฺ พวกเขาทั้งสองฝ่าฝืนคำบัญชาของพระองค์ และได้ปฏิเสธวะฮีย์ของพระองค์ และขอพระองค์ทรงสาปแช่งบุตรสาวของเขาทั้งสองด้วย...จนจบบท” (หน้า 114)

 

          นอกจากนี้ พวกเขายังเรียกท่านอบูบักรฺ และท่านอุมัรว่า “ฟิรเอาน์และฮามาน” (หนังสือกุรเราะตุลอุยูน โดยอัล-กาชานีย์ หน้า 432-433) บางครั้งก็เรียกว่า “ผู้บูชาเจว็ดทั้งสอง” (ตัฟสีรอัล-อัยยาชีย์ เล่ม 2 หน้า 116 และบิหารุลอันวาร หน้า 27-58) หรือ “อัล-ลาต และอัล-อุซซา” (อิกมาลุดดีน โดย อิบนุ บาบะวัยฮฺ อัล-กุมมีย์ หน้า 246 และ มุก็อดิมะฮฺ อัล-บุรฮาน โดย อบุล หะสัน อัล-อามิลีย์ หน้า 294)

 

          ผู้รู้ของชีอะฮฺบางคนถึงกับระบุว่า อัล-มะฮฺดีย์ ที่พวกเขารอคอยจะดลบันดาลให้อบูบักรฺและอุมัรฟื้นคืนชีพ จากนั้นก็จะตรึงทั้งสองไว้กับลำต้นอินทผลัม แล้วทำการสังหารทั้งสองหนึ่งพันครั้งต่อวัน! (อัล-อีกอซฺ มิน อัล-ฮัจญฺอะฮฺ โดย อัล-หุร อัล-อามิลีย์ หน้า 287) และข้าพเจ้ายังเคยได้ยินผู้รู้ของพวกเขากล่าวในเทปเสียงหนึ่งว่า

           “อบูบักรฺ, อุมัรฺ, อุษมาน บรรดาผู้ร่วมให้สัตยาบัน อัล-อะเกาบะฮฺครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สอง และเก้าจากสิบคน (หมายถึงสิบท่านที่ท่านนบีรับรองว่าจะได้สวรรค์ – ผู้แปล) ล้วนเป็นชาวนรกทั้งสิ้น”


อับดุลลอฮฺ บิน มุหัมมัด อัล-อันดะลุสีย์ กล่าวว่า

 
          รอฟิเฎาะฮฺนั้นชั่วช้าเป็นที่สุด เกินมนุษย์และญินทั้งหลาย หมิ่นนบีใส่ไคล้เศาะหาบะฮฺ ทั้งให้ร้ายอย่างไม่เป็นธรรม แสร้งรักวงศ์วานแต่ด่าทอสหาย มันช่างขัดแย้งกันเสียเหลือเกิน
 

 

อีกท่านหนึ่งกล่าวว่า

 
          จงหลีกห่างแนวรอฟิเฎาะฮฺและ บิดอะฮฺที่จะนำท่านสู่ไฟนรก แล้วจงตามบรรดาเศาะหาบะฮฺ พวกท่านคือดวงดาวส่องนำทาง จงปฏิเสธแนวทางรอฟิเฎาะฮฺ ซึ่งวางอยู่บนความปฏิเสธศรัทธา มีสองตัวเลือกเท่านั้นคือทางนำ และความหลงผิดบิดเบือน กลุ่มใดหรือที่จะรอดปลอดภัย ในวันที่อัลลอฮฺทรงตัดสินพวกที่สาปแช่งเศาะหาบะฮฺ ทั้งยังฝ่าฝืนอัลกุรอานและหะดีษ หรือผู้ที่ยึดตามแนวทางวะฮีย์ รักเศาะหาบะฮฺและวงศ์วานนบี

 


ประการที่สี่: จุดยืนของพวกเขาต่ออะฮฺลุสสุนนะฮฺ

 
          กลุ่มชีอะฮฺรอฟิเฎาะฮฺมีความเชื่อว่าทรัพย์สินและชีวิตของอะฮฺลุสสุนนะฮฺเป็นที่อนุมัติสำหรับพวกเขา ในหนังสือ อัล-อันวารฺ อัน-นุอฺมานิยะฮฺ (الأنوار النعمانية) ระบุว่า อะฮฺลุสสุนนะฮฺ คือผู้ปฏิเสธศรัทธาที่เป็นนะญิสสกปรก และชั่วร้ายน่ารังเกียจยิ่งกว่าพวกยะฮูดีย์หรือนัศรอนีย์ ด้วยความเห็นตรงกันอย่างเป็นเอกฉันท์ของอุละมาอ์ชีอะฮฺอิมามิยะฮฺ (อัล-อันวารฺ อัน-นุอฺมานิยะฮฺ ของ อัล-ญะซาอิรีย์ เล่ม 2 หน้า 206-207)

 

          ในหนังสือเล่มเดียวกันนี้ ยังระบุอีกว่า “นาศิบีย์” ซึ่งเป็นคำที่พวกเขาใช้เรียกชาวสุนนีย์นั้นอนุญาตให้ฆ่าได้ โดยพวกเขาแนะนำเชิญชวนให้ฆ่าชาวสุนนีย์ ไม่ว่าจะด้วยการทำให้จมน้ำ พังกำแพงให้ถล่มทับ หรือจะด้วยวิธีการอื่นใดที่เป็นการลับ เพื่อจะได้ไม่มีผู้ใดเป็นพยานได้ โดยพวกเขาเห็นว่าทรัพย์สินและเกียรติศักดิ์ศรีของชาวสุนนีย์นั้น เป็นที่อนุญาตให้ละเมิดได้ (ริญาล อัล-กิชชีย์ หน้า 529, ตะฮฺซีบ อัล-อะห์กาม เล่ม 1 หน้า 384 และวะสาอิล อัช-ชีอะฮฺ เล่ม 6 หน้า 340)

 

 


ประการสุดท้าย: บรรดาผู้รู้ชีอะฮฺเหล่านั้นเชื่อว่าพวกเขากับพวกเรา อะฮฺลุสสุนนะฮฺ มีพระเจ้าองค์เดียวกัน มีนบีคนเดียวกัน หรือมีผู้นำคนเดียวกันหรือไม่?
 

 

          ผู้รู้ของพวกเขาที่ชื่อ นิอฺมะตุลลอฮฺ อัล-ญะซาอิรีย์ ได้ไขข้อสงสัยนี้ไว้ในหนังสือ อัล-อันวารฺ อัน-นุอฺมานิยะฮฺ โดยกล่าวว่า 

          “ในความเป็นจริงแล้วพวกเรากับพวกเขา (อะฮฺลุสสุนนะฮฺ) มิได้มีพระเจ้าองค์เดียวกัน และมิได้มีนบี หรือผู้นำคนเดียวกันแต่อย่างใด ทั้งนี้ เพราะพวกเขากล่าวว่า พระเจ้าของพวกเขาคือผู้ที่มีมุหัมมัดเป็นนบี และมีอบูบักรฺเป็นเคาะลีฟะฮฺต่อจากท่าน ในขณะที่พวกเราไม่ศรัทธาต่อพระเจ้าหรือนบีที่มีลักษณะเช่นนี้ เพราะพวกเรามั่นใจว่าพระเจ้าที่มีอบูบักรฺเป็นเคาะลีฟะฮฺถัดจากนบี ย่อมไม่ใช้พระเจ้าของพวกเรา และนบีคนนั้นก็ไม่ใช่นบีของพวกเรา” (เล่ม 2 หน้า 278-279)

 

 

 



แปลโดย : อัสรัน นิยมเดชา / islamhouse