โอ้...หญิงสาวมุสลีมะห์ !!
  จำนวนคนเข้าชม  10151

  

  

โอ้...หญิงสาวมุสลีมะห์ !!

จงปกป้องตัวของเธอให้ห่างไกลจากไฟนรกเถิด


โดย... อุซตาซะคอดีเยาะห์ อับดุลเราะห์มาน


โอ้...หญิงสาวมุสลีมะห์ !!

          จงปกป้องตัวของเธอให้ห่างไกลจากไฟนรกเถิด เพราะแท้จริงแล้ว นรก คือ ที่สุดแห่งสถานที่ที่ชั่วช้าต่ำทราม และที่สุดแห่งการลงโทษอันแสนสาหัส ซึ่งมันถูกสร้างมาจากเหล็ก ความลึกของมันนั้นลึกมากถึงขนาดที่ว่า หากก้อนหินก้อนหนึ่งตกลงไปจากปากนรกจนกระทั่งถึงก้นบ่อจะต้องใช้ระยะเวลานานถึง 70 ปีทีเดียว

          และถ่านไฟของนรกสามารถก่อเปลวไฟอันสูงโลด ซึ่งมันจะเผาผลาญกัดกินชาวนรกอย่างน่าสยดสยองยิ่งนัก และประตูของนรกนั้นถูกสร้างมาจากถ่านไฟที่ร้อนระอุอย่างมาก และนี่คือความโกรธกริ้วของอัลลอฮ์  (อัล ญับบาร) ที่ถูกเตรียมไว้เพื่อเป็นการตอบแทนแด่บรรดาผู้ปฏิเสธ

 

โอ้...หญิงสาวมุสลีมะห์ !!

         จงปกป้องตัวของเธอให้ห่างไกลจากไฟนรกเถิด เพราะแท้จริงแล้วไม่มีความดีงามใดๆแก่ตัวของเธอเลย จากท่านหญิง ฟาติมะห์ บินตี มูฮัมหมัด และแท้จริงแล้วท่านรอซู้ล กล่าวว่า

"โอ้ ฟาติมะห์  จงปกป้องตัวของเธอให้ห่างไกลจากไฟนรกเถิด เพราะแท้จริงแล้วฉันไม่อาจลบล้างบาปแก่เธอได้ เว้นแต่อัลลอฮ์ เท่านั้น"

         ไฉนเล่า? เราผู้ซึ่งเป็นเพียงบ่าวที่อ่อนแอยิ่งนัก ผู้ที่ทำการฝ่าฝืนกฎของอัลลอฮ์ ครั้งแล้วครั้งเล่า แน่แท้มันเป็นการทำลายและสร้างความพินาศแก่ตัวของตนเอง

 

โอ้...หญิงสาวมุสลีมะห์ !!

         จงปกป้องตัวของเธอให้ห่างไกลจากการเหยียดหยามและความโดดเดี่ยวเถิด แท้จริงแล้ว ความหวาดกลัว ความโศกเศร้า ความอับอาย และการดูถูกเหยียดหยามย่อมประสบกับพวกเขา(ผู้ปฏิเสธศรัทธา) ในสภาพที่เปลือยเปล่าไร้ซึ่งเสื้อผ้าอาภรณ์ และในวันนั้นวันที่พวกเขาจะไม่มีโอกาสพูดปฏิเสธและไม่อาจแก้ไขอะไรได้อีกเลย

ท่านรอซู้ล  กล่าวว่า

"ในวันนั้น(วันกียามะฮ์)มนุษย์จะมีเหงื่อไหลอาบและมันจะไหลจนกระทั่งจรดลงสู่ชั้นดินเป็นระยะ 70 ศอก

 และมันจะมีปริมาณเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนถึงระดับหูของพากเขา"

          ดังนั้น...จงดูแลปกป้องตัวของเธอเถิด โอ้หญิงสาวมุสลีมะห์ผู้ซึ่งอ่อนแอยิ่งนัก เพราะแท้จริงแล้ว ความหวาดกลัวและความอลหม่านวุ่นวายย่อมเกิดขึ้นกับทุกคน และพวกเขาจะมีเหงื่อไหลอาบไปทั่งทั้งเรือนร่างตั้งแต่ศรีษะจรดเท้าทั้งสองข้าง และทุกๆการกระทำที่ได้ก่อไว้ได้ปรากฏอย่างชัดแจ้ง

          จงลองนึกถึงการลงโทษและความพังพินาศที่จะเกิดขึ้น และสภาพของพวกเขาในวันนั้นขณะที่อยู่ต่อหน้าอัลลอฮ์ ผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าและแผ่นดิน ในสภาพที่หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความกังวลและความหวาดกลัว และแน่นอนสภาพของพวกเขาในวันนั้นช่างดูตกต่ำยิ่งนัก

         แท้จริงแล้วในวันนั้น พวกเขาจะเข้าไปรับสมุดบันทึก(การกระทำในโลกดุนยา)ด้วยตัวของเขาเอง และแน่นอนว่าทุกๆรายละเอียดในบันทึกนั้นย่อมมีความชัดเจนยิ่งนัก และพวกเขาจะอ่านมันด้วยลิ้นของเขาเอง แท้จริงพวกเขาจะอยู่ในกลุ่มของผู้ถูกเหยียดหยาม ช่างน่าอับอายอย่างยิ่งต่ออัลลอฮ์

 

โอ้...หญิงสาวมุสลีมะห์ !!

          ผู้ซึ่งมีสติปัญญาจงปกป้องตัวของเธอให้ห่างไกลจากไฟนรกเถิด เพราะแท้จริงแล้วทุกสรรพสิ่งในโลกดุนยานั้นช่างน้อยนิดเหลือเกินหากเทียบกับโลกอาคีเราะฮ์ที่มีมากกว่าและดีกว่า ดังนั้นจงอย่าหยิ่งยโสในทรัพย์สินและความสวยงามของเธอ และชื่อเสียงวงตระกูลของเธอ

          โอ้มุสลีมะห์ที่รักสิ่งเหล่านั้นมิได้มีค่าอันใด ณ. ที่อัลลอฮ์ เลย และจงทราบเถิดว่าหนทางสู่ความสำเร็จของพวกเธอนั้น แท้จริงแล้วพระองค์ได้ทรงบัญญัติไว้แล้วอย่างชัดเจนในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานของพระองค์ และฮาดิษของท่านบีมูฮัมหมัด

         ถึงแม้ว่ามนุษย์นั้นจะมีการดำเนินชีวิตในโลกดุนยาที่สุขสบายและมั่งคั่งก็ตาม แต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องพบเจอกับการกลับไป นั่นคือ ความตาย อย่างไม่มีข้อสงสัยใดๆอีกเลย ซึ่งอาจจะป็นการกลับไปสู่สวงสวรรค์อันกว้างใหญ่ไพศาลราวกันชั้นฟ้าและแผ่นดิน หรืออาจจะเป็นการกลับไปสู่ขุมนรกอันลุกโชน


           จากอบู สะอีด อัล-คุดรีย์ กล่าวว่า : ท่านเราะซูลุลลอฮฺ ได้ออกไปที่ มุศ็อลลา ในวันอีดิลอัฏฮา หรือ อีดิลฟิฏรฺ (หลังจากละหมาดเสร็จ) ท่านก็เดินไปที่กลุ่มผู้หญิง แล้วกล่าวว่า

"โอ้บรรดาผู้หญิงทั้งหลาย พวกเธอจงบริจาคกันให้มากเถิด เพราะฉันเห็นว่าพวกเธอส่วนมากเป็นชาวนรก”

พวกนางถามว่า เพราะเหตุใดหรือ โอ้เราะสูลุลลอฮฺ ?

ท่านตอบว่า “เพราะพวกเธอชอบสาปแช่ง และเนรคุณต่อสามี"

(รายงานโดย บุคอรีย์)

 

 

 

แปลจากหนังสือ (ซิลซีลาตุดดีนูนาซีฮัต)