ความประเสริฐของการทาน สะหูรฺ
  จำนวนคนเข้าชม  7595

ความประเสริฐของการทาน สะหูรฺ


อ. อาหมัด  อัลฟารีตีย์


 
عَن أَنَسٍ بْنِ مَالِكٍ رَضِيَ اللهُ عَنْهُ قَالَ : قَالَ النَّبِيُّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : «تَسَحَّرُوا فَإِنَّ فِي السَّحُورِ بَرَكَةً». (البخاري رقم 1789، مسلم رقم 1835)

 จากท่านอะนัส อิบนุ มาลิก เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าจากท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ท่านได้กล่าวว่า

“พวกท่านจงทาน สะหูรฺ เถิด เพราะใน สะหูรฺ นั้นมีบะเราะกัต (ความประเสริฐ)” 


(รายงานโดย อัล-บุคอรีย์ เลขที่ 1789 และมุสลิม เลขที่ 1835)
 
 

คำอธิบายหะดีษ

         สะหูรฺ คือ อาหารที่ผู้ถือศีลอดทานตอนหัวรุ่งก่อนการเริ่มถือศีลอดในแต่ละวัน  ความหมายของความประเสริฐดังกล่าวในหะดีษ ก็คือ ได้รับผลบุญ ผลตอบแทน และความประเสริฐอันเนื่องจากหลายสาเหตุ ดังนี้

- เป็นการปฏิบัติตามแบบอย่างของท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม

       - เป็นการขัดแย้งกับชาวกิตาบ (ยิวและคริสเตียน) ซึ่งพวกเขาไม่ทานอาหารสะหูรฺตามที่ระบุไว้ในหะดีษที่รายงานโดยมุสลิมจากอัมร์ บิน อัล-อาศ แท้จริงท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า

 “ความแตกต่างระหว่างการถือศีลอดของเรากับชาวคัมภีร์คือ การทานสะหูรฺ”

-  สามารถประกอบอิบาดะฮฺได้อย่างขันแข็ง

-  เพิ่มความคล่องแคล่ว

- สามารถขจัดมารยาทที่ไม่ดีอันเกิดจากความหิวโหย

- จะนำไปสู่การวิงวอน (ดุอาอ์) และการซิกรุลลอฮฺ (ในช่วงที่ตื่นขึ้นมาเพื่อทานสะหูรฺ)

- ผู้ที่ลืมเนียตถือศีลอดก่อนเข้านอน ก็สามารถทำการเนียตได้ (ฟัตหุลบารีย์ 4/140)       


บทเรียนจากหะดีษ

       1. การชี้นำของท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม แก่บรรดาผู้ศรัทธาเกี่ยวกับความพร้อมในการถือศีลอด นั่นคือ ให้รับประทานอาหารสะหูรฺก่อนถึงเวลาถือศีลอด

2. สะหูรฺ เป็นชื่อหนึ่งของการรับประทานอาหารก่อนเวลาศุบหฺสำหรับผู้ที่ถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอนหรือในวันอื่นๆ

3.ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้อธิบายเกี่ยวกับอาหารสะหูรฺว่ามีความประเสริฐ ในรายงานอื่นระบุว่าสะหูรฺเป็นอาหารที่ได้รับการประทานความประเสริฐโดยอัลลอฮฺ

4.  บะเราะกะฮฺหมายถึง ผลบุญเพิ่มมากขึ้น

       5.  หุก่มของการรับประทานอาหารสะหูรฺ คือ สุนัต ผู้ที่กระทำจะได้รับผลบุญ ในรายงานอื่นมีอยู่ว่าอัลลอฮฺและบรรดามะลาอิกะฮฺจะเศาะละวาตแก่บรรดาผู้ที่รับประทานอาหารสะหูรฺ การเศาะละวาตของอัลลอฮฺนั้นก็คือ พระองค์จะทรงประทานความโปรดปรานแก่พวกเขา และการเศาะละวาตของบรรดามะลาอิกะฮฺก็คือ พวกเขาจะขอให้อัลลอฮฺทรงให้อภัยแก่พวกเขา

ดังนั้นเข้าใจว่าผู้ที่ไม่ได้รับประทานอาหารสะหูรฺจะไม่ได้รับความโปรดปรานจากอัลลอฮฺและการวิงวอนจากบรรดามะลาอิกะฮฺในเวลานั้น